ที่ประชุม กนช.ปรับแผนยุทธศาสตร์น้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง

ทำเนียบฯ 2 ก.พ.-ที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นัดแรก ปรับแผนยุทธศาสตร์น้ำจาก 10 ปี เป็น 20 ปี ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ บูรณาการโครงการจัดการน้ำทั่วประเทศ 44 โครงการ แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง มั่นใจรับมือสถานการณ์ภัยแล้งได้


พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า วันนี้ที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการ 4 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์น้ำ 2.คณะกรรมการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 3.คณะกรรมการยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ โดยปรับแผนยุทธศาสตร์ จาก 10 ปี เป็น 20 ปี และ 4.คณะกรรมการกลั่นกรองและวิเคราะห์ประเมินผล 

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณ จะมีงบประมาณประจำปีอยู่แล้วประมาณ 50,000 – 60,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2561 ได้งบประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยงบฯ ที่ได้รับ จะนำไปพัฒนาและดูแลแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและกักเก็บน้ำ ทั้งนี้ในส่วนของแผนงานและโครงการขนาดใหญ่ที่มีการจัดทำแผนในระยะ 20 ปี จะระบุแผนงานเร่งด่วนในแต่ละปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องมีการศึกษาออกแบบการลดผลกระทบในพื้นที่ โดยในที่ประชุม กนช.วันนี้ (2 ก.พ.) ได้นำเสนอโครงการขนาดใหญ่ในทุกภูมิภาค จำนวน 44 โครงการ


พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. จะเป็นหน่วยงานในการบูรณาการข้อมูลแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างครบถ้วน วางแผนบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนและภาคอุตสาหกรรม ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ ยืนยันว่า สทนช.มีแผนรองรับ และเชื่อว่าจะรับมือได้

ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติด้านการบริหารจัดการน้ำที่ดำเนินการมาใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยยังมีจุดที่เป็นปัญหา คือ น้ำอุปโภคบริโภค ที่ปัจจุบันพบว่า 256 หมู่บ้านยังมีปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่ได้รับมอบหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2562 เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาน้ำในภาคการผลิต ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ยังต้องเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ นอกจากนี้การแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งตามแผนงานของกรมเจ้าท่า และกรมโยธาธิการและผังเมือง มีมาสเตอร์แพลนไว้แล้ว ซึ่งในอนาคตจะทำงานบูรณาการกับกรมชลประทาน และจัดทำเรื่องการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ทั้งระบบ โดยปรับแผนให้กรมเจ้าท่าแก้ปัญหาเรื่องการขุดลอกแม่น้ำสายหลักภายในปี 2562 -2563 ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำยม แม่น้ำชี ส่วนพื้นที่ป่าต้นน้ำ นายกรัฐมนตรีใด้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานดูแล เนื่องจากมีงบประมาณดูแดด้านนี้อยู่แล้ว

“หลังจากนี้ สทนช.จะนำงบประมาณที่ตั้งไว้ในปีงบประมาณ 2562 จำนวน 130,000 ล้านบาท ไปปรับปรุง โดยโครงการที่ถูกนำเสนอในช่วงคณะรัฐมนตรีสัญจร จะได้รับการพิจารณาตามที่ร้องขอ เช่น กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เสนอโครงการเติมน้ำเพื่อดำเนินการในพื้นที่ทุ่งบางระกำ ซึ่งเป็นโครงการที่นายกรัฐมนตรีสนใจเป็นอย่างมาก” นายสมเกียรติ กล่าว


นายสมเกียรติ  กล่าวอีกว่า สำหรับในปี 2562-2565  สทนช.มีแผนโครงการใหม่ ๆ โดยจะดำเนินการในลักษณะแพคเกจ ซึ่งแผนงานหลัก ๆ ในภาคอีสาน คือ การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำก่ำ ที่มีปัญหาในช่วงมรสุมที่ผ่านมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเมือง จ.ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี และแม่น้ำเลย ซึ่งขณะนี้การศึกษาข้อมูลค่อนข้างพร้อมแล้วและเตรียมเดินหน้าปฎิบัติ ส่วนพื้นที่ภาคเหนือ โครงการต่าง ๆ เน้นไปที่ จ.สุโขทัย เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ใช้วิธีแก้ไขปัญหาตามแผนบริหารจัดการพื้นที่ลุ่มต่ำ ทุ่งบางระกำ รองรับน้ำจาก จ.สุโขทัย และพิษณุโลก แต่เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว จึงมีการดึงน้ำและผันน้ำ ระหว่างแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน เข้าด้วยกัน รวมถึงระบบประตูระบายน้ำ และระบบกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำยมตอนล่าง ตามที่ท้องถิ่นต้องการด้วย ซึ่งการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมดำเนินการแล้วเสร็จ กำลังดำเนินการขับเคลื่อนในปลายปี 2562

นายสมเกียรติ  กล่าวด้วยว่า ขณะที่ในพื้นที่ภาคกลาง จะเป็นการแก้ปัญหาลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งระบบ 9 แผนงาน วงเงินกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุกรรมการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่จะจัดลำดับความสำคัญ โดยยังมีโครงการขนาดใหญ่รออยู่ อาจจะเริ่มการก่อสร้างในปลายปี 2562  หรือต้นปี 2563 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการไปแล้ว ที่กำหนดปักเขตให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในการก่อสร้างโครงการระบายน้ำ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ เน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งขณะนี้มีเจ้าภาพในการดำเนินงานแล้ว 111 แห่ง เหลือเพียงทำระบบระบายน้ำตอนล่างเชื่อมกับทะเล ที่ดำเนินการไปแล้ว และจะมีโครงการครอบคลุมในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้

“อีกโครงการหนึ่งที่สำคัญ คือ โครงการแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก เน้นในพื้นที่อีอีซี โดยกรมชลประทานได้เสนอโครงการเร่งด่วนขึ้นใน 2 ปี ให้สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำในช่วง 10 ปีหลังจากนี้ไป แต่เพื่อความไม่ประมาท นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ สทนช.บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทำแผน โดยนำน้ำทุกหยดในประเทศกลับมาใช้ รวมถึงการรีไซเคิลน้ำในภาคอุตสาหกรรม” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า แผนงานที่เตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบ คือ 1.แผนแก้ไขปัญหาเมืองน้ำท่วม ที่ จ.ชัยภูมิ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เสนอทำบายพาส ผันน้ำอ้อมเมืองเป็นอันดับแรก และเป็นโครงการขนาดใหญ่ งบประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งสามารถลดปริมาณที่มาจากทางเหนือได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 2.เป็นโครงการต่อเนื่องที่จะต้องสนับสนุนการเพาะปลูกในบริเวณ อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี  โดยดึงแม่น้ำป่าสักและจากเขื่อนป่าสักมาใช้ และ 3.โครงการน้ำบาดาลและน้ำปะปา ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยจะต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่น้ำประปาหายาก โดยนำน้ำบาดาลออกมาใช้ให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]