เปิดสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “สร้างสรรค์สังคมไทยด้วยมือเรา”

รร. เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ 18 ส.ค.- ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “สร้างสรรค์สังคมไทยด้วยมือเรา” ในโครงการเด็กอวด(ทำ) ดี รุ่นที่ 3 หวัง เด็กและเยาวชนมีความรู้รักสามัคคี สำนึกความเป็นไทยเพิ่มศักยภาพผลิตสื่อที่มีคุณค่าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ


นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “สร้างสรรค์สังคมไทยด้วยมือเรา” ในโครงการเด็กอวด(ทำ) ดี รุ่นที่ 3 (ครั้งที่ 1) ณ โรงแรม เดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี ,นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกเด็กและเยาวชนในโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี พร้อมด้วยนายนพพร บุญแก้วรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานเสริมสร้างเอกลักลักษณ์ของชาติ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้บริหารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธีเปิดกิจกรรมสัมมนาฯ

นางยุพา กล่าวว่า เราตั้งเป้าว่า อยากให้เด็กและเยาวชนมีความรู้รักสามัคคี และสำนึกความเป็นไทย การจะปลูกฝังเด็กและเยาวชนเราอยากให้พวกเขาซึมซับด้วยการหาข้อมูลของตนเอง การเปิดพื้นที่ นอกจากให้ความรู้ยังเพิ่มศักยภาพของเด็กให้ผลิตสื่อ ให้เป็นนักเล่าเรื่องที่ดีนำสิ่งที่มีคุณค่าและเห็นว่าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งเด็กและเยาวชนในปัจจุบันเก่งและสามารถผลิตสื่อได้เอง จึงจำเป็นต้องปลูกฝังเรื่องค่านิยมที่ดี เป็นนักสร้างสรรค์สื่อที่ดีและปลอดภัย โดยเด็กและเยาวชนมีความกระตือรือร้น รวมถึงมีวิทยากรจากมหาวิทยาลัยรังสิต ที่จะสอนตั้งแต่วิธีการคิดการนำเสนอเรื่องราว ครีเอทีฟงานสร้างสรรค์ให้มีความน่าสนใจแต่เต็มไปด้วยสาระความรู้ เป็นอีกหนึ่งเวทีที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน


ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าในอนาคตจะเพิ่มระดับความเข้มข้น โดยเฉพาะ ปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาท เราเน้นเรื่องเทคโนโลยี แต่ต้องไม่ลืมเรื่อง สาระที่ต้องสอดแทรกเข้าไปนำเสนอผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยสำนักนายกรัฐมนตรีหากกระบวนการคิดเหล่านี้และหาแนวร่วมที่สนับสนุนงบประมาณในการผลิตสื่อที่ดีของเด็กและเยาวชน เพื่อทำให้องค์กรมีความเข้มแข็งขึ้น

“ทุกวันนี้สื่อเข้าถึงทุกคนอย่างง่ายดายแต่อยากให้สังคมมีสื่อที่ดีไปล้างสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์และไม่สร้างสรรค์ ดังนั้นโครงการเด็กอวดทำดี นอกจากเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้คิดโครงการที่ดี ได้เรียนรู้จากวิทยากร จึงเป็นสิ่งสำคัญและเราทุกคนต้องช่วยกัน พร้อมขอให้แสดงศักยภาพปล่อยของสร้างสรรค์สิ่งดีๆ และสร้างผลงานสู่สังคม” นางยุพา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี โดยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ซึ่งถือเป็นกำลังสำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของประเทศให้เจริญก้าวหน้า รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในการสืบทอดขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติ การพัฒนาศักยภาพของเด็ก ทั้งในด้านความสามารถในการเรียนรู้และคณธรรม คำนึงถึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน มีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ เป็น”คนเก่ง” ควบคู่ไปกับการเป็น “คนดี” ของสังคม จึงเห็นสมควรให้มีการดำเนินโครงการเด็กอวด (ทำ) ดี ขึ้น ซึ่งในปีนี้ เป็นการจัดดำเนินการในรุ่นที่ 3 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่มีอายุระหว่าง 15- 18 ปี ได้แสดงออกทางความคิด พัฒนาศักยภาพ เรียนรู้การทำงางานเป็นทีมผ่านการศึกษา ค้นคว้า และการปฏิบัติจริงร่วมกับบุคลากรในชุมชนหรือท้องถิ่นของตนเอง ภายใต้กรอบแนวคิด “รู้ รัก สามัคคี” เพื่อพิจารณาคัดเลือกรับรางวัล “เด็กไทยต้นแบบ” ต่อไป


โดยมีเด็กและเยาวชนทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 656 ทีม และมีคณะอนุกรรมคัดเลือกทีมที่มีคะแนนสูงสุด 120 ทีม เพื่อร่วมกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ จากนั้นจะมีการเวิร์คช็อป การฝึกปฏิบัติธรรมสื่อเพื่อเผยแพร่นำความรู้ไปจัดทำเป็นแบบเสนอโครงการ คัดเหลือ 50 ทีม ซึ่งทีมที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับเงินงบประมาณสนับสนุนเพื่อลงพื้นที่นำโครงการไปปฏิบัติจริง เป็นเวลา 4 เดือน เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท เพื่อนำผลงานที่มีความโดดเด่นสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ในการคัดเลือกมอบรางวัลเด็กไทยต้นแบบในเดือนมิถุนายน 2569

ทั้งนี้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยรังสิต กลุ่มบริษัท บีเจซี บิ๊กชี บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ กลุ่มเซ็นทรัล ที่มีส่วนในการให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย และบรรลุตามวัตถุประสงค์.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง

รัฐสภา 18 ส.ค.-“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง ยันพร้อมตรวจสอบหากส่งเรื่อง-หลักฐานร้องมา ส่วนปัญหาองค์ประชุม โยนวิปรัฐคุมเสียงปริ่มน้ำ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำทำให้ประธานต้องชิงปิดประชุมหลายครั้งเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ว่าเสียงของรัฐบาลเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะทำให้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเพื่อให้ประชุมได้ ซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ ดังนั้นหากประสานงานกันให้ดีและทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง สภาก็คงดำเนินการเดินหน้าไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็เช่นกัน หากมีการลงมติที่มีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็คิดว่าหากทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นองค์ประชุมและลงคะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการปิดประชุมก่อนเนื่องจากเสียงไม่พอนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องปิดประชุม เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งก็ต้องดูกันไป โดยในช่วงสัปดาห์ต่อไปก็มีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าแม้องค์ประชุมมาก หากสมาชิกไม่มาอยู่ในห้องประชุมให้ครบองค์ประชุมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเช่นกัน แต่ถ้าองค์ประชุมปริ่มน้ำ แต่มาครบเกินกึ่งหนึ่งก็ดำเนินการไปได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่าน มติกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดูแลสมาชิกให้เกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ให้เกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงกรณีที่มี สส.ออกมาเปิดเผยว่า มีการเสนอให้เงิน 10 กิโล เพื่อแลกกับการลงมติ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ และร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า […]

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC ทภ.2 เป็น 27 ส.ค.นี้

กทม. 18 ส.ค.-กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็นวันที่ 27 ส.ค.นี้ เตรียมนัดหารือที่ช่องสะงำ ศบ.ทก. แจ้งความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่ากองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิมวันที่ 21 ส.ค.68 เป็นวันที่ 27 ส.ค.68 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้1.วันที่ 25-26 ส.ค.68 : ประชุมกองเลขาฯ2.วันที่ 27 […]

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย