“มาริษ” ติงเพื่อนบ้านเล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง

กระทรวงการต่างประเทศ 5 ส.ค.- “มาริษ” ลั่น น่าเกลียดมาก “เขมร” ปล่อยข่าว “ไทย” ลอบสังหาร “ผู้นำกัมพูชา” บอกไม่เคยรุกราน แค่ตอบโต้อย่างเหมาะสม กางอนุสัญญาเจนีวายัน หากไม่มั่นใจ ยังคุมตัวต่อไปได้ เผย ตั้งแต่จับตัวได้ ดำเนินการเชิงรุก แจ้ง “กาชาดระหว่างประเทศ” ทราบก่อนแล้ว ติงเพื่อนบ้าน เล่นสงครามข่าวสารให้น้อยลง


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยอัปเดตการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.68) เพื่อให้คณะทูตได้รับทราบเกี่ยวกับข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราบรรยายสรุปให้แก่คณะทูตเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงถูกต้องและมีหลักฐานในทุกด้านอย่างชัดเจน ซึ่งมีคณะทูตจำนวน 75 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมรับฟัง ได้รับความสนใจและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากคณะทูต ทำให้มิตรประเทศเข้าใจบทบาทหน้าที่และการตอบโต้ในสิ่งที่ไทยถูกกระทำมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ตนเองย้ำเตือนและพูดกับมิตรทุกครั้งคือ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ใช่สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ เราเรียกร้องให้กัมพูชาใช้กลไกทวิภาคีที่มีร่วมกันมาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่ม ที่สำคัญคือไทย-กัมพูชาเป็นมิตรประเทศ เป็นสมาชิกอาเซียนและมีการตกลงทวิภาคีที่จะต้องแก้ไขปัญหาการกระทบกระทั่งทางชายแดนโดยสันติวิธีและจริงใจ สิ่งต่าง ๆ เราได้ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งได้อธิบายให้กับคณะทูตเข้าใจ


อย่างไรก็ตาม เราเป็นฝ่ายถูกละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพดินแดน จึงจำเป็นต้องปกป้องผลประโยชน์ เราไม่เคยใช้การรุกราน แต่สิ่งที่เราใช้ตลอดเวลาคือ การตอบโต้อย่างเหมาะสมและได้สัดส่วน เรามีความจริงใจและตั้งใจจริงที่จะมีการเจรจาและแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี เราได้ในสิ่งที่เราได้คือ กัมพูชาให้ความสำคัญกับการเจรจาทวิภาคีมากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีสงครามข่าวสาร ปล่อยข้อความหรือข่าวสารที่ผิดมาโดยตลอด จึงอยากให้สื่อมวลชนและประชาชนบริโภคข่าวสารอย่างดีและใช้วิจารณญาณในการพิจารณา เพราะข่าวสารที่ส่งออกมาล้วนบิดเบือน เช่น กรณีที่เมื่อเช้ามีข่าวว่าประเทศไทยจะลักลอบสังหารผู้นำกัมพูชา เป็นสิ่งที่น่าเกลียดมากเราไม่เคยถึงขนาดนั้น

เมื่อเช้านี้นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการรายงานเรื่องดังกล่าว ตนเองจึงสั่งการให้มีการตอบโต้ทันที เราไม่เคยมีความคิดประเภทนั้น เป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสหประชาชาติ ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการและเราไม่เคยทำในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามกลไก ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือกฎบัตรสหประชาชาติ

สำหรับการชี้แจงกับคณะทูตเมื่อวานนี้ เราแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงกลาโหม กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมมือกันเพื่อส่งออกข่าวสารที่ถูกต้อง มีหลักฐานชัดเจนไปยังทั่วโลก โดยใช้กลไกที่มีอยู่ โดยเฉพาะกลไกของสถานเอกอัครราชทูตทวิภาคีทั่วโลก เรารณรงค์ให้มีการแสดงความชัดเจน สถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ก็มีการจัดกิจกรรมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง


นอกจากนี้ในวันที่ 7 ส.ค.2568 ตนเองจะมีการประชุมออนไลน์กับสถานเอกอัครราชทูตทุกแห่ง เพื่อมอบหมายภาระหน้าที่ในการรณรงค์ชี้แจง มุ่งเน้นไปที่การใช้สงครามจิตวิทยาและสงครามข่าวสาร เราเองไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้น แต่ที่ผ่านมามีการใช้สงครามข่าวสารที่ปิดบังอยู่ตลอดเวลา เราจะตอบโต้ในทุกภาคส่วน ทุกระดับ ทุกเวที ทั้งพหุภาคีและทวิวิภาคีเพื่อแสดงให้เห็นว่า เรามีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา เรามีความจริงใจที่จะใช้กลไกของสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องสงครามข่าวสาร การบิดเบือนข้อมูล และการใช้เฟกนิวส์ เราได้มีการพูดคุยไปแล้วในการประชุมสมัยพิเศษอาเซียนที่มาเลเซีย โดยเรียกร้องให้กัมพูชาทำตามข้อหารือที่ได้ตกลงกันไว้

นายมาริษ ยังกล่าวถึงกรณีเชลยศึกกัมพูชาว่า เรื่องนี้รัฐบาลไทยได้ใช้มาตรการเชิงรุกมาโดยตลอดหลังจากที่เราได้พบตัวพลรบของกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในดินแดนที่ต่อสู้กัน เราได้กักตัวไว้ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เราทราบข่าว ได้ให้เอกอัครราชทูตที่เจนีวาติดต่อ การที่สำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) เดินทางมา เราจริงใจและยึดมั่นในกฎสหประชาชาติ เราจึงเข้าไปพบเขาตั้งแต่แรก แสดงให้เห็นว่าเราเปิดกว้างและแสดงความจริงใจในเรื่องที่เคารพต่ออนุสัญญาที่เกี่ยวข้อง เช่น อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 ตราบใดที่เรายังไม่มีความมั่นใจ เรายังมีสิทธิ์ควบคุมตัว

เบื้องต้นได้ส่งตัวพลรบกัมพูชากลับแล้ว 2 รายเนื่องจากมีปัญหาทางสุขภาพจิตและปัญหาด้านสุขภาพ ส่วนอื่น ๆ ได้ดูแลอย่างดีเป็นไปตามอนุสัญญาที่ไทยยึดถือ และเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ICRC จะได้เห็นว่าไทยปฏิบัติตามข้อกฎหมายระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3

สำหรับการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) วันนี้เป็นวันที่ 2 ในการหารือของระดับเลขานุการ เป้าหมายที่ต้องการเห็นคือ การหยุดยิงถาวรและมีกลไกการตรวจสอบ มีขั้นตอนในการหยุดยิงที่โปร่งใสและเป็นที่ยอมรับตามที่ได้มีการหารือกันไว้ของแม่ทัพในพื้นที่ ซึ่งมีความสำคัญเนื่องจากผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณชายแดนมีความจำเป็นและมีความรู้ดีว่าควรเจรจากันอย่างไร

เมื่อวานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียได้โทรมาหาตนเอง อยากชวนไปนั่งคุยร่วมกับฝั่งกัมพูชา ตนเองก็ยินดีและขอบคุณที่มาเลเซียได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ขณะนี้กลไก GBC มีความสำคัญที่สุด ตนเองอยากเห็นการเจรจาภายใต้กรอบ GBC ดำเนินไปได้มากที่สุด เมื่อตกลงกันได้แล้วค่อยมาพูดคุยกันเรื่องอื่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียก็เห็นพ้องกับตนเอง

ตนเองจึงได้ฝากไว้ว่า ขณะนี้หลังจากไทยได้ในสิ่งที่ต้องการกลับมีการใช้สงครามข่าวสารมากยิ่งขึ้น ฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียช่วยหาทางที่จะกำราบ ให้กัมพูชาลดทอนการใช้สงครามข่าวสารให้น้อยลง หรือไม่ควรใช้เลย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และไม่ทำให้การเจรจา GBC เป็นไปในทิศทางที่ดี

นายมาริษ กล่าวว่าวันนี้ยังให้การต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของนิวซีแลนด์ ได้มีการพูดคุยความร่วมมือระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน เพราะนิวซีแลนด์ก็มีประเด็นเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ 15% เรากำลังทำงานร่วมกับมิตรประเทศทั้งหลายที่จะหาทางลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ เพื่อรองรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เชื่อว่าความร่วมมือในลักษณะนี้โดยเฉพาะการพัฒนาซัพพลายเชน และแวลูเชน จะทำให้ไทยและนิวซีแลนด์ร่วมมือกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อผลประโยชน์ของสองประเทศ

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ไทยได้จับกุมตัวพลรบของกัมพูชา มีทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตตามแนวชายแดนเราได้เรียกร้องมาโดยตลอดให้ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาเก็บศพหรือร่างของทหารเหล่านี้กลับคืนสู่ครอบครัว เพื่อเป็นการให้เกียรติและให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของทหารและพลเรือนของทุกประเทศ เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องสื่อสาร เพื่อให้กัมพูชาเร่งดำเนินการในส่วนนี้

ในช่วงถามตอบ นายมาริษ ตอบคำถามเรื่องแผนลอบสังหารผู้นำกัมพูชาซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการประชุม GBC ซึ่งมีการประท้วงไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ส่วนแผนการฟ้องผู้นำกัมพูชาเป็นไปตามที่ ครม.สั่งการ จะมีคณะทำงานดูแลร่วมกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศขอหารือกันก่อน เรามีบทบาทในการแนะนำเรื่องกฎบัตรสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ จะต้องมีการพิจารณาให้ดี.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]