กทม. 2 ก.ค.-“ธนกร” ห่วงไทยเปิดนำเข้า 0% ให้สหรัฐ ซัดอาจซ้ำเติมเกษตรกร ชี้ข้าวโพด-หมูไทย เสี่ยงขาดทุนยับ แนะวางโควตาชัด-อัดงบช่วยเหลือก่อนกลายเป็น “สึนามิเศรษฐกิจ”
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แสดงความห่วงใยกรณีไทยเตรียมยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% ในหลายรายการ พร้อมเตือนว่าอาจสร้างผลกระทบรุนแรงต่อภาคเกษตรกรรมไทย โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และผู้เลี้ยงสุกร
นายธนกรระบุว่า แม้สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเป็น 19% ซึ่งยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับเวียดนามที่ถูกเก็บ 20% แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือ เงื่อนไขการตอบโต้ที่ไทยจะเปิดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% มากกว่า 10,000 รายการ ซึ่งในนั้นมีสินค้าการเกษตรสำคัญที่อาจกระทบภาคเกษตรของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งไทยต้องการใช้ปีละราว 10 ล้านตัน แต่ผลิตได้เพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือมักนำเข้าจากเพื่อนบ้านอย่างลาวและเมียนมา หากเปิดให้นำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 0% โดยไม่มีกรอบหรือโควตาชัดเจน อาจทำให้ราคาข้าวโพดในประเทศตกต่ำจนเกษตรกรไทยกว่า 420,000 รายเดือดร้อนหนัก
นายธนกร กล่าวอีกว่า ในประเด็นเนื้อหมู ไทยมีผู้เลี้ยงสุกรมากกว่า 100,000 ราย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อหมูราคาต่ำจากสหรัฐ หากไม่มีมาตรการคุ้มครองและกำหนดปริมาณนำเข้าอย่างเข้มงวด อย่าลืมว่าเกษตรกรไทยมีต้นทุนสูงกว่าสหรัฐฯ อย่างชัดเจน ถ้าเปิดนำเข้าเสรีแบบไม่ระวัง มันจะไม่ใช่แค่ผลกระทบรายบุคคล แต่มันจะลุกลามเป็นวิกฤตในภาคเกษตร กระทบทั้งห่วงโซ่ผลิตอาหาร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ จึงเสนอให้รัฐบาล วางกรอบการเปิดนำเข้าให้ชัดเจนด้วยระบบโควต้า พร้อมจัดทำ แนวปฏิบัติที่รัดกุมและเร่งรัดการเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบ โดยใช้งบกลางปี 2569 และงบฉุกเฉินอย่างเหมาะสม ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
“ผมขอเตือนว่าถ้าเราเปิดภาษี 0% แบบไร้ทิศทาง ยุทธศาสตร์ และมาตรการป้องกันผลกระทบอย่างรอบคอบ มันจะกลายเป็น สึนามิเศรษฐกิจซัดซ้ำประชาชนและภาคเกษตรกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวดีจากโควิด–เงินเฟ้อ เราไม่ควรยอมให้วิกฤตนี้ลุกลามไปมากกว่านี้” นายธนกร กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย