เร่งบริหารจัดการมวลน้ำพายุ “วิภา” ระบายลงสู่เจ้าพระยา

ทำเนียบ 30 ก.ค.- “ประเสริฐ”​ สั่งการ​ ทุกหน่วยงานเร่งบริหารจัดการมวลน้ำจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” เร่งจัดการจราจรน้ำเพื่อระบายลงสู่เจ้าพระยา ย้ำ ต้องให้การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชนกลับสู่ปกติโดยเร็ว


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในลุ่มน้ำต่าง ๆ ของภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระหว่างวันที่ 21 – 28 กรกฎาคม 2568 โดยมีปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 โดยในพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน มีฝนตกถึง 400 มิลลิเมตร (มม.) พื้นที่ลุ่มน้ำยม อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา 306 มม.
ลุ่มน้ำโขงเหนือ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 217 มม. และลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ 86 มม.

รัฐบาลมีความห่วงใยต่อประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ทั้ง 4 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกและลุ่มน้ำบางปะกง ณ จังหวัดระยอง ลุ่มน้ำโขงเหนือ ณ จังหวัดเชียงราย ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดหนองคาย และลุ่มน้ำยม – น่าน ณ จังหวัดสุโขทัย เพื่อบริหารจราจรน้ำข้ามลุ่มน้ำและข้ามจังหวัด รวมถึงการแจ้งเตือนภัยและการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายในภาวะวิกฤติ เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด


โดยหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ได้ประสานความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งการเตรียมพร้อมและสนับสนุนเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ฯลฯ เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เช่น ถนน สะพาน ฯลฯ พร้อมทั้งจัดเรียงกระสอบทรายและกระสอบทรายขนาดใหญ่ (Big Bag) เป็นแนวกั้นป้องกันน้ำท่วมในจุดเสี่ยง นอกจากนี้ ได้ดำเนินการอพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดูแลครอบคลุมทั้งการดำรงชีพ การแพทย์และสาธารณสุข และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยจัดตั้งโรงครัวพระราชทานและโรงครัวประกอบเลี้ยง อีกทั้งได้จัดเตรียมอุปกรณ์กู้ภัย เช่น เรือยนต์ เรือท้องแบน เจ็ทสกี โดรน อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ฯลฯ และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองอาสารักษาดินแดน ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการสัญจรผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง และติดตั้งสะพานเบลีย์เพื่อเป็นเส้นทางสัญจรชั่วคราวด้วย
          
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย แพร่ และสุโขทัย ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จังหวัดน่านเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุดของประเทศ โดยบริเวณตำบลยอด อำเภอสองแคว มีฝนสะสมมากกว่า 500 มม. แต่ขณะนี้ระดับน้ำกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องและเข้าสู่ระยะฟื้นฟูแล้ว เช่นเดียวกับจังหวัดแพร่ที่สถานการณ์กำลังคลี่คลายลงตามลำดับ ในส่วนของจังหวัดเชียงราย ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในพื้นที่มากกว่า 100 มม. ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเพิ่มสูงขึ้นเกินระดับตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากฝั่งเมียนมาโดยตรง ทำให้เกิดภาวะน้ำล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ปัจจุบันระดับน้ำยังคงทรงตัว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้านจังหวัดสุโขทัยยังมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในบางจุด ซึ่งได้สั่งการให้มีการควบคุมมวลน้ำจากภาคเหนือลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนนเรศวร เพื่อเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำยมเข้าสู่แม่น้ำน่าน และควบคุมระดับน้ำไม่ให้ล้นตลิ่งในตัวเมืองสุโขทัย รวมทั้งเสริมแนวป้องกันน้ำในเขตเศรษฐกิจและ
จุดเสี่ยงซ้ำซาก และเปิดบานประตูระบายน้ำทุกจุดเต็มศักยภาพ อีกทั้งได้เตรียมพร้อมพื้นที่ทุ่งบางระกำซึ่งใช้หน่วงน้ำได้ถึง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์ทั้ง 4 จังหวัดดังกล่าวจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสิ้นเดือนนี้ และสถานการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พบว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน บริเวณจังหวัดตาก โดยเฉพาะที่ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด ปริมาณฝนสูงสุด 98 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเมยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเอ่อล้นตลิ่งในหลายจุด เกิดอุทกภัยในพื้นที่สำคัญของอำเภอแม่สอด ได้แก่ ตลาดริมเมย บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 บ้านห้วยม่วง หมู่ที่ 6 และบ้านแม่ตาว หมู่ที่ 1 จากรายงานระดับน้ำแม่น้ำเมยที่จุดตรวจวัดบ้านห้วยแล้ง หมู่ที่ 10 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ ว่าอยู่ในระดับสูงกว่าตลิ่งถึง 3.60 เมตร แม้มีแนวโน้มลดลง หน่วยงานในพื้นที่ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากไม่มีฝนตกเพิ่มในระยะ 1–2 วันนี้ คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงภายใน 3-5 วัน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้สั่งการให้บูรณาการบริหารจัดการในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจในจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงให้ประสานการบริหารระดับน้ำกับพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไปจนถึงเขื่อนพระรามหกและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับน้ำฝนระลอกใหม่ในเดือนสิงหาคม – กันยายน และลดความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเขื่อนน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว ได้เพิ่มการระบายน้ำอย่างฉับพลัน จาก 2,500 เป็น 4,500 ลบ.ม. ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 0.5 – 1 เมตร โดยให้เตรียมแผนรับมือและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งด้านการแจ้งเตือนล่วงหน้า การอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และการสนับสนุนทรัพยากรฉุกเฉินเพื่อให้สามารถลดผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบริหารจัดการสถานการณ์ร่วมกันอย่างเข้มแข็งตลอดช่วงฤดูฝนปีนี้ และขอยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาและเยียวยา
ผู้ได้รับผลกระทบในทุกพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์และข่าวสารผ่านช่องทาง ได้แก่ Application และ Website  “Nation Thai Water”, LINE “ไทยคู่ฟ้า” และ ช่องทางแชท Facebook ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งเปิดให้สอบถามและติดตามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน “ปภ.เตือนภัย” ที่โทรศัพท์หมายเลข 1748


ส่วนจะต้องมีการเตรียมการรับมือพายุลูกใหม่ในช่วงฤดูฝนหรือไม่นายประเสริฐ​ กล่าวว่า ขณะนี้ก็อยู่ในช่วงฤดูฝนอยู่แล้ว ต้องเฝ้าระวังอยู่ตลอด และยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีพายุลูกใหม่ๆเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่ก็มีการเตรียมมาตรการต่างๆ ไว้รอรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]