โจรยกเค้าบ้านเพื่อน โดดน้ำเจ้าพระยาหนีตำรวจ

กทม. 4 ม.ค.-ตำรวจล้อมจับโจร ก่อเหตุยกเค้าบ้านเพื่อน เจ้าตัวโดดเจ้าพระยาหวังว่ายน้ำหนี ทั้งที่ยังใส่กุญแจมือ สุดท้ายหมดแรง ลอยคอเข้าฝั่งเอง

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มกราคม 68 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ในซอยนาวงพัฒนา 10 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่ามีคนร้ายเข้ามายกเค้าเอาทรัพย์สินภายในบ้านไปจนหมด หลังทราบเรื่องทาง พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 67 เจ้าของบ้านได้พบกับนายจตุรงค์ หรือเบล ผู้ก่อเหตุ ที่หน้าบ้าน นายเบล บอกว่าเป็นเพื่อนลูกชาย และมานอนเป็นเพื่อน โดยมีลูกชายผู้เสียหายออกมายืนยันว่าเป็นเพื่อนที่มานอนด้วยจริง ทำให้ตอนนั้นไม่ได้มีการตรวจสอบทรัพย์สิน


ต่อมาในวันที่ 21 ธ.ค. เวลาประมาณเที่ยงคืน มีเพื่อนบ้านโทรบอกเจ้าของบ้าน ว่ามีรถเก๋งเข้ามาขนของที่บ้าน เมื่อมาถึงก็ไม่พบใครแล้ว จากนั้นเจ้าของบ้านได้ทำการตรวจสอบ พบทรัพย์สินได้หายไปหลายรายการ มูลค่ารวมกว่า 3 แสนบาท ซึ่งเจ้าของบ้าน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นเพื่อนลูกชาย จึงได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

กระทั่งมีการสืบสวนทราบว่านายจตุรงค์ หรือเบล พักอยู่ที่ห้องพักแห่งหนึ่งใน ซอยบงกช 45 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ ก็พบรถที่ใช้ก่อเหตุ ภายในรถมีทรัพย์สินที่ขโมยมาเต็มคันรถ เมื่อขึ้นไปตรวจสอบบนห้องพัก ก็พบตัวนายจตุรงค์ พร้อมของกลางอีกส่วนหนึ่งในห้องพัก เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นของที่เอามาจากบ้านผู้เสียหายจริง จึงได้คุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ดอนเมือง


เมื่อทำการขยายผล ก็ยอมรับว่ายังมีทรัพย์สินอีกบางส่วนเก็บไว้บริเวณชุมชนใกล้วัดโพธิ์ทองบน พื้นที่นนทบุรี ซึ่งระหว่างกำลังจะเดินไปทำการตรวจค้น นายจตุรงค์ ได้ฉวยโอกาสสะบัดตัวหนีจากการควบคุมของทางเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ยังใส่กุญแจมือ กระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาไป แล้วว่ายลอยคออยู่ในแม่น้ำ

เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และเรือของเทศบาลนครปากเกร็ดร่วมสนับสนุน ซึ่งในระหว่างนั้น ตัวนายจตุรงค์ เริ่มมีท่าทีอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงได้บอกให้ลอยคอเข้าไปยังบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เมื่อขึ้นมาได้ นายจตุรงค์ กลับวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าหญ้า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาค้นหาประมาณ 45 นาทีก่อนจะพบตัว และนำตัวมาสอบสวนต่อที่สน.ดอนเมือง

สอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับว่าได้นำทรัพย์สินที่ได้มาไปขายแล้วบางส่วน แต่ไม่ได้เป็นการลักขโมยมา แต่ลูกชายเจ้าของบ้านได้นำมาแลกกับเหล้า และเข้าไปขนทรัพย์สินออกมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยนำทรัพย์สินไปขายตามตลาดมืด เมื่อได้เงินมาก็จะซื้อเหล้ามาให้ลูกชายผู้เสียหายดื่มกินกัน ส่วนเรื่องที่กระโดดน้ำหนีตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าจะหนีอย่างเดียว พร้อมกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ด้วย


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่า “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นทราบว่า ช่วงวัยรุ่นเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด