รัฐสภา 29 ก.ค.- วุฒิสภา ยืนไว้อาลัยต่อ ‘ปชช.-ทหาร’ ที่เสียชีวิต จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน เป็นเวลา 1 นาที ก่อน ‘สว.’ ถกลับญัตติด่วนด้วยวาจา หารือ ‘เยียวยาความเดือดร้อนเสียหาย’ เพื่อมีมติส่งข้อสังเกต-ข้อเสนอแนะ ไปยัง ‘รัฐบาล’
การประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 7 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง วันนี้ (29 ก.ค.) มีพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นวาระหารือของสมาชิก
โดยพลเอกเกรียงไกร ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในนามวุฒิสภา จึงขอเชิญสมาชิกทุกท่านได้โปรดยืนขึ้น เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อประชาชน และทหาร ที่เสียชีวิต จากสถานการณ์ความไม่สงบเป็นเวลา 1 นาที
จากนั้น พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา สว. ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภา ปรึกษาเรื่องด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และการเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และมีมติส่งข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลต่อไป
ต่อมา นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว สว. ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเช่นเดียวกันว่า ตนในฐานะที่เป็น สว.จากจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา และจากการที่ได้ลงพื้นที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน จึงขอให้วุฒิสภา พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ นายพละวัต ตันศิริ สว. ลุกขึ้นกล่าวว่า ในหัวข้อที่มีการเสนอญัตติตนเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สุดที่จะต้องมีการอภิปราย แต่ตนเป็นห่วงว่า สว.หลายท่านอาจจะอดใจไม่ได้ ที่จะมีการพาดพิงถึงประเทศเพื่อนบ้าน และอาจมีผลกระทบ ดังนั้น จึงขอเสนอว่า เพื่อให้ได้หัวข้ออย่างครอบคลุมชัดเจนสามารถประชุมกันได้อย่างเต็มที่ ขอให้มีการประชุมลับ
ด้าน นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แย้งว่า การประชุมเรื่องนี้ ควรเป็นการประชุมโดยเปิดเผย เพราะในเรื่องข้อมูลข่าวสาร สว.บางท่าน อาจมีข้อมูลน้อยกว่าข้างนอกด้วยซ้ำไป หากเป็นการประชุมลับ จะไม่เกิดผลดีอะไรเลย เพราะเราต้องการระดมความคิดเห็นจาก สว.จังหวัดต่างๆ จึงเพียงขอให้ สว.ระมัดระวังข้อมูล ในประเด็นที่ไม่แน่ใจที่มาของแหล่งข้อมูล ไม่ต้องพูดให้เกิดความเสียหาย เพราะประชาชนข้างนอกจะไม่ทราบว่า วุฒิสภาทำอะไรอยู่ รวมทั้งจะมีการถามคำถามเดิมว่า มีวุฒิสภาไว้ทำไม พร้อมกันนี้ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สว. ยังได้แสดงความเห็นด้วยกับ นพ.เปรมศักดิ์
พลเอกเกรียงไกร จึงขอให้ที่ประชุมรวมญัตติสองเรื่องไว้พร้อมกัน ซึ่งนายวิวัฒน์ ยินดีให้รวม แต่ขออภิปรายเป็นคนรองสุดท้าย ก่อนที่พลเอกสวัสดิ์จะเป็นผู้สรุปญัตติ ทำให้ พลเอกเกรียงไกร ถามมติต่อที่ประชุมว่า จะให้มีการประชุมลับหรือไม่ ซึ่งต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด หรือคือ 50 เสียง
ผลปรากฎว่า มีจำนวนผู้แสดงตน 93 เสียง ถือว่าที่ประชุมร้องขอให้เป็นการประชุมลับ.-312 -สำนักข่าวไทย