“สุรเดช” ปลื้ม มทภ.2 เด็ดขาด ไม่ยอมให้ใครละเมิดอธิปไตยไทย

กทม. 21 ก.ค.- “สุรเดช” กระทุ้งกต. แถลงขอกัมพูชาช่วยเก็บทุ่นระเบิด ไม่รู้ช่วยเก็บหรือเพิ่ม ซัดผู้นำไม่น่าเชื่อถือ ถึงเปลี่ยนคนใหม่ แต่ยังพรรคเดิม ประชาชนก็แคลงใจ พร้อมให้กำลังใจทหารหาญแนวหน้า ปลื้มแม่ทัพภาค 2 เด็ดขาด ไม่ยอมให้ใครละเมิดอธิปไตยไทย


นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ในนามส่วนตัวถึงการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาประณามการลอบวางทุ่นระเบิด ขณะเดียวกันกลับขอให้ทางการไทยและกัมพูชา ช่วยกันเก็บกู้ระเบิด ว่า ความคิดเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ตนมองว่า เป็นเรื่องแปลก เพราะถ้ากัมพูชา เป็นคนวาง และเราขอให้เขามาช่วยเก็บกู้ระเบิด ตนก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการเก็บกู้ หรือมาวางเพิ่ม ตนคิดว่าการเจรจาแบบนี้ไม่เป็นผลดี เราต้องตรวจสอบพื้นที่ของเราเอง เราไว้ใจใครไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทางที่ดีที่สุด คือ ทหารเราจะต้องตรวจสอบเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าการดำเนินการของรัฐบาลช้าเกินไปหรือไม่ นายสุรเดช กล่าวว่า ช้ามาก และช้ามาตลอดก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงช้าอย่างนี้ โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ เพราะปกติจะต้องมีแอ็คชั่นตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะต้องมีการแจ้งประเทศพันธมิตร ต้องอธิบายว่าเราไม่ได้ไปรังแกเขา มีแต่เขาที่เข้ามาละเมิดอธิปไตยของเรา ซึ่งเราก็ต้องป้องกันอธิปไตยของเรา ถ้ามีเรื่องอะไรที่ขัดแย้งกันเป็นรายวัน ก็ต้องบอก หรืออัปเดตให้ประเทศอื่นๆ ทราบ เพราะถ้าต่อไปหากมีการปะทะกัน ประเทศอื่นๆ จะได้เข้าใจว่าเราไม่เคยไปรังแกใครก่อน เราเพียงป้องกันตัวเอง


เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นลูกชายนายทหาร อยากให้กำลังใจทหารไทยอย่างไรบ้าง นายสุรเดช กล่าวว่าตน อยากให้กำลังใจทหารหาญของประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีความเด็ดขาด และรักษากฎเกณฑ์ กติกาดีมาก ไม่ให้มีการละเมิดอธิปไตยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้ามีความจำเป็นที่เราจะต้องปกป้องอธิปไตยถึงขนาดจะต้องปะทะกัน ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่เราจะต้องให้ทั้งโลกรู้ว่าเหตุการณ์นี้ เราไม่ได้เริ่มก่อน แต่มันเกิดจากฝั่งกัมพูชาชัดเจน และศาลโลกเราก็ไม่เคยยอมรับตั้งแต่สมัยปราสาทเขาพระวิหารมาแล้ว เพราะฉะนั้น กัมพูชาจะไปศาลโลก หรือศาลไหน ก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา แต่กระทรวงการต่างประเทศของเรา ต้องทำงานให้ดี และมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ จึงอยากฝากไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งสังกัดพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำรัฐบาล ควรจะดูตรงนี้ด้วย

“ที่ผ่านมา ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกัมพูชา จึงใช้แผนที่ 1/200,000 เพราะเท่าที่ทราบเวลากัมพูชาไปดีลกับทางประเทศเวียดนาม ก็ใช้แผนที่ 1/50,000 ซึ่งก็เหมือนของไทยที่ใช้ 1/50,000 แล้วกัมพูชาไปเอามาจากไหน ที่ใช้ 1/200,000 กับประเทศไทย ประวัติศาสตร์ในอดีตเราก็ชัดเจนว่าปราสาทตาเมือนธม หรือปราสาทตาควาย อยู่ในแผ่นดินไทยมาตั้งแต่อดีต เพราะฉะนั้นก็น่าจะเป็นหลักฐานที่ชัดเจน เหมือนที่ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ได้เคยพูดไว้เหมือนกันว่าต้องนำหลักฐานออกมาแสดงให้ชัด” นายสุรเดช กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะไม่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยกับนายฮุนเซนอีกแล้ว เพราะกลัวถูกอัดคลิป นายสุรเดช กล่าวว่า ความคิดเห็นส่วนตัว ตนมองว่า การเจรจาเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการเจรจาไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ หากใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปเจรจา และทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งในระดับประเทศแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวใด ที่สำคัญกว่าเรื่องของประเทศชาติ และตนเห็นว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวนี่แหล่ะ ที่ทำให้นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ที่ไปเรียกอังเคิล


“ความเห็นส่วนตัวในฐานะที่ผมก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ผมคิดว่าขณะนี้ผู้นำเรา ไม่น่าเชื่อถือแล้ว ต่อให้เปลี่ยนผู้นำใหม่ เป็นนายชัยเกษม นิติสิริ ก็ยังคงเป็นคนของพรรคเดิม ประชาชนก็ยังคงแคลงใจอยู่ดี และยิ่งนายทักษิณ ยิ่งไม่เกี่ยวใหญ่ นายทักษิณ เป็นใคร มีตำแหน่งอะไร ปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดทางการเมือง และไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการเจรจา หากจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเจรจาเรื่องดังกล่าวอาจไม่ถูกต้อง เพราะควรเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองที่จะไปว่ากัน การพูดของนายทักษิณ ที่ระบุว่าจะไม่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยกับนายฮุนเซนอีกแล้ว อาจจะเป็นการพูดที่ยิ่งตอกย้ำตัวเอง ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัว”นายสุรเดช กล่าว

เมื่อถามว่ามองว่าถ้ายังเป็นรัฐบาลชุดนี้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาคงแก้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายสุรเดช กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัว ตนคิดว่าคงแก้ได้ยาก มันต้องเปลี่ยนผู้นำเป็นของพรรคอื่น จากพรรคไหนก็แล้วแต่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ขณะนี้มีการทะเลาะกันขนาดนี้แล้ว ตนอยากเสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ เอ็มโอยู 44 ไปเลย เป็นการเอาวิกฤต เป็นโอกาส แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]