“รังสิมันต์” เตรียมถกปัญหาใน กมธ.มั่นคงฯ ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิง

รัฐสภา 17ก.ค.-“รังสิมันต์” เตรียมถกปัญหาใน กมธ.มั่นคงฯ ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิง หาข้อยุติและปฏิบัติได้จริง มองหากเริ่มจัดการไทยได้ประโยชน์ ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขออย่าเอาคำสอนผิดๆ มาดิสเครดิตกัน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะ กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ และการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วยตัวแทนจาก คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน, คณะกรรมาธิการการแรงงาน, คณะกรรมาธิการกิจการเด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศและคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติมูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน เครือข่ายเพื่อนสันติภาพกะเหรี่ยง เพื่อส่งข้อเสนอ และข้อมูล ให้พิจารณาเกี่ยวกับผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราวชายแดนไทย-เมียนมา


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ประเด็นหลักสำคัญเป็นในเรื่องของผู้หนีภัยการสู้รบโดยเฉพาะในพื้นที่ที่พักพิงชั่วคราว บริเวณชายแดนไปกัมพูชา หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ของสหรัฐฯ ได้เกิดผลกระทบอย่างมากในเรื่องของการดูแลผู้หนีภัย การสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราว ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวอยู่กันมานานแล้วมากกว่า 3 ทศวรรษ ถึงต้องยอมรับว่าเมื่อมีการตัดงบประมาณในการสนับสนุนก็จะเกิดข้อกังวลหลายประการในเรื่องของการดูแลการจัดการมีข้อกังวล ไปถึงขั้นว่าคนเหล่านี้จะไม่สามารถอยู่ในพื้นที่พักพิงได้อีกต่อไป

ดังนั้น คณะกรรมาธิการความมั่นคงและ คณะกรรมาธิการอื่นๆ ที่มารับหนังสือในวันนี้ จึงรับหนังสือจากตัวแทนที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคประชาสังคมที่มีการทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งในวันนี้กรรมาธิการความมั่นคงจะมีการพิจารณาในเรื่องนี้โดยไม่มีการเชิญสภาความมั่นคงแห่งชาติ, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงแรงงาน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ด้วยซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การพิจารณาครั้งแรกเราเคยมีการพิจารณาทำนองนี้มาก่อนหน้านี้แล้วและทำรายงานการศึกษามาแล้ว ซึ่งหลังจากทำข้อเสนอต่างๆส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีการประชุมต่อ ให้เกิดเป็นแนวทางที่ยุติและปฏิบัติได้จริง


ตัวแทนภาคประชาสังคม กล่าวว่า การบริหารจัดการเพื่อจัด ระเบียบการเปลี่ยนผ่านจากเงื่อนไขการพึ่งพาเดิม จึงมีความจำเป็น ที่จะนำข้อเสนอ และการศึกษา มาให้ช่วยพิจารณาและผลักดันให้เกิดขึ้นจริงต่อไป 1. รัฐบาลไทยควรอนุมัติโครงการนำร่องเพื่อจัดระเบียบการออกมาทำงานของผู้หนีภัยการสู้รบในขอบเขตพื้นที่ชายแดนโดยเร่งด่วน 2 รูปแบบการจัดการควรมาจากการปรึกษาหารือระหว่างรัฐกับนายจ้างองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นองค์กรมนุษยธรรมและภาคประชาสังคมผู้ลี้ภัยในแต่ละท้องถิ่น เพื่อปรับปรุงรูปแบบและสามารถนำไปสู่การขยายพื้นที่ต่อไปได้ในอนาคต 3. ให้ผู้หนีภัยเข้าถึงโอกาสการเป็นแรงงานได้จริงโดยระบบการจ้างงานจะต้องมีขั้นตอนน้อยที่สุดและไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำบัตรประจำตัวกับใบอนุญาตทำงานจากผู้หนีภัยการสู้รบ 4 รัฐบาลควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยในพื้นที่พักพิงทุกแห่ง 5 รัฐบาลควรประสานความร่วมมือกับ unhcr เพื่อสำรวจคัดกรองทำฐานข้อมูลทางทะเบียนให้แก่ผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นประชากรแฝงต่อไป

“เราไม่ควรนำเรื่องนี้ไว้ใต้พรมอีกต่อไป คณะกรรมาธิการความมั่นคงเคยได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ ของพื้นที่พักพิงและรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องจัดการสักที ที่ผ่านมาผลักดันให้ไปอยู่ในประเทศที่ 3 แต่ข้อมูลประชากรในพื้นที่มีจำนวนมาก คนบางกลุ่มอาศัยเรื่องนี้เพื่อมาดิสเครดิต วันนี้ภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นต่อประเทศไทยที่มาจากต่างชาติยืนยันว่าไม่ใช่คนจากกลุ่มนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีเลยดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังและการจัดการครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์แน่นอนแต่การจัดการนี้จะเป็นการจัดการที่นำไปสู่ การที่ทำให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด ยืนยันผลประโยชน์ของชาติ ผลประโยชน์ของประชาชนที่หนีภัยการสู้รบสามารถไปร่วมกันได้ไม่จำเป็นต้องทิ้งใครหรือต้องผลักไสใครไปทั้งสิ้น อย่าเอาประเด็น ที่ถูกสอนกันมาผิดๆมาใช้ในการโจมตีหรือดิสเครดิตเลย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ทั้งนี้ กรอบในการหารือหลักๆ ถึงต้องพูดกันตรงๆว่าจะดำเนินการอย่างไร เงินจากภาคเอกชน NGO ทั้งหลายถูกตัดออกไปแล้ว จึงต้องดำเนินการที่จะจัดการรวมไปถึงข้อเสนอข้อเรียกร้อง ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันมาตั้งนานแล้ว มีรายงานออกไปแล้วบางส่วนก็สำเร็จ เช่นการให้สัญชาติ กับกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ในส่วนของผู้หนีภัยการสู้รบ ยังไม่มีความชัดเจนจากทางรัฐบาล ดังนั้น วันนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วอยู่ที่การลงมือ.-319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]