รัฐสภา 24 มิ.ย.-“อลงกต” ชี้วุฒิสภาไม่สนหน้าตา ครม.ชุดใหม่ บอกเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ระบุจะแก้ปัญหาชายแดนได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำสั่งการ ย้ำควรปิดด่านถาวรแสดงความมีศักดิ์ศรี
นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า สิ่งที่ทาง สว.ไม่ได้ใส่ใจหรือสงสัยกับหน้าตาว่าจะหล่อไม่หล่อ สวยไม่สวย ดีหรือไม่ดี แต่สิ่งที่เราต้องใส่ใจคือการปล่อยคลิปเสียงนั้น ปล่อยมาเพื่ออะไร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิปคือรัฐมนตรีลาออก เริ่มเกิดความไม่เสถียรภาพในระบบการเมืองไทยแล้ว นี่คือสิ่งที่พญาละแวกสอง ต้องการใช่หรือไม่ อีกทั้งเริ่มมีการออกมาข่มขู่แล้วว่าหากใครเห็นต่างจะมีการสั่งเก็บ
“ถามว่า ครม.จะมีหน้าตาแบบไหนก็แล้วแต่ ทาง สว.คงไม่ได้สนใจภาพรวมตรงนั้น เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งที่เรามีข้อสังเกตคือ นี่คือระเบิดที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิประหว่างที่มีการเปลี่ยน ครม.” นายอลงกต กล่าว
นายอลงกต กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเราควรตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตน และควรที่จะมีการปิดด่านถาวร ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้มีการสอบถามกับทางด้านกระทรวงการคลัง ระหว่างการส่งสินค้าไปที่ประเทศกัมพูชากับสินค้าที่ประเทศกัมพูชาส่งกลับมามายังประเทศไทย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าของเราส่งไปมากกว่า โดยสิ่งที่เราส่งไปคือน้ำมันกับเครื่องอุปโภคบริโภค แต่สิ่งที่เขาส่งมาคือพวกมันสำปะหลัง มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท แต่มูลค่าที่เราส่งไปอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท ถ้าถามว่าเราอยู่ได้หรือไม่ ขอยืนยันว่าเราอยู่ได้ และเราสามารถหาลูกค้าคนอื่นได้
นายอลงกต กล่าวต่อว่า ซึ่งการปิดด่านสามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่างรวมถึงเป็นการกดดันว่าเรา มีศักดิ์ศรี มีเอกราชของเรา ทำไมเราต้องยอม แต่หากทางพญาละแวกสอง ยังมีปฏิกิริยาเช่นนี้ และยังดึงดันอยู่ ตนก็เห็นว่าให้ตัด สัมพันธ์ทางการทูตได้เลย พร้อมย้ำว่าถ้าเราปิดด่าน เราอยู่ได้ แต่จะเป็นปัญหาของทางกัมพูชา เพื่อความเป็นเอกราช ความเป็นอธิปไตยสำคัญกว่าอย่างอื่น ฉะนั้นในเรื่องของการปรับ ครม. ไม่ใช่สาระสำคัญที่ สว. จะไปเกี่ยวข้องหรือมีข้อกังวลเพราะเขาเป็นฝ่ายบริหาร เราให้เกียรติกับฝ่ายบริหาร
เมื่อถามว่า หน้าตาของครม.ชุดใหม่จะสามารถไปแก้ไขปัญหาปัญหาชายแดนได้หรือไม่ นายอลงกต ระบุว่า จะแก้ปัญหาได้ไม่ได้ อยู่ที่ผู้นำจะสั่ง ทางด้านรัฐมนตรีเป็นรอง ส่วนตัวตัวละครสำคัญที่จะแก้ปัญหาในขณะนี้ คือแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงการจัดการในพื้นที่ในพื้นที่ตะเข็บชายแดนคือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต้องรอดูบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนต่อไปว่าสามารถที่จะรับลูกดำเนิน หรือดำเนินการคู่ขนานกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้หรือไม่
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ซึ่งนโยบายต่างประเทศก็เป็นสิ่งที่เราต้องกังวลกันใช่หรือไม่ และรัฐมนตรีคนอื่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญแล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร
ถามต่อว่าการรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ต่อคลิปเสียงสนทนาที่หลุดออกมา ซึ่งไม่ได้มีการลาออกแต่ยังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อจะส่งผลให้กระแสสังคมที่เกิดความไม่พอใจ เช่น กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ที่มีการนัดชุมนุม 28 มิ.ย.68 นายอลงกต กล่าวว่า เป็นเรื่องของสังคมแต่ในส่วนของ สว. เราได้มีการลงชื่อถอดถอนนายกฯ แล้ว ซึ่งอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยออกมาอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย