พรรคภูมิใจไทย 27 พ.ค.- “อนุทิน” ลั่นฟ้องด้วยภาพ สัมพันธ์ “ทักษิณ” ดี เย้ยไม่ได้แค่ยืนข้าง แต่กอดเลย ยันทำงานร่วมกันได้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวให้แยกออกไป เรื่องส่วนรวมสำคัญกว่าเยอะ ปัดคุยการเมือง “ทักษิณ” เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่งานปาฐกถาพิเศษยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ต่อการแก้ไขปัญหา อย่างยั่งยืน ได้มีการพูดคุยประเด็นทางการเมืองกันหรือไม่ ว่า ไม่มี ไม่มีเลย ไปฟังท่านปาฐกถา ซึ่งตนได้รับเชิญมาเมื่อเช้านี้ และเราก็ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของประเทศ ที่ทุกหน่วยงานต้องให้ความร่วมมือ แต่จริงๆ ทุกหน่วยงานก็ร่วมมือกันอยู่แล้ว และกระทรวงมหาดไทยก็ดำเนินการเอกซเรย์ทุกพื้นที่ เรื่องนี้เราทำอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถึงขั้นจะต้องประกาศนโยบายปราบสงครามกับยาเสพติด ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการฆ่าตัดตอนเหมือนในอดีตด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ถึงขั้นร้องเฮ้ย! ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และที่ผ่านมาก็จับได้ทุกรายโดยใช้วิธีการตามกฎหมาย แต่ปัญหาคือแหล่งผลิตอยู่นอกประเทศไทย เราใช้วิธีการทางการทูตหรือถ้าเค้าขอความร่วมมือมาไปช่วยดำเนินการปราบปรามแหล่งผลิต ก็ต้องใช้วิธีการที่เป็นอารยะ เราไม่สามารถที่จะบุกเข้าไปได้
เมื่อถามว่าวันนี้ มีความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย แต่พอถึงเวลานายอนุทินยืนข้างนายทักษิณ ถือเป็นการสยบความขัดแย้งนั้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีความขัดแย้งจริง ตนเองจะไม่สามารถรับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรีได้ ทุกวันนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งการแม้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม ด้วยความเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศไทย ดังนั้น การทำงานไม่สามารถที่จะพิสูจน์ด้วยภาพ แต่ มันคือการทำงานด้วยกันอย่างเต็มที่ “วันนี้ไม่ได้แค่ยืนติดกันแต่ ท่านยังกอดผมด้วย”
เมื่อถามว่าเห็นยืนแทรกกลางระหว่างพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กับนายทักษิณ ชินวัตร มีนัยทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่มีอะไรทุกคนทำหน้าที่ ถ้ามันมีอะไร ตนจะไปร่วมประชุม กระทรวง ยุติธรรม ได้อย่างไร งานคืองานนะครับ บางทีผู้สื่อข่าวไปรับข้อมูลจากไหนมา นักวิเคราะห์วิจารณ์ก็วิจารณ์กันไป แต่วันนี้ฟ้องด้วยภาพของการทำงานร่วมกัน เพื่อประเทศและประชาชน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดไม่มีทางทะเลาะกันได้ ทะเลาะกันเมื่อไหร่คนเดือดร้อนคือประชาชน ถึงขนาดนี้แล้ว เราไม่เห็นอะไรสำคัญนอกจากประชาชน ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ต้องแยกออกไป เรื่องส่วนรวมสำคัญกว่าเยอะ” .-สำนักข่าวไทย