รัฐสภา 27 พ.ค. -“สว.กอบ” แถลงจวก DSI ไม่ทำหน้าที่ ปล่อย “ณฐพร” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ลอยนวล ย้ำไม่มีฮั้ว บี้กกต.เรียกสว.สำรองสอบคดีฮั้วด้วย ยันไม่จำเป็นต้องเลื่อนวาระเลือกป.ป.ช.เพราะกม. ให้มีอำนาจ แม้ที่มาผิดไม่ส่งผลเป็นโมฆะ ด้าน “สว.ฉัตรวรรษ” เตรียมส่งข้อมูลเข้า ป.ป.ช.เพิ่ม
พันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชรคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา 2 สว.แถลงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องฮั้ว สว.
โดยพันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีการนำกฎหมายมาหาประโยชน์ ทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขณะนี้มีการกล่าวหาฝ่ายนิติบัญญัติ คือ สว. ซึ่งเป็นองค์กร หน่วยงานที่ใช้กฎหมายแทนพี่น้องประชาชน ว่ากระทำการฮั้วการเลือกตั้ง ได้มาโดยมิชอบ ตนในฐานะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม จึงขอแถลง ให้ทราบว่า วุฒิสมาชิกชุดปัจจุบันชุดที่ 13 ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ เราปฏิบัติตาม กฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสว. และระเบียบข้อบังคับเงื่อนไขที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนด ได้รับการรับรองตามกฎหมาย รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญและข้อบังคับในการประชุม ดังนั้นการที่กล่าวหาว่ามีการฮั้วสว. เป็นการใช้ถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรนิติบัญญัติของรัฐ โดยคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่สำนึกนำพาในการที่จะเคารพกฎเกณฑ์กติกา ในการปกครองของบ้านเมือง พยายามสร้างให้วิกฤตให้ประเทศ อย่างน้อยผู้ที่มีหน้าที่ทำตามกฎหมาย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่สำคัญ หน่วยงานหนึ่ง มีหน้าที่ทำกฎหมายตามกรอบที่กฎหมายกำหนดแต่ไม่ทำ กลับไปทำตามกฎหมายนอกกรอบตัวเอง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานอื่น ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 2547 มีเจตนารมณ์เพื่อให้พนักงานสอบสวน ในกรมสอบสวนคดีพิเศษปฏิบัติหน้าที่เป็นกลางเพื่อให้เกิดความยุติธรรม ต่อหน่วยงานองค์กร และพี่น้องประชาชน แต่กลับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขณะนี้ได้มีการกล่าวหาวุฒิสมาชิก ว่ามีการฮั้วการเลือกตั้ง จนเกิดความเข้าใจว่าสว.ไม่สุจริต จึงอยากบอกว่า การใช้กฎหมายที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรนี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบ โดยพันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่าขณะนี้มีประเด็นถึงขนาดจะให้สว. ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเมื่อวานตนได้รับเอกสารเชิญ จากประธานคณะกรรมการไต่ส่วนกลางคณะที่ 26 ของกกต. ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา 4 มิถุนายน ซึ่งจะไป ขณะที่มีองค์ประกอบของพนักงาน DSI มาร่วมด้วย และก่อนหน้านั้น DSI ได้พยายามก้าวล่วงเข้ามาในเขตอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งในคดีเกี่ยวกับกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งจะต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.แต่เพียงผู้เดียว แต่ปรากฏว่า DSI พยายามโยงเรื่องนี้ให้เป็นการเมืองจะดำเนินคดีกับสมาชิกวุฒิสภาในข้อหาฟอกเงิน พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดความวุ่นวาย ในขณะที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ นายณฐพร โตประยูร แต่กลับไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ซึ่งทราบว่าขณะนี้มีหนังสือจากสำนักงานอัยการอย่างน้อย 2 ฉบับ ให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดส่งตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินไปให้พนักงานอัยการดำเนินคดี แต่DSI กลับละเลยไม่ดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้อัยการดำเนินคดีทั้งที่ผู้ต้องหาคนนั้นลอยนวลแถลงข่าวกล่าวหาองค์กรต่างๆว่าเป็นผู้ต้องหา เป็นผู้กระทำผิด แม้กระทั่งเดินต่อหน้าDSI ก็ทำเป็นมองไม่เห็น
พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า อยากให้สังคมวิเคราะห์ข่าวสารว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้กฎหมายตรงไปตรงมาหรือไม่ อยากบอกว่าการไม่เคารพกฎหมายทำลายกระบวนการยุติธรรมก็คือการทำลายความมั่นคงของชาติ
สำหรับกรณีที่นายณฐพรเป็นผู้ต้องหามีคดีติดตัวจะส่งผลให้เรื่องที่ยื่นไว้เป็นโมฆะหรือไม่ พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับDSI จะพิจารณา และเราคงจะยื่นเรื่องตามช่องทางที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจและหน้าที่ ที่ให้สว.ไว้โดยการยื่นผ่านองค์กรอิสระ
พันตำรวจเอก กอบ ยังฝากไปยัง กกต. ต้องแจ้งข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วนเพราะหลักการแจ้งข้อกล่าวหาใช้หลักการเดียวกับประมวลกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อให้ผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาสามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ถูกต้อง ถ้าใช้เพียงการแจ้งพฤติการณ์ ว่าไปร่วมจัดทำโพย ถือว่าไม่มีพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ เป็นการแจ้งลอยๆ ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการหลงต่อสู้ ไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา และท่านจะต้องรับผิดชอบเพราะเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อถามว่านอกจากยื่นให้ สว. ยุติปฏิบัติหน้าที่แล้วยังมีการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยนั้น พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา ส่วนเราเป็นองค์การที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนประชาชน
เมื่อถามว่า สว.สำรองปล่อยคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการฮั้วเลือกตั้งที่จังหวัดนครพนมได้ฟังแล้วหรือไม่ พันตำรวจเอก กอบ ปฏิเสธไม่ทราบเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล ตนจะพูดในแง่กฎหมายว่า กกต. มีหน้าที่สอบสวนให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม ดังนั้นต้องทำทุกอย่างอย่างมีเหตุและผล หากพบว่า มีการกระทำความผิดในเขตเลือกตั้ง จะต้องดำเนินคดี ดังนั้นถ้า สว. สำรองเป็นผู้สมัคร และสว.ก็เป็นผู้สมัคร การที่ กกต. ไม่ใช้ดุลยพินิจเรียก สว.สำรองมาให้ข้อมูลแสดงว่า กกต. เลือกปฏิบัติ
เมื่อถามว่าการเล่นเกมปล่อยคลิปเสียงเช่นนี้จะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของ สว. หรือไม่ พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ความจริงก็คือความจริง
เมื่อถามว่าการเรียกร้องให้ตรวจสอบ สว.กลุ่มสำรอง เป็นการประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่ากระบวนการเลือกสว. ทั้งหมดน่าจะมีการทุจริตทั้งกระบวนการ พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า ไม่มีคำว่าฮั้ว เพราะฮั้วใช้กับการประมูล แต่ สว. ไม่ใช่วัตถุสิ่งของแต่เป็นคนมีชีวิต
ส่วนที่มีการเรียกร้องเลื่อนวาระการเลือกกรรมการ ป.ป.ช.ในสมัยวิสามัญออกไปก่อน พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้ามีกฎหมายทำได้เลย แต่ถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจก็ทำไม่ได้
เมื่อถามว่าได้ประเมินผลกระทบหรือไม่หากมีการเลือกกรรมการในองค์กรอิสระไปแล้ว ก่อนจะชี้ว่าที่มาของ สว.ไม่ถูกต้องจะทำให้การเลือกดังกล่าวเป็นโมฆะหรือไม่ พันตำรวจเอก กอบ กล่าวว่า มันอยู่ที่คน เพราะกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังว่าอะไรที่ทำโดยสุจริตไม่มีทางผิดกฎหมาย ซึ่งคำว่าสุจริตหมายถึงทำดี คำว่าทุจริตหมายถึงทำชั่ว
พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ กล่าวว่าได้ยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบ DSI ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2568 ให้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.เพราะมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว จึงอยากฝากบอกสื่อมวลชนว่าเรื่องที่ควรทำมีอำนาจไม่ควรทำไปทำเรื่องไม่มีอำนาจ เช่นเรื่องฟอกเงินที่ปล่อยผู้ต้องหาลอยนวล ซึ่งจะหมดอายุความวันที่ 15 มิถุนายน แต่ DSI ไม่เร่งดำเนินการกลับปล่อยให้ผู้ต้องหาไปลอยนวลแถลงข่าวให้สว.เสียหาย ซึ่งเรื่องนี้อัยการสูงสุดออกหมายมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ให้ติดตามตัวและออกหมายจับ จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม ได้เรียกไปอีกแต่ อธิบดีDSIกลับไม่ดำเนินการ ซึ่งถ้าป.ป.ช.เรียกตนไปไต่สวนเพิ่มเติมในคดีที่เคยยื่นไว้ จะนำประเด็นนี้เข้าไปเพิ่มเติมด้วย.-319 -สำนักข่าวไทย