ผู้นำฝ่ายค้านฯ เปิดเวทีเสวนา ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’

ขอนแก่น 14 พ.ค.-ผู้นำฝ่ายค้านฯ เปิดเวทีเสวนา ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’ มองไทยเหมือนผู้ป่วยโควิดเรื้อรังยังไม่ฟื้นตัว ชี้หากรัฐบาล ยังดำเนินนโยบายตามเดิม แม้แจกเงินหมื่น ก็ไม่ช่วยอะไร เหตุถ้าไม่ผลักดัน เศรษฐกิจในภาคอีสานที่เคยพึ่งพาได้ ในอนาคตจะหมุนกลายมาเป็นดาวดับ เชื่อต้องอุดรอยรั่วทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย

วันที่ 14 พ.ค. 2568 ที่จังหวัดขอนแก่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาในเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ครั้งที่ 4 หัวข้อ ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’


โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคอีสาน และแนวทางรับมือต่อความท้าทายของสงครามการค้าโลก จากหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ นักวิชาการ และประชาชน เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปผลักดันสู่การแก้ไข ตามกระบวนการนิติบัญญัติ

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจภาคอีสานเหมือนคนติดโควิดเรื้อรัง ไม่ฟื้นตัว และยังมาเจอสงครามการค้าอีก หากเราดูเส้นกราฟ ในขณะนี้ เรากลับมาฟื้นตัวใกล้กับช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้ว แต่หากเทียบกับประเทศอื่นทุกคนขยายตัวมากกว่าเรา เราเติบโตช้ากว่าเขา และยังเติบโตช้ากว่าการเติบโตของตัวเองด้วยซ้ำ


ปัจจัยที่จะส่งผล หรือคือเรื่องเงินในกระเป๋า ทั้งการบริโภคและการส่งออก การลงทุน การท่องเที่ยว แต่ในภาคอีสานยังมีความหวังอยู่ในบางสาขาด้านเศรษฐกิจ สำหรับผลผลิตด้านการเกษตร แม้ว่าในการผลิตมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ราคาของพืชหลักยังคงมีความผันผวนมาก ทำให้คาดว่า อาจส่งผลต่อดัชนีรายได้เกษตรกรลดลง

ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ในภาคอีสานก็ยังไม่มีการฟื้นตัวจากกำลังซื้อในประเทศที่จำกัด รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนในการค้าโลก และหลังปี 68 มีจุดตัดของ เส้นการผลิต และเส้นการบริโภค ยิ่งขยายห่างออกจากการเรื่อยๆ กล่าวคือ แม้เราจะมีเงินในกระเป๋า ถ้ารัฐบาลแจกดิจิทัลวอลเล็ตเงินหมื่น ตัวเลขบริโภคสูงขึ้น แต่ตัวเลขจีดีพีทางด้านการผลิตต่ำลง เพราาะการซื้อสินค้าราคาถูกที่รับมาจากต่างประเทศ

“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไป วิธีการที่เราดำเนินนโยบายแบบเดิม การแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ในแง่หนึ่งการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่า วิธีการอย่างนี้ ไม่สามารถสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้อีกต่อไป เพราะบริบทโลกเปลี่ยนไปแล้ว” นายณัฐพงษ์


นายณัฐพงษ์ ยังย้ำถึงข้อเสนอ 5 เสา ในการต่อรองเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา เจรจา-กระชับ-รับมือ-เยียวยา-ลงทุน ที่สื่อสารมาตลอด

และได้แบ่งพื้นที่ภาคอีสานเป็น 4 พื้นที่ ซึ่งสัดส่วนเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และเกษตร มีความเข้มข้นมาก มีทั้งส่วนที่เป็นดาวรุ่ง คือความเข้มข้นน้อย ขนาดเศรษฐกิจเหล่านี้ ยังไม่ได้เป็นสัดส่วนใหญ่ แต่กำลังมีการเติบโต เพื่อใหญ่ และเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ มีพื้นที่ที่เป็นดาวเหนือ มีความเข้มข้น และการเติบโตสูง

ส่วนพื้นที่ดาวค้างฟ้า ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ แต่ไม่มีการเติบโตแล้ว เนื่องจากอิ่มตัว ขยายต่อไปไม่ได้ หากมองในภาพรวม จะเห็นว่า เศรษฐกิจในภาคอีสานที่เราเคยพึ่งพา ในอนาคต จะหมุนกลายมาเป็นดาวดับ สุดท้ายจะกลายเป็นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมที่โลกลืม รวมถึงภาคการเกษตร ถ้าเราไม่ได้เพิ่มภาคการผลิต ก็แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ดังนั้น เราต้องอ่านข้อมูลให้ออกว่า ในปัจจุบัน อะไรคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องส่งเสริม

โดยภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ ภาคอีสานขาดเครื่องจักรทางเศรษฐกิจ ขาดสาขาเศรษฐกิจที่เข้มข้นและโตไว แต่มีดาวรุ่งโตไวที่ยังไม่เข้มข้นหลายสาขา

ขณะที่ ด้านธุรกิจสร้างสรรค์ ใน 8 จังหวัดอีสาน รวมแล้ว มีธุรกิจสร้างสรรค์กว่า 4 แสนแห่ง อาทิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุดรธานี ศรีสะเกษ สกลนคร และเลย อีกทั้งสาขาศิลปะ และบันเทิง ซึ่งทุกจังหวัดในภาคอีสาน เติบโตเร็วกว่า ค่าเฉลี่ยของประเทศ

ขณะที่ตัวเลขล่าสุดในปี 2568 การท่องเที่ยว โดยเฉพาะ ‘ท่องเที่ยวสายมู’ เพิ่มขึ้น เริ่มมีโอกาสและศักยภาพมากขึ้น ในเรื่องโรงแรม และร้านอาหาร แต่ด้านที่ควรส่งเสริม คืออีสานยังตามหลังในสาขาสารสนเทศ และการสื่อสารมาก

นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า ปัญหาสำคัญ คือปัญหาเศรษฐกิจ ในฐานะฝ่ายค้านให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการอุดรอยรั่ว หากเปรียบประเทศเป็นเรือที่มีกัปตัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้แล้ว คือทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเราเดินหน้าต่อต้านอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะอยู่ในภาคการเมือง ภาครัฐ ระบบราชการ หรือภาคเอกชน

จากนั้น เข้าสู่เวทีเสวนา ‘เศรษฐกิจอีสานในสงครามการค้าโลก’ โดยวิทยากรจากพรรคประชาชน ได้แก่ นายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น, นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น, นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น และนางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]