มท. ลุย 18 โครงการบำบัดทุกข์-บำรุงสุข

มท. 10 พ.ค.-“ไตรศุลี” เผย มท. ลุย 18 โครงการบำบัดทุกข์-บำรุงสุข ครอบคลุมทุกกิจกรรมการใช้ชีวิตของประชาชน เพิ่มรายได้ – ลดรายจ่าย อำนวยความสะดวกบริการภาครัฐ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่ได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนกรุงเทพมหานคร จัดทำโครงการที่เป็นประโยชน์ ช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระอย่างยั่งยืน เป็นของขวัญมอบต่อพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้ต่อเนื่องตั้งแต่เทศกาลปีใหม่และเดือนอื่น ๆ ตลอดปี สำนักนโยบายและแผน (สนผ.) สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานให้ทราบถึงผลการดำเนินโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข 18 โครงการ ณ มีนาคม 2568


ประกอบไปด้วย โครงการบำบัดทุกข์ 6 โครงการ และบำรุงสุข 12 โครงการ ที่ครอบคลุมทุกกิจกรรมการใช้ชีวิตพี่น้องประชาชน ทั้งการรับบริการไฟฟ้า การติดมิเตอร์ประปา การส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ การเพิ่มรายได้ – ลดรายจ่าย การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการภาครัฐ รวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของโครงการบำบัดทุกข์พี่น้องประชาชน 6 โครงการ มีความคืบหน้าดังนี้


1)มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย (สถ.) ประชาชนมาใช้บริการสถานธนานุบาล ของ อปท. ทั้ง 263 แห่ง สะสม 176,891 ราย ใช้เงินทุนรับจำนำ สะสมรวม 608,801,915 บาท สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายค่าดอกเบี้ยได้ จำนวน 3,044,009.58 บาท

2)โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนโดยทุนชุมชน (พช.) มีการจัดกิจกรรมศูนย์จัดการกองทุนชุมชนบริหารจัดการหนี้ “สำนึกดี แผนดี บริหารหนี้ได้” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกับการสร้างวินัยทางการเงิน การจัดการหนี้ การส่งเสริมอาชีพ มีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรม 10,000 คน

3)มหาดไทย เติมน้ำ เติมสุข คลายแล้ง (ปภ.) สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยสูบน้ำไปกักเก็บในแหล่งน้ำในพื้นที่ 18 จังหวัดท่วมแล้งซ้ำซาก รวม 7,383,792 ลูกบาศก์เมตร พร้อมเจาะบ่อดินน้ำตื้นจำนวน 25 บ่อ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 8,760 ครัวเรือน


4)มหาดไทย อุ่นใจ สวมหมวกนิรภัย ปลอดภัยทุกคน (ปภ.) โดยมีหน่วยงานเครือข่ายสนับสนุนหมวกนิรภัย จำนวน 200 ใบ ส่งมอบเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์เรียบร้อยแล้ว

5)ประชาชนสุขใจ ค่าไฟยืดชำระ (กฟน.) ขยายระยะเวลาการงดจ่ายค่าไฟฟ้า รอบบิล ระหว่างวันที่ 14 ก.พ. – 13 มี.ค. 68 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่มีค่าไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาท/เดือน สามารถลดค่าใช้จ่ายครัวเรือนในพื้นที่บริการ กฟน. ได้ 816,220 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ได้รับประโยชน์รวมทั้งสิ้น 1,742,358 ราย

6)โครงการยกระดับความปลอดภัยให้น้อง (กฟภ.) โดยดำเนินการสำรวจตู้น้ำดื่มภายในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุกโรงเรียน รวม 28,000 โรงเรียน พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยตู้น้ำดื่มแล้ว 650 ตู้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนโครงการเพื่อบำรุงสุขพี่น้องประชาชน 12 โครงการ มีความคืบหน้า ดังนี้

7)โครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียมภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียมยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย” (ปค.) โดยในระหว่างวันที่ 23 ม.ค. – 26 มี.ค. 68 มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสแล้ว 77,717 คู่ แบ่งเป็น การสมรส ชาย – หญิง 64,502 คู่ การสมรส ชาย – ชาย 3,233 คู่ และการสมรสหญิง – หญิง 9,982 คู่

8)การขอหนังสือรับรองราคาประเมินง่าย ๆ ด้วย Smartphone “Easy life by e-Lands self service” (ทด.) โดยมีผู้ยื่นคำขอรับหนังสือรับรองราคาประเมินทุนทรัพย์ ผ่านแอปพลิเคชันแล้ว จำนวน 350 คำขอ

9)โครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเชิงพาณิชย์ “OTOP CONNEXT: ยกระดับภูมิปัญญา ก้าวหน้าสู่ NEXT MARKET” (พช.) มียอดจำหน่ายระหว่างวันที่ 15 ต.ค. 67 – 14 ก.พ. 68 สร้างรายได้ให้กว่า 106 ล้านบาท นอกจากนี้ แคมเปญ “OTOP TRENDY : แฟชั่นผ้าไทยใส่สบาย” เป็นแคมเปญสุดท้ายของโครงการเลือกซื้อผ่านผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป ช่วยส่งเสริมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ กว่า 750 ร้านค้า รวมสินค้ากว่า 10,000 รายการ

10)ลด OTOP สูงสุด 20% ผ่าน Click ชุมชน (พช.) ที่มีร้านค้ามาลงทะเบียนขายสินค้าในเมนู Shop ชุมชน บนแพลตฟอร์มบริการดิจิทัล “Click ชุมชน” เพิ่มขึ้น 852 ร้านค้า รวมทั้งสิ้น 15,974 ร้านค้า ยอดผู้ใช้บริการ เพิ่มขึ้น 245,002 ครั้ง ยอดผู้ใช้บริการ สะสมรวม 765,346 ครั้ง

11)ขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ประจำปี พ.ศ. 2568 (สถ.) โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,776 แห่ง สามารถแจ้งการประเมินภาษีได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5

12)คู่มือ “บ้านยุคใหม่ ใส่ใจพลังงาน” (ยผ.) เผยแพร่คู่มือ “บ้านยุคใหม่ ใส่ใจพลังงาน” บนเว็บไซต์ http://www.dpt.go.th รวมทั้ง Application Line official @โยธาและผังเมือง และพิมพ์รูปเล่ม จำนวน 5,000 เล่ม

13)โครงการไฟฟ้าสะอาดทั่วไทยใส่ใจประชาชน (Clean Energy For All) (กฟภ.) ได้พื้นที่เป้าหมายในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอยู่ระหว่าง พิจารณาจัดหางบประมาณจาก 2 ส่วน ดังนี้ 1) กองทุนพัฒนาไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำและทบทวนข้อเสนอโครงการเพื่อยื่นของบประมาณ และ 2) งบ CSR ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยอยู่ระหว่างจัดหางบประมาณดำเนินการ

14)โครงการติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาจัดให้ (กปน.) มียอดผู้ใช้บริการติดตั้งมิเตอร์รายใหม่ สะสม 480 ราย แบ่งเป็น ยื่นเรื่องผ่านช่องทาง e-service จำนวน 330 ราย Mobile จำนวน 149 ราย และสายด่วน 1125 จำนวน 1 ราย โดยขอใช้น้ำประเภทที่พักอาศัย 452 ราย ประเภทธุรกิจและอื่น ๆ 28 ราย และสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สะสมรวม 363,150 บาท

15)โครงการติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาจัดให้ (กปภ.) ดำเนินการติดตั้งประปาใหม่ จำนวน 24,096 มิเตอร์ โดยประชาชนได้รับประโยชน์จากการลดค่าติดตั้งประปาใหม่ จำนวน 99,126 คน และสามารถลดภาระค่าใช้จ่าย ของประชาชนรวมทั้งสิ้น 13,087,245 บาท

16)โครงการสร้างรายได้ กระจายโอกาส ให้ชุมชนและเกษตรกรกับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย (อต.) เพิ่มพื้นที่จำหน่ายสินค้าที่ตลาดสาขาทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สาขาตลิ่งชัน สาขาลำพูน สาขาบางคล้า และสาขาหนองม่วง โดยมีผู้สนใจ เข้าสอบถามหลักเกณฑ์ และคาดว่าจะเช่าพื้นที่แผงค้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 – 80 ของกลุ่มเป้าหมาย

17)เปลี่ยนน้ำเสีย เป็นน้ำใส แจกจ่ายให้ประชาชน (อจน.) โดยได้บำบัดน้ำเสียแล้ว นำกลับมาใช้ประโยชน์สะสมรวม 167,204 ลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็น ด้านการเกษตรกรรม จำนวน 123,743 ลูกบาศก์เมตร และด้านอื่น ๆ จำนวน 43,461 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถลดปริมาณการใช้น้ำประปา และประหยัดค่าใช้จ่าย คิดเป็นจำนวนเงิน สะสม 8,425 บาท

18)ส่งเสริมอัตลักษณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวย่านสร้างสรรค์ (กทม.) โดยได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาย่านสร้างสรรค์ ในพื้นที่ กทม. ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 68 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 68 โดยได้พิจารณาคัดเลือก 30 ย่านสร้างสรรค์ พร้อมสร้างเครือข่าย ช่วยกันขับเคลื่อนพัฒนาส่งเสริมย่านสร้างสรรค์ ฯ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ และภาคประชาชนให้เป็นย่านที่มีอัตลักษณ์ และมีกิจกรรมที่เกิดจาก ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]