“หมออ๋อง” เหน็บฉากหลังบัลลังก์ ถ้าเยอะไปก็เหมือนโรงลิเก

รัฐสภา 8 พ.ค.- “หมออ๋อง” จี้ถามสร้างอาคารจอดรถเพิ่ม ฝ่ายการเมืองจะเอาเป็นดำริประธานหรือไม่ เหน็บฉากหลังบัลลังก์ ถ้าเยอะไปก็เหมือนโรงลิเก “ไอติม” บอกความเงียบคือคำตอบ เหวอปรับปรุงศาลาแก้ว เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร

ในการคณะกรรมาธิการ พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า สิ่งที่ที่ประชุมจะเดินได้จะต้องมีแบบอาคารเดิม ซึ่งในตอนที่ตนดำรงตำแหน่งรองประธานสภาได้ขอแบบอาคารเดิมไปแล้ว ได้มาเป็นแบบวิศวกรรมอ่านแล้วไม่เข้าใจ เช่นเรื่องภาพหลังบัลลังก์ ของเดิมเป็นอย่างไรไม่ทราบ กลับได้คำตอบมาว่าให้ไปขอข้อมูลจากชิโนทัย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ก่อสร้าง ทั้งที่ควรจะมีแบบเดิมตั้งแต่แรก และอีก เรื่องการจ่ายเงินที่ปรึกษา ที่ตนไม่เคยเห็นรายงานของที่ปรึกษามาก่อน


ด้านนายพฤหัส ปราบปรี ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานบริหารจัดการและบริการสถานที่ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานอาคารสถานที่ ชี้ กล่าวตอบว่า หากต้องการแบบอาคารเดิมต้องขอกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรวมถึงรายงานของที่ปรึกษาด้วย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการ พัฒนาการเมืองฯ ได้ถามถึงความจำเป็น ของการของบประมาณทำโครงการอาคารที่จัดจอดรถเพิ่มเติม มูลค่า 1,522 ล้านบาทว่า จำเป็นแค่ไหน ทำไมถึงไม่พอแล้วตามแบบดั้งเดิมของอาคารใหญ่ขนาดนี้ ต้องมีการคาดการณ์จำนวนอาคารจอดรถไว้เท่าใด เหตุใดจึงเปิดทำการไม่ถึง 5 ปี จึงจำเป็นที่ต้องเพิ่มจำนวนที่จอดรถ


นายอรุณ ลายผ่องแผ้ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า เดิม เรื่องที่จอดรถขึ้นกับสำนักความปลอดภัย แต่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการศึกษา 3 คณะ เนื่องจากพื้นที่รัฐสภาเป็นอาคารขนาดขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยเกิน 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป ตามข้อบัญญัติของกทม. ที่จอดรถ 1 คัน ต้องมีขนาด 120 ตารางเมตร จะต้องมีที่จอดรถหนึ่งคัน แต่แบบที่มีอยู่มีที่จอดรถไม่เพียงพอ มีช่องจอดเพียง 1,935 คัน เราเคยจัดหาและแก้ไขมาหลายวิธีคือการจัดหาพื้นที่บริเวณนอกรอบเพื่อเป็นสถานที่จอดรถชั่วคราว ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก จากการศึกษาของคณะอนุกรรมธิการคือการใช้พื้นที่ด้านหน้าอาคาร 21 ไร่ เจาะลงไปที่ด้านล่าง ความลึก 11 เมตร ซึ่งจะได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพจอดรถได้สูงสุด 4600 คัน

ส่วนการบริหารจัดการที่จอดรถแม้จะไม่ได้ล็อกช่องจอดให้สมาชิกแต่มีการล็อคพื้นที่ในวันประชุมวันจันทร์ วันอังคารจะล็อกพื้นที่ให้ฝั่ง สว. ส่วนวันพุธวันพฤหัส ล๊อกพื้นที่ สส. 500

ด้าน นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากแบบผิดกฎหมาย ผู้รับผิดชอบต้องไม่ใช้ภาษีประชาขนในการแก้แบบ ถ้าแบบเป็นไปตามข้อข้อบัญญัติของ กทม. สัญญาเขียนว่าใครต้องรับผิดชอบ คนทำแผนหรือคนอนุมัติแผน


นายปกาสิต จำเรือง ผู้อำนวยการสำนักอาคารสถานที่ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บริหารสมัยนั้น ตนเองมาบริหารทีหลังจึงไม่รู้ว่ารับแบบมาถูกหรือไม่ การก่อสร้างสร้างตามแบบอยู่แล้ว อย่างไรเชื่อว่ากรรมการคงจะตรวจรับตามแบบ แต่ที่พวกตนนิ่ง เพราะไม่รู้ในสิ่งที่ ท่านถาม

ด้าน นายพริษฐ์ จึงขอให้ส่งเอกสารทั้งหมดให้คณะกรรมาธิการ ตรวจสอบว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อบอก ว่า เราต้องยอมรับตรงๆ ว่าการออกแบบผิดกฏหมายข้อบัญญัติ กทม. ที่จะต้องมี 3500 ช่องจอด

ขณะเดียวกันนายพริษฐ์ ยังติดใจเรื่องการโอนงบประมาณว่าใช้วิธีใด ถ้าเป็นโครงการใหม่ต้องขออนุมัติงบหรือต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หรือ ครม.ซึ่งนายเจษฎา และเจ้าหน้าที่การคลัง บอกว่า เป็นเรื่องระเบียบรัฐสภา สามารถโอนงบประมาณเหลือจ่ายได้ ทำให้นายพริษฐ์ ระบุว่าคณะกรรมการตามระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (คบง.รส.) ซึ่งมีประธานสภาฯ เป็นประธานนั้น มีศักดิ์ ต่ำกว่า พ.ร.บ.งบประมาณ

อย่างไรก็ตามการพิจารณาเรื่องอาคารจอดรถในวันนี้ ยังไม่ได้ขอสรุป โดยนายพริษฐ์ ได้ขอเอกสารโอนเปลี่ยนงบประมาณย้อนหลัง 5 ปี

ด้านนายประดิพัทธ์ กล่าวว่า การใช้งบเหลือจ่ายใช้ยากมาก ตนเคยขอจัดซื้อเครื่องกรองน้ำ มูลค่า 8,000 บาท แต่ไม่สามารถใช้วิธีแบบนี้ได้

พร้อมถามข้าราชการที่มาชี้แจง ว่า ตกลงฝ่ายการเมืองเค้าจะเอาใช่ไหม อาคารที่จอดรถ ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ ถ้าประชาชนไม่มีที่จอดรถเป็นเรื่องของคุณ แต่ถ้าเป็นเรื่องผู้ใหญ่ไม่มีที่จอดรถ พวกเขาโดนตำหนิ และยังมีผู้ติดตาม สว. เพิ่มขึ้น ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่โดนอะไรบ้าง คิดว่าเจ้าหน้าที่โดนกดดัน แต่อยากถามว่าวิธีที่ให้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เป็นนโยบายของใครเป็นดำริของประธานสภาใช่หรือไม่ เป็นนโยบายของไทยกันแน่ ที่ทำให้ท่านต้องมาตอบคำถาม ที่กระอักกระอ่วนเช่นนี้ และกังวลได้ขนาดนี้ ไม่ต้องบอกว่าเป็นประธานสภาก็ได้ และนายประดิพัทธ์ ยังบอกด้วยว่า นายพิเชษฐ์ เชื้้อเมืองพาน รองประธานสภา เป็นคนคุม 2 สำนักนี้ คือ สำนักอาคารสถานที่ และสำนักความปลอดภัย ที่ถาม เพราะเลขาฯ สภา มีหน้าที่สนองนโยบายตามดำริของประธานสภา ถามว่าเคยมีเอกสารหรือไม่ หรือว่าเป็นการสั่งปากเปล่า เรื่องราวที่ให้พวกท่านทำผิดระเบียบแบบนี้ ซึ่งทำให้ผู้ที่มาชี้แจงเงียบทั้งห้องประชุม จนนายพริษฐ์ บอกว่าความเงียบมันก็ส่งเสียงของมัน ความเงียบคือคำตอบ

ด้านว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเลขาสภา บอกว่าประธานสภาเป็นประธาน แต่เวลาประชุม มอบหมายนายพิเชษฐ์ เข้าประชุมแทน ตามที่บอกว่ามีความจำเป็น ก็จะมีการประเมินมาเรื่อยๆ ว่ามีปัญหาเรื่องที่จอดรถ จึงเป็นที่มาของโครงการสร้างที่จอดรถ และมีการเสนอความจำเป็นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ตนทราบดูจากเอกสารของสำนักความปลอดภัยเสนอมา

จากนั้นที่ประชุมได้ซักถาม ถึงโครงการพัฒนาโรงภาพยนตร์ 4D ซึ่งนายทิตวัจน์ ณรงค์แสง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานสารนิเทศ ชี้แจงว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ความจริงคือห้องสารนิเทศ มีไว้ต้อนรับประชาชน เหมือนโรงหนังเล็กๆมีที่นั่งประมาณ 108 ที่นั่ง นอกจากใช้ชมวีดีทัศน์ ยังใช้ในการต้อนรับ และเยี่ยมชมเยี่ยมคารวะ ซึ่งนายทิตวัจน์ เอง ก็สงสัยเหมือนนายพริษฐ์ว่าทำไมตอนก่อสร้าง ไม่มีห้องสารนิเทศ และตนก็ไม่เคยเห็นแบบเช่นกัน

ทำให้นายพริษฐ์ ถึงกับบอกว่า ถ้ามีแบบ แต่ไม่อยู่ในการก่อสร้างก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะย้ำถามถึงความจำเป็น ว่าจะต้องเป็น 4D หรือไม่ เพราะงบ 80% เกี่ยวข้องกับ 4D

ด้านนางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.พรรคประชาชน ถามถึงงบที่ถูกตัดของโครงการ พัฒนาโรงภาพยนตร์ จากเดิมตั้งไว้ 380 ล้านบาท เหลือ 180 ล้านบาท ว่า 200 ล้านบาท คือค่าอะไรที่ถูกตัด ขณะที่กรรมาธิการคนอื่นก็ได้มีการสอบถาม ว่าเหตุใด โรงหนังเอกชน ถึงใช้งบแค่ 50 ล้าน แต่ในที่ประชุมก็ไม่มีคำตอบให้

ขณะที่ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ ชี้แจงว่า ได้แรงบันดาลใจทำโครงการพัฒนาโรงภาพยนตร์ 4D จากการที่ กิจการสภา ไปดูงานของ กฟผ. ที่เป็นจอเสมือนจริง ตั้งใจเป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักเรียนและเยาวชนที่จะมาเยี่ยมชมสภา

นายปดิพัทธ์ ตำหนิว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนไม่สำคัญ แต่ไม่ใช่ว่าเห็นอะไรว้าวก็อยากมีหมด แ

นายทิตวัจน์ กล่าวว่า สภาเป็นของทุกคน สส. สามารถไปเยี่ยมชมได้ แต่ถ้าเรามีโรงภาพยนตร์หรือศูนย์เรียนรู้ มีสื่อที่สร้างสรรค์หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนที่ได้โอกาส เข้ามาชมสภา ก็มีกำลังใจอยากจะทำงานที่สภา หรืออยากจะมาเป็น สส. เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเงิน 180,000,000 ในอนาคตจะแพงกว่านี้ถ้าเราไม่เริ่มต้น แต่ถ้าสส.เห็นว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำก็ได้แต่ถ้าจะทำเพื่อประชาชนตนก็สนับสนุน

นายปดิพัทธ์ สวนกลับว่า ในเนื้อหาไม่ได้มีอะไรบอกว่าเป็นศูนย์เรียนรู้ และรายการทั้งหมด เบิกจ่ายว่าเป็นงบเร่งด่วน อยากจะบอกว่าโครงการนี้น่าจะถูกด่ามากกว่าโครงการที่จอดรถ การสร้างแรงบันดาลใจ กับผู้ที่มาเยี่ยมชมรัฐสภา เจอกันตัวเป็นๆกับสส. กินข้าวร่วมกันจับมือไม่ใช่แค่สัมผัสกันผ่านจอ และถ้าเยาวชนไปดูหน่วยงานด้านความยุติธรรมโตมาก็อาจจะเป็นผู้พิพากษา

ขณะที่นายเจษฎา พรหมย้อย ตำรวจรัฐสภา ชี้แจงเกี่ยวกับงบปรับปรุงศาลาแก้ว เพื่อประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ในส่วนของพื้นที่ต่อเนื่องด้านหน้า จะปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้ผู้ที่จะเข้ามาในอาคารรัฐสภา ได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะศาลาแก้วเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงภูมิทัศน์ การใช้งานทั้งหมดของบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาและรองรับกิจกรรมเกี่ยวกับพระบรมราชานุสาวรีย์ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะจะใช้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศ-ทูตานุทูต เพราะเป็นพื้นที่ต้อนรับอาคันตุกะ ที่มาเยี่ยมอาคารรัฐสภา โดยจะเป็นพิธีการ และเป็นสถานที่จัดเลี้ยง

ด้านนายพริษฐ์ ถึงกับบอกว่า มองหาความเชื่อมโยงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ออก แต่ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องการปรับปรุงภูมิทัศน์พอจะเข้าใจได้ ซึ่งที่ฟังมาหลักคิดส่วนใหญ่ของศาลาแก้ว คือการใช้ต้อนรับผู้นำต่างประเทศมากกว่าการใช้พื้นที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนซึ่ง ปฏิกิริยาของประชาชน ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็น่าจะบอกได้ การลงทุนก่อสร้างสภาเป็นหมื่นล้าน แต่ยังไม่พอต้องใช้ศาลาแก้วเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์หาความเชื่อมโยงยากจริงๆ

จากนั้นได้มีการสอบถามโครงการ ปรับปรุงฉากหลังบัลลังก์ประธานสภา ซึ่งมีการชี้แจงว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับประชาธิปไตย โดยใช้ทองแดงหนัก 16 ตัน โดยกรมศิลปากรเป็นคนออกแบบ โดยกรรมาธิการมองว่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของประธานสภา และมองว่าไม่จำเป็น สาระสำคัญของห้องประชุมสภาคือการพิจารณากฎหมาย ไม่ใช่ว่าฉากหลังจะสวยงาม เช่นเดียวกับการปรับปรุงห้อง กรรมาธิการงบประมาณ ก็ไม่เห็นความจำเป็น ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเข้าไปประชุมเพื่อทดลองใช้งานดู พบว่าการใช้งานไม่ได้มีปัญหาอะไร

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ห้องประชุมถ้าจะออกแบบอะไร ให้สมาชิกดูก่อนได้หรือไม่ ตนมองว่าห้องประชุมถ้ามีอะไรให้ดูมากยิ่งจะไม่ประชุม

“เคยเห็นอย่างเดียวเวลาที่ต้องการฉากหลังอะไรที่เยอะๆ คือโรงลิเก ที่มีจิตกรรมสวยงามอยู่ข้างหลังให้ประชาชนเพลิดเพลินกับโรงลิเก แต่ห้องประชุมควรเป็นห้องประชุม ถ้าจะสื่อสาร 2475 ให้ไปสื่อสารในพิพิธภัณฑ์ดีไหม พุทธศาสนาไปสื่อสารที่วัด สำคัญที่สุดที่อยากรู้แบบที่ส่งมอบข้างหลังมันเป็นอย่างไร ตอนนี้คงไม่ได้สงสัยว่ามันสวยไม่สวย ประชาชนก็จะถามตน ตกลงข้างหลังเสร็จหรือยัง ทำไมถึงเป็นปูนเปลือย ถ้ามันไม่สวยมันใช่ประเด็นไหม นี่เป็นประเด็นของฉากหลัง” นายปดิพัทธ์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : “คลิปเสียง” อาวุธทางการเมืองในกัมพูชา

กัมพูชา 19 มิ.ย. – กรณีคลิปเสียงที่นายฮุน เซน เปิดเผยออกมา หลายท่านคงสงสัยว่า เขาเคยใช้วิธีนี้กับใครอีกหรือไม่ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามการปล่อยคลิปเสียงในฐานะเครื่องมือทางการเมืองในกัมพูชา. – สำนักข่าวไทย

รทสช.มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติพรรคคุยนายกฯ ก่อน

รทสช. 19 มิ.ย.- “รวมไทยสร้างชาติ” ยังไม่เผยมติพรรค มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติคุยนายกฯ ก่อน หลังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเกือบ 2 ชม. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ เดินทางออกจากพรรค […]

มทภ.2 ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยน มุ่งป้องกันประเทศทุกวิถีทาง

นครราชสีมา 19 มิ.ย. – ท่วมท้น! กำลังใจหลั่งไหลสู่ “พล.ท.บุญสิน” และทหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทาง ขอให้ประชาชนไว้วางใจ ช่วงบ่ายวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา สถานศึกษาและบริษัทเอกชน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และส่งต่อธารน้ำใจไปยังทหารที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ยังนำข้อความจากใจของนักเรียนที่เขียนให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 มามอบให้ด้วย ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และบอกว่าจะรีบนำสิ่งของไปมอบให้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่ายบริหารก็แก้ปัญหาทางการเมือง ส่วนความมั่นคงของชาติ ทั้ง 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทางที่จะไม่ให้เสียดินแดน ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ สิ่งที่ตนพูดไปแล้วก็ตามนั้น. – สำนักข่าวไทย

“ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล มองเป็นการสนทนา “อา-หลาน”

พรรคชาติ​ไทย​พัฒนา​ 19​ มิ.ย.-“วราวุธ” ประกาศชัด “ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัว บอกช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ รัฐบาลต้องมีความมั่นคงทางอธิปไตย มองคลิปเสียงเป็นการสนทนาระหว่าง “อา-หลาน” แต่ไม่รู้เจตนาคนปล่อย ขอคุยนายกฯ ก่อนเสนอที่ประชุมพรรคเคาะอีกครั้ง นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา​ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ สส.​ของพรรค และประธานคณะกรรมการดำเนินงานของพรรค เกือบ 2 ชั่วโมง ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่าในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่าอธิปไตยของประเทศและความมั่นคงของประเทศคือสิ่งสำคัญที่สุดและไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง พรรคและสมาชิกพรรคจึงเห็นว่าควรสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงให้รัฐบาลทำให้เกิดความมั่นคงในอธิปไตยของประเทศ และได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนไปพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีแนวทางอย่างไร หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมและครบถ้วนแล้วจะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป นายวราวุธ ยืนยันชัดเจนว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เพราะความเข้มแข็งของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย เราได้ยินคลิปการพูดคุยสนทนา แต่ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว แน่นอนในโลกโซเชียลอาจจะบอกว่าชัดขนาดนี้แล้วจะคิดอะไรอยู่อีก แต่การตัดสินใจทำงานในรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศเราเอามาเสี่ยงไม่ได้การทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรคชาติไทยพัฒนามองว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อถามว่าจะให้รัฐบาลมากน้อยแค่ไหนนั้น นายวราวุธ กล่าวว่าทุกพรรคคงอยากจะหาทางออกให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุดเพราะความมั่นคงของประเทศไม่ควรตกอยู่ในความจำเสื่อม เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว เมื่อถามว่าการจับมือกับนายกฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายวรวุธ กล่าวว่า […]