“เท้ง” ชี้ต้องเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศ

กรุงเทพ ฯ 30 เม.ย.- “เท้ง” ปิดจ๊อบเสวนาภาษีทรัมป์ ชี้ ต้องหลีกเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศ ติง รบ. หากกู้มาแล้วต้องรับผิดชอบจนไม่เกิดภาระ ด้าน “ไหม” เชื่อ หากไม่ขยายเพดานเงินกู้ ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว จี้ รื้องบ 69 ได้แล้ว บอกตอนนี้ยังพอมีเวลา ปรับเข้าสถานการณ์


โรงแรมโนโวเทล แพลตตินัม ประตูน้ำ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังกิจกรรมโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน เวทีเสวนา หัวข้อ แนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2568 รับมือกำแพงภาษีและสงครามการค้า ว่า ข้อเสนอที่ได้ในวันนี้ จะเสนอแนะผ่านไปยังรัฐบาล และใช้กลไกคณะกรรมาธิการร่วมด้วย รวมถึงเชิญภาคส่วนอื่นๆ เข้ามาให้ความเห็น

สำหรับกรณีการกู้เงิน มองว่า ภายใต้วิกฤติแบบนี้ ไม่ได้ติดอะไร หากจะมีการกู้เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องดูว่านำไปลงทุนได้ถูกจุด หรือนำไปเยียวยาห่วงโซ่อุปทานหรือผู้ประกอบการในไทยได้หรือไม่ หรือใช้ไปเพียงกับการกระตุ้นการบริโภคอย่างเดียวเท่านั้น


การพูดคุยกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า มีตัวแทนจากหลายภาคส่วน ทั้งการทูตต่างประเทศ ภาคการเกษตร อุตสาหกรรมต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือจะต้องมีความชัดเจน ในการเข้าไปเจรจากับ สหรัฐฯ เพราะหากยิ่งเราเข้าไปเจรจาช้า แต้มต่อหรือไพ่ต่อรองของเรา จะยิ่งถูกทำให้น้อยลงเรื่อยๆ เพราะประเทศอื่น ๆ อาจจะ สามารถเจรจาได้สำเร็จไปก่อนแล้ว

นอกจากนั้น ตนยังมองว่า ควรมีเวทีหรือคณะทำงานแบบนี้ ที่มีตัวแทนจากหลายภาคส่วน เข้ามาร่วมออกแบบมาตรการและนโยบาย ในการรับมือร่วมกัน เพราะอย่างไรก็จะกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม ดังนั้น รัฐบาลควรมีการสื่อสารให้ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นภาพตรงกันว่า จะดำเนินการอย่างไร ภาคเอกชนและภาคแรงงานในประเทศไทยจะต้องมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารสามารถใช้อำนาจในการทำคณะทำงานหรือทำเวทีร่วมกับภาคเอกชนหรือส่วนอื่นๆ แบบนี้ได้เลย ขณะเดียวกัน เราซึ่งอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ จะใช้กลไกสภา ทั้งการตั้งกระทู้ถาม หรือคณะกรรมาธิการต่างๆ เพื่อสร้างพื้นที่ให้มีการพูดคุยคู่ขนานกันไป


สำหรับข้อกังวลถึงผลกระทบต่างๆ นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเราต้องพยายามหลีกเลี่ยงฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับประเทศไทย ทั้งการส่งออกหดตัวจากผลกระทบที่เกิดขึ้น สินค้าต่างประเทศล้นทะลักเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ จนอาจเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้งในอนาคต

ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องเตรียมรับมือกันในตอนนี้ คือเตรียมมาตรการรับมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฉากทัศน์นั้นขึ้น รวมถึงการมองไปในระยะยาว ในพื้นที่ทางการคลังที่เหลืออยู่ หากมีการกู้แล้วรัฐบาลในสมัยหน้าๆ จะต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยเช่นเดียวกัน จะทำอย่างไรให้การกู้ในครั้งนี้ จะสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาและลงทุนได้อย่างถูกจุดมากกว่า

ส่วนหากมีการเยียวยาคู่ขนานกับการเจรจากันไปจริง คาดว่าจะเกิดผลชัดเจนในช่วงไหน เรื่องสงครามการค้าครั้งนี้ คงไม่ได้มีแค่ผลกระทบในระยะสั้น แต่หลังจากนี้ยังจะมีคำสั่งประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีก 2-4 ปี ในระยะยาวแน่นอน ซึ่งคงจะต้องมีการตั้งคณะทำงานในระยะยาวต่อไปในอนาคตด้วย

สำหรับหลักประกัน หากจะพูดในเชิงระบบงบประมาณ ณ ปัจจุบัน คงต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่า อาจจะยังยากอยู่ แต่ในฐานะนักการเมือง พรรคการเมือง หรือรัฐบาล คงต้องใช้ความรับผิดรับชอบต่อประชาชนเป็นหลักประกัน การกู้เงินใดๆ ที่จะเป็นหนี้ของลูกหลานในอนาคต เพื่อนำมาใช้ในการแก้วิกฤติ รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตของประเทศในอนาคต ก็ควรจะต้องใช้จ่ายอย่างมีความรับผิดรับชอบต่อสาธารณะ และในเวทีวันนี้ เราได้มีข้อเสนอหลายๆ อย่าง ที่พร้อมจะส่งไปให้รัฐบาล ว่าควรใช้จ่ายอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระลูกหลานในอนาคต

สำหรับกรณีล่าสุดที่ Moody”s ratings คงอันดับเครดิตของประเทศไทยประเภท Senior unsecured bond ที่ Baa1 แต่เปลี่ยนแนวโน้ม (Outlook) เป็น Negative จาก Stable นั้น นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวเสริมว่า เอาเข้าจริง เรตติ้งจะมีความสำคัญต่อเมื่อเรามีการกู้ยืมจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่การถูกประเมินเช่นนี้ก็ทำให้สะท้อนถึงความอ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงใช้คำว่า เป็นสิ่งที่กระตุกเตือน รัฐบาลให้กลับมาให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น แต่หากมีการกู้เพิ่มและทำให้ภาระหนี้สินประเทศเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้การประเมินในครั้งต่อไป จะนำไปสู่การที่เราถูกลดเรตติ้งจริงๆ ไม่ใช่แค่มีแนวโน้ม ในอดีตเราเคยถูกลดเรตติ้งในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์มาก่อน แต่ภายในหนึ่งปีหลังจากนั้น เราก็กลับขึ้นมาอยู่ในเรตติ้งเดิมได้

เพราะหากไม่ขยายเพดานเงินกู้ ก็ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ แต่ต้องใช้เม็ดเงินในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นกระตุกเศรษฐกิจกลับมา และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ดังนั้น ถ้าไม่ทำอะไรเลย เราก็ยังโดนอยู่ดี และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา เสี่ยงเดินทางนี้ อาจโดนปรับเครดิตเรตติ้งในระยะสั้น แต่ถ้ากลับมาได้เร็ว ก็เป็นทางเลือกที่เราอยากเปิดให้รัฐบาลลองแสดงฝีมือดู แม้จะเห็นว่าประชาชนส่วนหนึ่ง อาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจในการทำงานของรัฐบาลก็ตาม

เมื่อถามถึงจำนวนเงินกู้ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า การขยายเพดานไม่ว่าจะ 75 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ คงไม่สำคัญเท่ากับในอนาคตเราจะมีวิธีการดึงเพดานที่เคยขยายไป กลับคืนมาได้เราจะไม่ เพราะยังมีเรื่องไทม์ไลน์ ที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง เพราะระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาล เหลือเพียงแค่ 2 ปี เราคงไม่สามารถดึงเพดานกลับมาเท่าเดิมได้ในระยะเวลาสั้นนี้อยู่แล้ว กลายเป็นว่าผู้ที่ต้องชดใช้หรือต้องรัดเข็มขัดมากขึ้น จะเป็นรัฐบาลหน้าต่อๆ ไป แต่ก็คงต้องทำเป็นสัญญาร่วมกันของนักการเมืองทั้งหมด ที่สลับกัน เพราะไม่รู้ว่าคราวหน้าใครจะต้องเป็นรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องยึดถือเรื่องนี้ให้มั่น ไม่ให้เหมือนสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่มีการขยายเพดาน และรัฐบาลเพื่อไทยที่เข้ามา ไม่ได้มีความพยายามจะรักษาวินัย อีกทั้งยังกู้ในยามที่ไม่จำเป็นต้องกู้ ไม่เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นอย่างตอนนี้

นางสาวศิริกัญญา เน้นย้ำถึงสิ่งที่สื่อสารตลอดเวลา ว่า ต้องรื้องบประมาณปี 69 ได้แล้ว ตอนนี้ยังพอมีเวลาที่จะเอากลับมาทำใหม่ แล้วค่อยเลื่อนการเข้าสู่วาระที่หนึ่งซึ่งจะเข้าสภาก็ได้ แต่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ก็ยังคงเดินตามแนวทางเดิม ไม่มีการแก้ไขงบ 69 เลย ส่งเข้าสภาไปทั้งๆ ที่ ยังไม่ได้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

ส่วนผลกระทบ เราก็เคยยกตัวอย่างให้ดูไปแล้วว่า พื้นที่ทางการคลังในตอนนี้เหลือไม่มากแล้ว แค่ประมาณ 2 แสนล้านบาท หากนำตรงนี้มาเป็นจุดตั้งต้น ก็อาจต้องพยายามรื้องบปี 68 เหลื่อมปี ซึ่งตนมองว่าตัวเลขไม่ใช่น่าจะถึงตามที่เลขาสภาพัฒน์เคยพูดไว้ น่าจะได้น้อยกว่านั้น และหากยังไม่มีการรื้องบปี 69 ก็จะยิ่งทำให้เงินที่สามารถใช้ได้จริงน้อยกว่านั้นมาก ซึ่งเราก็ยังเสนอว่า ควรใช้เงินส่วนหนึ่งในการปฏิรูปเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างในระยะยาวด้วย หากนำกรอบงบประมาณมาเป็นตัวตั้ง เราคงไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณเต็มที่ ตนจึงขอให้ปลดตรงนี้ออกไป และให้เป็นทางเลือกของรัฐบาลที่จะพาประเทศผ่านวิกฤติด้วย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]