“หมอเปรม” อ้างประชาชนต้องการปรับ ครม.ด่วน

รัฐสภา 21 เม.ย.-“หมอเปรม” อ้างประชาชนต้องการปรับ ครม.ด่วน บอกเอาพรรคร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาออก จี้ภูมิใจไทยเอาให้ชัดเจน อย่าทำเป็นละครตบจูบ ประชาชนเบื่อ แนะไม่ต้องเกรงใจพรรคร่วม ปรับก่อนงบฯ 69 เข้าสภาฯ เลย หวั่นเอาภาษีเป็นเครื่องมือต่อรอง

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แถลงเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ว่า จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ในช่วงปิดสมัยประชุมพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันคือเวลานี้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาลและมีสิ่งที่คาใจประชาชนในเรื่องของเสถียรภาพและความเป็อนเอกภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะความเป็นผู้นำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากความท้าทายของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีระดับเลขาธิการพรรค การเมืองสำคัญที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ท้าทายว่าจะไม่ร่วมมือในการบริหารประเทศ โดยจะขัดขวางกฎหมายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกาสิโน รวมถึงกฎหมายอื่นๆที่จะเข้าสู่สภาฯเมื่อเป็นเช่นนี้ เสถียรภาพของรัฐบาลก็เกิดปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้น การสวนทางของพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคแกนนำ จึงทำให้ประชาชนต้องการให้รัฐบาลปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตรงกับผลสำรวจของบางสำนัก ที่พบว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้ปรับครม.โดยเร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลและมีความเอกภาพ รวมถึงการทำงานมีประสิทธิภาพ


“แม้นายกฯ จะมีความเกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล แม้ความเกรงใจจะเป็นสมบัติของผู้ดี แต่ความเกรงใจที่มีต่อพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลแต่อย่างใด ที่สำคัญเกิดเหตุการณ์แบบนี้มานานจนประชาชนเกิดความเอื้อมระอาในละครตบจูบ จึงขอให้นายกฯมีความชัดเจนว่าจะบริหารประเทศ​ถูลู่ถูกังอย่างนี้ต่อไป หรือจะปรับครม.ให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่ระดับเลขาธิการพรรค ที่อ้างว่าเป็นลูกใครต่อที่ประชุมสภาฯอาจจะเป็นเงาทมิฬ เพื่อจะข่มขู่นายกฯหรือไม่ ไม่ทราบ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเห็นชัดเจนว่าไม่เกิดบรรยากาศของความร่วมมืออีกต่อไปแล้ว เพื่อความชัดเจนขอให้พรรคร่วมรัฐบาลดังกล่าว ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะดีกว่า โดยไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาล เมื่อไม่มีพรรคการเมืองบางพรรคแล้วจะอยู่ไม่ได้ และเสถียรภาพของรัฐบาลจะไม่ต้องกังวลของตัวเลขที่ปริ่มน้ำ แต่ขอให้คิดถึงศัทธาของประชาชนที่ปริ่มน้ำมากกว่า ถ้าเดินไปข้างหน้าเป็นการเมืองแบบละครตบจูบไปเรื่อยๆจะเสื่อมศัทธาทั้งรัฐบาลและจะทำให้ประชาชนหมดความหวัง


“ดังนั้นถ้ารัฐบาลรีบปรับครม. เพื่อสร้างศัทธาก็จะสามารถดำเนินการทางการเมืองต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าไม่สามารถร่วมงานต่อไปได้ ก็ประกาศความชัดเจนถอนตัวออกมา อย่าให้เป็นคนอมโรค ถูลู่ถูกังกันไปอย่างนี้ เพียงเพื่ออยากเป็นรัฐบาลต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เพราะศัทธาของประชาชนจะสามารถค้ำยันให้รัฐบาลมห้บริหารต่อไปได้ ไม่ใช่ตัวเลขของสส.อย่างเดียว เดี๋ยวจะพากันไปทั้งรัฐบาล” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การปรับครม.ควรจะทำเร็วที่สุด สามารถปรับก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯได้ และควรจะปรับก่อนที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 69 เข้าสภาฯ​เพราะถ้างบประมาณเข้าสภาฯ จะเกิดละครการต่อรองเสียงในการลงมติ เพื่อรับหลักการแรก และนั่นจะเป็นลางหายนะ เพราะเอางบฯของประเทศมาเป็นเครื่องต่อรอง และจะปรับกระทรวงไหนอยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯและแกนนำรัฐบาล เพราะเป็นผู้นำก็ควรแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ

เมื่อถามว่า แกนนำที่ระบุคือพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า แกนนำคือพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมคือพรรคภูมิใจไทย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องแสดงความเป็นผู้นำด้วยการตัดที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล คือพรรคร่วมรัฐบาลที่ท้าทายกลางสภาฯ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เพราะท้าทายให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่เอาด้วยแล้ว แล้วยังทนอยู่ไปทำไม ส่วนที่หัวหน้าพรรคที่ท้าทายในสภาฯ ก็ออกมาบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรนั้น คือละครที่ประชาชนเบื่อหน่ายแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าเขายังมีความขัดแย้งและต่อรอง เล่นละครอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามทำให้การทำงานในสภาฯ มีปัญหาเกี่ยวกับการโหวตกฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน จะเป็นข้อต่อรองในเรื่องการสมประโยชน์และแลกเปลี่ยนกัน หากเอาเหตุผลอย่างนี้มาใช้กับประเทศเราตลอดเวลาตนเชื่อว่าต่อไปจะเกิดความเสียหาย


เมื่อถามว่า ในส่วนของวุฒิสภาจะมีข้อขัดแย้งหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าแล้วแต่ที่มาของสว.แต่ละคน ว่ามาอย่างไร แม้พรรคการเมืองจะมีปัญหากัน ในส่วนของสว.ก็อยู่ที่บทบาทว่าเป็นเงาของพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเป็นเงาของพรรคการเมืองจนชัดเจนเกินไป แม้จะบอกว่าไม่ยึดโยงพรรคการเมือง แต่พฤติกรรมที่แสดงออกเหมือนเป็นลูกไล่ของพรรคการเมือง ซึ่งประชาชนมองว่าสว.ควรอยู่ในฐานะที่ทำงานกับทุกฝ่ายได้มากกว่านี้ ถ้าต่อต้านพรรคหนึ่งแล้วเห็นดีกับพรรคหนึ่ง คงจะไม่ใช่สว.

เมื่อถามว่าจากโพลที่สำรวจออกมาการปรับ ครม. นั้นไม่มีกระทรวงของพรรคภูมิใจไทย นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนดู กระทรวงเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่น่าปรับ โดยเฉพาะหัวหน้ากระทรวงทางเศรษฐกิจที่ต้องไปเจรจา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯหากไปโดยที่ไม่มีความเชื่อมั่น ในส่วนนี้ก็น่าจะกระทบต่อเรื่องที่ไปเจรจาพอสมควร สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลอาจเห็นว่าสามารถคุมกระทรวงมหาดไทยได้ถือว่ามีหมากที่เหนือกว่าพรรคแกนนำ จึงแสดงอาการแตกแยกกับพรรคแกนนำอยู่โดยตลอด พรรคแกนนำเองก็เหมือนมีอะไรที่ต้องต่อรองอยู่ตลอด

“เอาให้ชัดถ้าพรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าจะไม่เห็นชอบกับรัฐบาลอีกต่อไปก็ถอนตัวออกมา เพราะมีคนที่ทำงานได้ในรัฐสภาอยู่ไม่น้อยแม้ว่าจะปริ่มน้ำในคะแนนเสียง แต่สามารถสร้างศรัทธาได้ หากเสียงท่วมท้นสภาฯ แต่เกิดความไม่ชัดเจนเรื่องความร่วมมือปัญหาจะเกิดขึ้นมากกว่า เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะมีการโหวตสวนทางและเกิดปัญหาตบจูบกันอีก ดังนั้น ถ้าพรรคไหนไม่เอาด้วยกับรัฐบาลก็ปรับออก” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวยกตัวอย่างในอดีตว่าเคยมีเสียงของรัฐบาล ที่ไม่ได้เกินกันมากแต่บริหารได้ เพราะมีศรัทธาต่อประชาชนและมีผลงานให้ประชาชนมองว่าพึ่งพาได้ แต่หากเสียงเยอะ แต่เกิดความไม่เชื่อมั่นว่ากฎหมายจะผ่านสภาได้หรือไม่เพราะพรรคร่วมต่อรองด้วยคะแนนเสียงอยู่ตลอด ตนเคยทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมาก่อน ก็ไม่เคยเห็นพรรคไหนจะท้าทายซึ่งกันและกันอย่างเปิดเผยขนาดนี้ และยังอยู่ด้วยกันได้ขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องนายกฯ ลาออก

28 มิ.ย. – กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ไม่หวั่นฝนตก ชุมนุมเต็มพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งบนถนนและสะพานลอย ฟังแกนนำปราศรัยและอ่านแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ แพทองธาร ลาออกทันที เหตุมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ​ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที​ หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้ร่วมกันเคารพธงชาติ นายนิติธร​ ล้ำเหลือ เป็นตัวแทน​อ่านแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และสังคมอย่างกว้างขวางลึกและรุนแรง เหตุมาจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก สำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ให้ความสำคัญกับรูปแบบและวิธีการ ยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย […]

ปะทะเดือด! คนร้ายบุกถล่มฐาน ชคต. เจ้าหน้าที่เจ็บ 2

นราธิวาส 28 มิ.ย. – ปะทะเดือด! กลุ่มคนร้ายราว 50 คน ขว้างไปป์บอมบ์และยิงอาวุธปืนสงครามถล่มฐานชุดคุ้มครองตำบลเกรียร์ จ.นราธิวาส จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย วินาทีเจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายไปป์บอมบ์ 2 ลูก ที่ตกอยู่บริเวณฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส หลังเมื่อเวลา 05.50 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.สุคิริน ได้รับแจ้งคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์และอาวุธปืนสงครามบุกโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ จึงร่วมกับทหาร ฉก.นราธิวาส, ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบลูกระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ของคนร้ายที่ขว้างเข้าไปในฐานแต่ไม่ทำงาน จำนวน 3 ลูก ลูกแรกตกอยู่ที่พื้นที่ด้านหลังหอสูงด้านซ้ายมือของฐาน ลูกที่ 2 อยู่ที่พื้นหน้าอาคารกองบังคับการ และลูกที่ 3 อยู่บริเวณด้านหลังของเรือนนอน และในระหว่างรอเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าเก็บกู้ ไปป์บอมบ์ลูกแรกก็เกิดระเบิดขึ้นเองเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ไว้แล้ว ส่วนระเบิดไปป์บอมบ์อีก 2 ลูก […]

มวลชนไม่ท้อ! ฝนถล่มกางร่มฟังปราศรัย

28 มิ.ย.- ไม่ท้อ! อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝนตกหนัก มวลชนกางร่มฟังปราศรัย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เตรียมร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย เวลา 18.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 16.30 น. ฝนตกหนักบางช่วงในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่ แกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย สำหรับไฮไลท์ช่วงเย็นวันนี้ หลังร้องเพลงชาติ เวลา 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์และมีแกนนำขึ้นปราศรัยใหญ่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย