“สุริยะ” แจงปมแก้สัญญารถไฟเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

รัฐสภา 25 มี.ค.- “สุริยะ” แจงปมแก้สัญญารถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน-ขยายสัมปทานทางด่วน เป็นการบิดเบือนข้อมูลจากจินตนาการ ยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ลั่นหากมีข้อสงสัย โทรหาหรือมาถามที่กระทรวงได้ ด้าน ‘สุรเชษฐ์’ สวน ไม่ได้กล่าวหาลอยๆ แต่เห็นสัญญาแล้ว จะขยายเวลาข้ามศตวรรษใช่หรือไม่ ถ้าไม่เลื่อนไม่แก้ตอนนี้จะเอาอย่างไร บอกจะให้ไปเกาะโต๊ะขอพบหรือ ทำไมไม่ทำหนังสือเชิญมา

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลุกชี้แจงกรณีที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวหา ทั้งกรณีแก้สัญญาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระบุ ให้เอกชนคว้าสัมปทานไปได้ก่อน แล้วค่อยหาประโยชน์เพิ่มด้วยกันแก้สัญญา และการขยายสัมปทานทางด่วน ที่ระบุให้เอกชนได้สิทธิ์กินเต็มอิ่ม แล้วเมื่ออยากกินต่อ จึงขอขยายสัมปทานไปเรื่อย ว่าตลอดเวลาที่ตนได้นั่งรับฟังการอภิปรายอย่างตั้งใจ หลายคนคงรู้สึกเช่นเดียวกันว่า ผู้อภิปรายมีความพยายามสร้างเรื่องราวบิดเบือนข้อเท็จจริง จากจินตนาการของท่าน จนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า มีการวางแผนการนี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อเอื้อประโยชน์กับเอกชนคู่สัญญา


หรือการที่พยายาม เล่นคำว่า ซูเปอร์ดีล โดยบิดเบือนข้อมูล เอามูลค่าที่สูงกว่ามูลค่าโครงการมาพูดว่า เป็นแสนแสนล้านบาท นั้น ก็ล้วนแล้วมาจากการจินตนาการลอยๆ ทั้งนั้น ซึ่งตนยืนยันว่าการอภิปรายทั้ง 2 โครงการนั้น เป็นการกล่าวหาเพียงลอยๆ และตนเห็นด้วยกับคำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ระบุ ไม่ทราบว่าผู้อภิปราย กำลังอภิปรายรัฐบาลไหน

เนื่องจากเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น เกิดก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารงานด้วยซ้ำ โดยทั้ง 2 โครงการนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการต่างๆ ยังไม่ได้มีการเสนอถึงคณะรัฐมนตรี และยังไม่ถึงมือของนายกรัฐมนตรี


ดังนั้น การที่ผู้อภิปรายเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบคำถาม จึงเป็นไปไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาตอบชี้แจง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องแทน ย้ำว่า รัฐบาลยังไม่มีการอนุมัติให้ดำเนินการแต่อย่างใด เพราะยังต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับอีกหลายหน่วยงาน เพื่อให้รัฐไม่เสียประโยชน์อย่างแน่นอน

นายสุริยะ กล่าวถึงการที่ผู้อภิปราย ระบุ มีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเอื้อสัญญา หรือมีการพยายามพูดให้เข้าใจว่า มีผู้ใหญ่ มีนายใหญ่ หรือมีนายน้อย สั่งการอยู่เบื้องหลังนั้น ตนขอยืนยันว่า ตนไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว กับคู่สัญญาของทั้ง 2 โครงการแต่อย่างใด แล้วจะไปมีการเอื้อประโยชน์ให้ได้อย่างไร

ในทางตรงกันข้าม ตนพยายามแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและภาครัฐ ทั้งเรื่องการจราจรที่ติดขัด ค่าผ่านทางแพง และโครงการที่ลงทุนไว้แล้ว แต่ดำเนินการต่อไปไม่ได้ ให้สำเร็จลุล่วง โดยยึดประโยคของประชาชน และภาครัฐเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น “ไม่มีแน่นอน ที่ผู้อภิปราย มโนว่าเป็นซูเปอร์ดีลแสนล้าน”


นายสุริยะ ชี้แจงต่อในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินว่า มีการทำสัญญามาตั้งแต่ในอดีต โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 61 และลงนามสัญญาร่วมทุน วันที่ 24 ต.ค. 62 แต่รัฐบาลนี้เข้ามาเป็นบริหาร เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 67 ซึ่งมีเวลาต่างกันอยู่ถึง 5 ปี ตนยืนยันว่า ตนไม่ใช่ส่วนหนึ่งในการสร้างปัญหา แต่ตนเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา เวลาทันทีที่ตนได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็พบว่าโครงการนี้มีปัญหาด้านสัญญา จึงแก้ปัญหาเพื่อทำให้สัญญาสามารถเดินต่อไปได้ ดังนี้ EEC มีการลงทุนจากภาคเอกชนไปแล้วกว่า 1.8 ล้านล้านบาท หากถอยโครงการนี้ประเทศจะเสียหายมาก และเป็นสัญญาที่เกิดขึ้นก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้วย นอกจากนั้น ยังมีกรณีที่เอกชนไม่สามารถชำระค่าสิทธิ์แอร์พอร์ตลิงค์ได้ตามกำหนด แต่เพื่อไม่ให้โครงการหยุดชะงัก คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย EEC และเอกชน เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา จากนั้นจึงมีการทำ MOU ซึ่งกำหนดให้เอกชนต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายในการเดินรถ การบำรุงรักษา และรับความเสี่ยงทั้งหมด ในส่วนของเงื่อนไขสัญญา ซึ่งมีการเซ็นไว้ก่อนนั้น ก็เดินต่อไม่ได้

โดยการแค่ปัญหาในส่วนนี้มีเพียง 2 ทาง คือการแก้ไขสัญญา หรือยกเลิกสัญญาเพื่อประมูลใหม่ ซึ่งการยกเลิกสัญญานั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย นอกจากนั้น หากเกิดการประมูลใหม่ ก็อาจเกิดการฟ้องร้องด้านกฎหมาย และทำให้โครงการหยุดชะงัก

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาสัญญาร่วมลงทุนที่ถูกกล่าวหาว่า มีการเปลี่ยนแปลงนั้น ตนขอยืนยันว่าโครงการนี้ยังเป็นรูปแบบ PPP Net Cost เหมือนเดิม และเอกชนยังเป็นผู้รับความเสี่ยงเหมือนเดิม ย้ำว่า รัฐไม่ได้เสียประโยชน์แต่อย่างใด ทั้งยังสามารถทำให้รัฐประหยัดดอกเบี้ยได้อีก รวมถึงการที่เอกชนจะต้องโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้รัฐ เมื่อได้รับเงินร่วมลงทุน ซึ่งจะช่วยให้โครงการเกิดความมั่นคง หากเอกชนรายดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการต่อได้ รัฐก็ยังสามารถหาเอกชนรายใหม่มาดำเนินการต่อ ไม่เป็นปัญหาเหมือนโฮปเวลล์ในอดีต

ดังนั้น ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า การแก้ไขปัญหาตามหลักการ จะทำให้รัฐมีความเสี่ยงลดลง จ่ายเงินร่วมลงทุนเท่าเดิม ได้ค่าสิทธิ์แอร์พอร์ตลิงค์เท่าเดิม

ส่วนการขยายสัมปทานทางด่วน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนนั้น ตนขอปฏิเสธว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ตนต้องการแก้ไขปัญหาการจราจรให้กับประชาชน ที่สัญจรผ่านทางด่วนเส้นนี้ทุกวัน และพบว่าประชาชนที่ใช้ทางด่วน ยังต้องเผชิญกับปัญหารถติดเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องจ่ายค่าผ่านทางที่แพงมาก ดังนั้น โครงการนี้คือการเพิ่มช่องจราจร ให้สามารถแยกรถที่เดินทางใกล้และไกลออกจากกัน และไม่ต้องเว้นคืนที่ดินจากประชาชน ยืนยันว่า เป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากรัฐบาลในอดีต โดยหากโครงการ Double Deck แล้วเสร็จ จะสามารถรับระยะเวลาการเดินทางบนทางด่วนได้ และทำให้ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางเพิ่มขึ้น สิ่งเมื่อคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว จะสูงถึงประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี ถ้าไม่สร้างตอนนี้ รอสัมปทานสิ้นสุดแล้วค่อยสร้าง ประชาชนก็ยังจะคงเดือดร้อนไปอีกนับ 10 ปี ประเทศชาติเสียโอกาส ตนยอมไม่ได้

สำหรับค่าก่อสร้างของโครงการ ที่มีมูลค่ามากกว่าการสร้างทางด่วนชั้นเดียวนั้น เนื่องจากโครงการนี้ มีการใช้เทคนิควิศวกรรมชั้นสูง ก่อสร้างสูงกว่าทางด่วนเดิม เนื่องจากด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถขยายทางด่วนเดิมได้ ส่วนการลดค่าผ่านทาง เหลือ 50 บาทนั้น ก็เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน กระทรวงไทยคมนาคมและกรมการทางพิเศษ จึงวิเคราะห์ใช้กับโครงข่ายทางด่วนในเขตเมืองเป็นอันดับแรก ซึ่งถือเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้ทางด่วนทั้งหมด สำหรับการชี้แจงรายละเอียดโครงการ ทราบว่ากรมการทางพิเศษได้มีการเข้าให้ข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว โดยไม่มีการถูกกล่าวหาว่าการดำเนินการในครั้งนี้ มิชอบแต่อย่างใด รวมถึงได้มีการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ แล้ว ซึ่งได้เปิดเผยรายละเอียดที่สามารถเปิดเผยได้ไปแล้ว ยกเว้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเอกชน เนื่องจากเอกชนได้แจ้งสงวนสิทธิ์ไว้ ยืนยันว่า ตนไม่มีการสั่งการให้ทำตามระเบียบ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ในทุกขั้นตอน ไม่มีการปกปิดข้อมูล

อย่างไรก็ตาม หากผู้อภิปรายมีข้อแนะนำเรื่องใด ในภารกิจของกระทรวงคมนาคม หรือต้องการข้อมูลอะไร ที่ยังไม่มีความชัดเจน หรือมีข้อสงสัยเรื่องใดประการใด ก็สามารถไปพบหรือติดต่อโทรศัพท์หาตนได้ ที่กระทรวงคมนาคม แต่นายสุรเชษฐ์ ไม่เคยเข้าไปที่ กระทรวงคมนาคมสักครั้งเดียว ยันว่า ต้องการข้อมูลที่เต็มประโยชน์ต่อประชาชน ตนจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ ขอใช้สิทธิ์พาดพิง เนื่องจาก มีการกล่าวหาว่า ตนบิดเบือนจินตนาการลอยๆ ทำให้เกิดความเสียหาย จึงขอให้ประธานได้ชี้แจง

นายภารดร ปริศนานันทกุล ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุม ชี้แจงว่า จากที่ฟังรัฐมนตรีพูด มีการพาดพิงแค่ประเด็นเดียว คือเรื่องที่นายสุรเชษฐ์ไม่เคยไปกระทรวง ส่วนประเด็นอื่นที่นายสุรเชษฐ์กล่าวหารัฐมนตรีเมื่อวานนี้ รัฐมนตรีจึงมาชี้แจงในวันนี้ ถ้าถามตอบไปมา เราไม่ได้อยู่ในวาระกระทู้ และจะไม่จบ จะกินเวลาเพื่อน จึงอนุญาตให้ตอบประเด็นเดียว

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อในเรื่องหนังสือเชิญ ว่า “จะให้ผมเดินไปเกาะโต๊ะท่านรัฐมนตรีหรือ ผมรอหนังสือเชิญจากท่าน วันนั้นเราก็มีการคุยกันแบบนี้ ผมยินดีไปกระทรวง แต่ต้องทำหนังสือเชิญมา และจะให้ดี ก็ให้มีสื่อมวลชน ไปเป็นสักขีพยานด้วย เดี๋ยวจะหาว่า ไปเกาะโต๊ะเคลียร์กัน”

ในมุมกลับกัน ตนทำอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ที่เรียกมาชี้แจงที่สภา นายสุริยะก็ไม่เคยมา แม้แต่ตั้งกระทู้สดในสภา นายสุริยะก็เบี้ยว แล้วทุกครั้งก็ส่ง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มาแทน

อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณรัฐมนตรีช่วยคมนาคมที่มาตอบแทน แต่หลายๆ ครั้ง ก็ตอบไปอย่างที่ท่านไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้กำกับดูแลโดยตรง เช่นกรณีล่าสุด ในกระทู้ถาม คานถล่มพระราม 2

ส่วนเรื่อง คำถามที่ตนเคยถามไว้ ตนยังต้องการข้อสรุปเรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอยู่ว่า ถ้าไม่เลื่อนไม่แก้ตอนนี้ จะเอาอย่างไร จะปล่อยให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายด้วยการเลื่อนเพื่อแก้ใช่หรือไม่ ส่วนคำถามเรื่องสัมปทานทางด่วนนั้น การที่รัฐบาลนี้ กำลังเพิ่มไปถึงปี 2601 คือขยายแบบข้ามศตวรรษไปใช่หรือไม่ ย้ำว่า ตนไม่ได้บิดเบียน แต่ได้เห็นร่างสัญญาแล้ว ท่านจะทำอย่างนั้นจริงๆ หรือไม่

นายสุริยะ ชี้แจงอีกครั้ง ในข้อกล่าวหา เบี้ยวตอบกระทู้ว่า ตนได้มอบหมายให้นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมาตอบแทน เนื่องจากในวันนั้น ตนติดภารกิจ ส่วนการแก้ไขสัญญานั้น ยอมรับว่า เคยระบุจริงว่าจะไม่เลื่อน แต่เมื่อได้มีการพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อน ไม่ได้ทำโดยไม่มีเหตุไม่มีผล.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย

รวบ 2 นักพนันปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 22 มิ.ย.- รวบ 2 นักพนันชาวไทย อยากกลับภูมิลำเนา หลบจากบ่อนปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติ เหตุนำพาสปอร์ตจำนำไว้ที่บ่อน ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12(ร้อย ชค.1201) เข้มงวดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะออกทำการลาดตระเวนแนวชายแดน ตรวจพบหญิง 2 คน กำลังปีนเครื่องกีดขวาง(ลวดหนามหีบเพลง) จากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งประเทศไทย บริเวณแนวชายแดนคลองลึก บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากตรวจสอบเอกสารประจำตัวทราบชื่อต่อมา น.ส.จุฑาวรรณ ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ เดินทางไปเล่นการพนันช่วงเดือน เม.ย.68 ที่จุดผ่านแดนถาวร บ.คลองลึก และเสียการพนัน จึงได้จำนำหนังสือเดินทาง (passport) ไว้ที่บ่อน และ นางปนัดดา ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น เดินทางไปเล่นการพนัน ตั้งแต่ ส.ค.66 ทางช่องทางธรรมชาติ โดยทั้ง 2 คน ให้การเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ […]