รัฐสภา 25 ส.ค.-“วิสุทธิ์” ยัน “เพื่อไทย” ไม่สกัดญัตติยกเลิก MOU43-44 เผยประธานสั่งปิดประชุม เหตุฝ่ายค้านยังไม่ได้ข้อสรุป ย้ำไม่ได้แทรกแซงการทำหน้าที่ประธาน ซัดฝ่ายค้านตีกินการเมือง
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ ถึงความพร้อมในการประชุมสัปดาห์นี้ว่าจะล่มหรือชิงปิดประชุมก่อนอีกหรือไม่ว่า อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ล่มซึ่งได้ชี้แจงไปแล้ว ในวันพุธที่ผ่านมา (20 ส.ค. 2568) ในการลงมติร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง 165 มาตรา ซึ่งลงมติเป็นร้อยครั้ง ไม่ใช่ว่าจะให้สส.ได้พักไวเพราะเราได้พิจารณา พ.ร.บ.ตั๋วร่วมกันต่อทั้งหมด 54 มาตรา โดยพิจารณาไปถึง 39 มาตรา หลายคนจะไปห้องน้ำยังไม่ทัน บางคนยันเย็นก็ยังไม่ได้กินข้าวเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาทำให้ตนไปขอให้ประธานปิดการประชุม เราทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็งแล้วที่ผ่านมา
ส่วนวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.2568) ที่จะมีการยื่นญัตติด่วนให้พิจารณายกเลิก MOU 43 และ 44 ซึ่งพรรคฝ่ายค้านอยากเสนอ เรื่องนี้เราบอกว่าจะเสนอก็เสนอได้ แต่การจะเสนอต้องตกลงกันทั้งวิปรัฐบาลและวิปค้าน ซึ่งวันนั้นตนเดินไปหาเอง วิปค้านไม่ได้เดินมาเจรจากับตน ตนจึงบอกไปว่าถ้าเร่งด่วนแบบนี้ก็ต้องประชุมลับ ซึ่งขณะเจรจาก็มีเรื่องการพิจารณาเรื่องกองทุนสื่อสร้างสรรค์
แต่ระหว่างที่เจรจากันอยู่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ ประธานจึงพิจารณาว่าไม่มีเรื่องใหม่เข้ามา หลังจากรับทราบรายงานจึงปิดประชุม ไม่ได้ล่มหรือหนีสภาและเรื่องนี้ก็สามารถเจรจาได้ถ้าฝ่ายค้านยังต้องการยื่นญัตติ แต่ก็ต้องตกลงกันก่อน ซึ่งการตัดสินใจของวิปรัฐบาลไม่ใช่ประธานตัดสินใจคนเดียว แต่มีพรรคอื่นร่วมด้วยไม่ใช่ว่าประธานวิปจะตัดสินใจได้ทันที ถ้าสัปดาห์นี้ต้องการที่จะเสนอญัตติด่วนก็สามารถมาแจ้งได้
เมื่อถามว่าการชิงปิดประชุมเป็นการสกัดญัตติด่วนเรื่องยกเลิก MOU 43-44 หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่จำเป็น แต่ต้องดูว่าญัตติดังกล่าว เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอย่างไร สามารถพูดจากันในสภาได้แต่วันนั้นแต่วันนั้นฝ่ายค้านไม่ได้ให้คำตอบเองว่าต้องการแบบไหน จึงทำให้ประธานต้องปิดประชุม
“ยืนยันว่าประธานไม่ได้ปิดหนีไม่ได้กลัวอะไร ก็ให้ออกมาพูดหากพูดดีก็เป็นศรีแก่พรรคท่าน แต่ถ้าพูดร้ายไม่เข้าใจเหตุผลก็จะเสียหาย สภาเป็นทางออกของการแก้ปัญหาแต่ไม่ใช่ว่าจะได้ดั่งใจทุกอย่าง ผมเป็นพรรคร่วม มีพรรคอื่นอีกเป็น 10 พรรคก็ต้องปรึกษาหารือกันก่อน ไม่ใช่ว่าหนี” นายวิสุทธิ์กล่าว
นายวิสุทธิ์ ยังย้ำว่า วันนั้นตนเดินไปหาฝ่ายค้าน 2-3 รอบแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปจากฝ่ายค้านเขาบอกว่าจะมาให้คำตอบ ไปเอากล้องมาเปิดได้เลย ทางการเมืองจะตีกินอย่างไรก็ไม่ว่า แต่ข้อเท็จจริงฝ่ายค้านเป็นคนบอกว่าเดี๋ยวจะให้คำตอบเรื่องจะตั้งคณะกรรมาธิการหรือไม่ตั้งเขาบอกว่าขอไปถามเจ้านายก่อนสุดท้ายก็ยังไม่ชัดเจน แต่พอไม่ทันเวลาประธานข้างบนไม่รู้เรื่องก็สั่งปิดประชุม ฉะนั้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับประธานที่ทำหน้าที่ในวันนั้นด้วย
เมื่อถามว่าการเดินไปบอกให้ประธานปิดประชุม เป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ของประธานหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เดินไปบอกให้ปิด ทำไมต้องปิดหนีจะกลัวอะไร ยืนยันว่าไม่ได้แทรกแซงการทำงานของประธานไม่เช่นนั้นประธานจะรู้ได้อย่างไรเพราะท่านนั่งอยู่บนบัลลังก์ไม่รู้ว่าข้างล่างเขาคุยอะไรกัน ญัตติด่วนด้วยวาจาไม่ใช่เรื่องที่เขียนขึ้นมา ประธานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์จึงไม่ทราบ อยากให้ไปถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณบัลลังก์ว่ามีการพูดคุยอะไรกันถ้าผิดไปจากนี้ตนรับผิดชอบ.-315.-สำนักข่าวไทย