กมธ.ปกครอง จี้ถาม “ธนดล” เหตุตรวจสอบที่ดินปากช่อง

รัฐสภา 26 ก.พ.- กมธ.ปกครอง จี้ถาม “ธนดล” เหตุตรวจสอบที่ดินปากช่อง “สส.ภท.” ชี้ มองเป็นมิติอื่นไม่ได้ นอกจากประเด็นการเมือง ไม่ห่วงแรนโชชาญวีร์-ทรอสคาน่า-โบนันซ่า แต่ห่วง ปชช. ที่ได้ที่ดินมาถูกต้อง ด้าน “วัชรพงศ์” จี้ ตรวจ รร.นายกฯ บนเขาใหญ่ เพื่อความเท่าเทียม


คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธาน ได้พิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนที่ดินของรัฐ กรณีศึกษาพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) , กรมที่ดิน ,กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่กำกับดูแลนิคมสร้างตนเอง และ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เข้าชี้แจง

นายกรวีร์ กล่าวว่า ขอชื่นชมและขอบคุณคณะทำงาน หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาศึกษาและลงพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้กรรมาธิการเองก็ได้ศึกษาปัญหาที่ดินทับซ้อนมาก่อนแล้วพบว่าที่ดินของ ส.ป.ก.หลายแห่งมีทั้งการถูกบุกรุก และใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงได้ขอสอบถามเบื้องต้นถึงขอบเขตและอำนาจในการตรวจสอบ


นายธนดล ชี้แจงว่า ตนเป็นคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นประธานตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ทั้งหมด 72 จังหวัด จากการที่รัฐมนตรีฯแต่งตั้งตนตาม พ.ร.บ.บริหาราชการแผ่นดินปี 2534 และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินปี พ.ศ. 2518 ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งตนต้องประสานงานกับ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดก่อนจะลงพื้นที่ และต้องยอมรับข้อเท็จจริงจากการที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่า แทบจะไม่มี ผู้ที่ได้รับจัดสรรเป็นที่ส.ป.ก.และใช้พื้นที่จริง กลายเป็นว่ามีผู้อื่นมาใช้พื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ตรวจพบเป็นรีสอร์ท ร้านกาแฟ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ทางปฏิรูปที่ดิน ก็จะทำหนังสือเรียกมาชี้แจง สุดท้ายก็จะเป็นดุลพินิจของ ปฏิรูปที่ดินในจังหวัดนั้น ๆ ว่าจะเพิกถอนหรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า การไปตรวจสอบพื้นที่อำเภอปากช่อง สืบเนื่องมาจาก ปีที่แล้ว ทาง ส.ป.ก. โดนกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวหาว่า ส.ป.ก. มีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ทับพื้นที่กรมอุทยาน ซึ่งเป็นข่าวดัง และตนได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
จึงมีการไปตรวจสอบ โดยใช้กรมแผนที่ทหาร เป็นตัวกลางดูแนวเขต และตามระเบียบไม่สามารถที่จะออกได้ ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ป่า ไม่เคยมีราษฎรเข้าไปทำกินในบริเวณดังกล่าว จนทำให้ทราบว่า มีข้าราชการฉ้อฉลและทุจริตต่อหน้าที่

“ก่อนจะไปตรวจสอบต้องศึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบ เพราะมีนักการเมืองท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล พร้อมที่จะฟ้องร้อง ซึ่งระหว่างนี้มีประเด็นทางการเมืองที่กำลังร้อนแรง อาจทำให้เข้าใจได้บ้างว่า เป็นประเด็นกลั่นแกล้งกันหรือไม่ แต่ขอยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ตามกฎหมาย ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดทั้งสิ้น” นายธนดล กล่าว


นายกรวีร์ เชื่อว่า การทำหน้าที่ของคณะทำงาน ทำตามขอบเขตวัตถุประสงค์ เพื่อปกป้องพื้นที่ ส.ป.ก. ส่วนจังหวะทางการเมือง เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า และเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีเจตนาทางการเมือง แต่อยากทราบถึงหลักเกณฑ์การลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ปากช่องนั้น มีความเร่งด่วนอย่างไร ไม่เช่นนั้นจะเกิดข้อครหาว่าทำเพื่อประเด็นทางการเมือง

นายธนดล ยืนยัน ไม่ได้ไปที่ปากช่องเป็นหลัก แต่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบมา 22 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ แต่ละพื้นที่ทางกายภาพจะแตกต่างกัน ต้องยอมรับว่าการจัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรนั้น มาจากกฎหมายเก่า ตั้งแต่ปี 18 แต่ปัจจุบันประชาชนที่ได้รับการจัดสรร นำไปขายต่อ ซึ่งผิดกฎหมายและผิดวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก. และที่ต้องทำคือ การปราบปรามไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนจะให้ที่ ส.ป.ก. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือเป็นที่เอกชน ก็ต้องแก้ไขกฎหมาย

นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ในเมื่อวันแมปยังไม่เสร็จ ก็ไม่สบายใจในการไปตรวจสอบ หากตรวจสอบไป ก็ต้องรอวันแมปอยู่ดี ทั้งนี้ อยากทราบมีพื้นที่หรือสถานที่ข้าราชการกี่แห่งมีการบุกรุก คนโคราชเองก็เข้าไปทำธุรกิจ เมื่อยังไม่สิ้นสุดกระบวนการ ทำให้เกิดผลกระทบ นักลงทุนก็ไม่มา มันทำลายปากช่องไปแล้ว วันนี้คนที่จะมาลงทุนก็ไม่อยากมา จริงๆ คนที่ถือโฉนดที่ปากช่อง ก็กลัวขาสั่นกันหมด ปวดหัวว่าสิ่งที่ได้ซื้อมา หรือที่ถืออยู่มันถูกต้องหรือไม่ และ มองไม่เห็นแสงไฟปลายอุโมงค์ ว่าที่ดินของเราจะโดนหรือไม่ และพอวันแมพมา ก็มายื่นคัดค้านกันอีก

“ผมไม่ได้เปนห่วง แรนโชชาญวีร์ เพิกถอนะเมื่อไหร่ เขาขายไป กรมที่ดินก็ชดเชยไป กี่บาทก็ว่ากันไป กี่ไร่ก็ว่ากันไป ผมไม่เป็นห่วงหรอก ผมไม่ได้เป็นห่วงทอสคาน่า ไม่ได้ห่วงโบนันซ่า แต่เป็นห่วง นาย ก. นาย ข. ที่มีที่อยู่ 200 วา มีอยู่ 1 ไร่ จะเดินต่ออย่างไร” นายพลพีร์ กล่าว

นายธนดล ชี้แจงว่า พื้นที่ที่โคราชการทำวันแมปเสร็จเรียบร้อย และเข้า ครม.แล้ว ว่าเป็นเขตไหน เป็นพื้นที่กลุ่ม 3 ว่ามีแนวเขตตรงไหน

“ถ้าเราไม่มั่นใจ เราไม่ลงหรอก ไม่งั้นก็เป็นข้อครหาหมด กฎหมายก็คือกฎหมาย อันนี้คือสิ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ ผมได้บอกไว้แล้ว ว่า กฎหมาย ส.ป.ก.มาเมื่อปี 18 ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่าทางกายภาพมันเปลี่ยนแปลงไปจริง แต่ถ้าท่านอยากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ท่านก็แก้กฎหมายสิ” นายธนดล กล่าว

นายธนดล กล่าวอีกว่า ได้ตรวจพบว่า ปัจจุบันการออกโฉนด 46,000 ไร่ ที่ งอกออกมาจากนิคม มาทับที่ ส.ป.ก.นั้น คือปัจจัยหลัก ก็ต้องไปดูหลักฐานที่กางออกมา ว่าออกมาด้วยอะไร ส่วนที่กรมที่ดินออกมาก็ออกตามเอกสารที่ได้มาจากทางนิคม แต่ที่ตนไม่เห็นด้วย คือ ปัจจุบันนี้มันบวมออกมาจาก ส.ป.ก.เรื่อยๆ แล้วถ้าวันข้างหน้ามันขยับเข้ามาอีก จากที่ดินของรัฐ กลายเป็นที่ดินของเอกชน โเยเป็นช่องว่างทางกฎหมาย นี่คือสิ่งที่ตนออกมาต่อสู้เรื่องนี้

ขณะที่นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน และโฆษก กมธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีโอกาสไปตรวจในพื้นที่สระบุรี ก็ต้องขอบคุณที่ไปตรวจสอบบางที่ที่เป็นประเด็น โดยเฉพาะการออกโฉนดทับที่ ส.ป.ก.ซึ่งตนเห็นด้วยที่ท่านต้องนำกลับมาเป็นสมบัติของชาติ แต่ตนไปเห็นในรายการหนึ่งเปิดประเด็นว่า ป.ป.ช. ได้เปิดสัญญาจัดการหุ้นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบธุรกิจโรงแรมหรูเขาใหญ่ ก็เป็นที่สนใจว่า นายธนดล มีแนวคิดที่จะไปตรวจสอบหลายๆ โรงแรมที่อยู่พื้นที่เขาติดเขาใหญ่ หรือไม่ ซึ่งตนอยากให้ไปตรวจสอบหลายๆ โรงแรมที่เป็นประเด็นข้อสงสัย เพื่อทำให้ชัดเจนต่อประชาชน

นายธนดล กล่าวว่า เห็นตามข่าว คือโรงแรมเทมส์วัลลีย์เขาใหญ่ พบว่าอยู่ก่อนถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 5 นาที ซึ่งที่ของ ส.ป.ก.อยู่ฝั่งขวา ที่ของโรงแรมอยู่ฝั่งซ้าย เป็นเขตของนิคมฯ ซึ่งตนพร้อมไปตรวจสอบ ถ้าอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการอนุญาต ซึ่งตนมีอำนาจแค่ตรวจสอบ เฉพาะพื้นที่ในเขต ส.ป.ก.

ขณะที่อธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันว่า เอกสารสิทธิทุกใบที่กรมที่ดินออกโฉนดให้ในพื้นที่ดังกล่าว ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ในเรื่องของหลักการ หรือการดำเนินการที่มีการทับซ้อน ซึ่งคาดว่าไม่เกี่ยวกับกรมที่ดิน เพราะเป็นปลายทาง เพราะเป็นการทับซ้อนกันระหว่าง ส.ป.ก.กับนิคมฯ ซึ่งกรมที่ดินพร้อมดำเนินการ ตามผลการดำเนินการออกมา แต่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วหลายปีไม่ได้ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดในปีนี้ ซึ่งในพื้นที่ที่มีการทับซ้อนกัน ซึ่งขณะนี้ปัญหาทั้งหมดไปอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช.

นายมูฮัมหมาด ยังหะสัน ผอ.กองที่ดินของรัฐ สคทช.และเลขานุการ One Map เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ประกาศไปแล้วว่า จะทำเส้น One map 7 กลุ่ม กลุ่มละ 11 จังหวัด ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนี้ ที่ผ่านมาแล้วเสร็จไปแล้ว 5 กลุ่ม ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว 4 กลุ่ม ส่วนพื้นที่กลุ่ม 3 ที่มี จ.นครราชสีมา รวมอยู่ด้วย ซึ่งผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ยกเว้นพื้นที่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมแผนที่ทหาร โดยในกรณีที่ผ่านที่ประชุม ครม.แล้ว หากมีพื้นที่ทับซ้อนกัน และต้องแก้ไขแนวเขตบางส่วน ก็ให้หน่วยงานไปดำเนินการแก้ไข ภายใน 360 วัน แต่การดำเนินการ One map จะต้องไม่ไปริดรอนการครอบครองเอกสารสิทธิที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากมีการจัดสรรที่ดินแล้วพบว่า ไปอยู่ในพื้นที่ของรัฐประเภทอื่น หลักการที่ ครม.เห็นชอบไว้ คือ การตรวจให้หน่วยงานร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย และหาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเหมาะสม ซึ่งต้องนำเสนอ สคทช. เพื่อพิจารณาในเชิงนโยบาย ยืนยัน ไม่ใช่การไปจับกุม.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]