รัฐสภา 29 ม.ค.- “สว.อังคณา” เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องอนุญาต “นักวิชาการอิสระ” เข้าเยี่ยมชาว “อุยกูร์” บอกขนาด สว.ยังเข้าไม่ได้ เหตุ จนท.แจ้งเกี่ยวข้องพรรคการเมือง ยันวุฒิสมาชิกเป็นอิสระ หวั่น กระบวนการส่งกลับผิดพันธกรณีระหว่างประเทศ
นางอังคณา นีละไพจิตร แถลงถึงกรณีที่ทางการไทยจะส่งนักโทษชาวอุยกูร์กลับประเทศ ว่า หลายฝ่ายก็กังวลว่าเขาอาจจะเผชิญอันตรายถ้าหากส่งกลับ ถ้าจำกันได้เมื่อปี 2558 ประเทศไทยเองก็เคยส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับประเทศจีนมาแล้ว ซึ่งในวันนี้ ญาติพี่น้องของเขายังยืนยันว่าไม่ทราบชะตากรรมคนที่ถูกส่งกลับ
เมื่อวานนี้ทาง กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ สว. ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมกันให้ข้อมูล สิ่งที่ กมธ. ได้พยายามทำตลอดมา คือส่งหนังสือถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 3 ฉบับ เพื่อที่จะขอเข้าเยี่ยมชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ เนื่องจากได้รับทราบว่ามีคนที่กำลังอดอาหารประท้วง แต่ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม
จากที่ สมช.และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชี้แจง เป็นเพราะวุฒิสภาเกี่ยวข้องกับการเมือง เราจึงได้ชี้แจงว่าวุฒิสภาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง กมธ. เองก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว กมธ. ในฐานะที่มีอิสระควรจะได้เข้าเยี่ยมคนที่อาจถูกละเมิดสิทธิ
นางอังคณา กล่าวอีกว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแจ้งว่ามีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 39 คน อยู่ที่โรงพยาบาล 1 คน เป็นผู้ป่วยหนักติดเตียงและมีแผลกดทับ ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตด้วย และมีคนหนึ่งที่อดอาหารประท้วง กมธ. ก็แสดงความห่วงใย เนื่องจากผู้กักขังอาจจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการที่จะดูแลเรื่องอาหารในระยะเวลานาน การที่อาจจะมาเริ่มทานอาหารใหม่ อาจจะส่งผลต่อสุขภาพเหมือนกรณีของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ซึ่ง กมธ.ได้มีการแนะนำให้กาชาดระหว่างประเทศเข้าเยี่ยมและให้คำแนะนำในเรื่องของการส่งกลับ
นางสาวอังคณา กล่าวย้ำว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สมช.และกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่ละเมิดพันธะกรณีระหว่างประเทศ รับประกันว่าจะไม่มีการผลักดันผู้ลี้ภัยหรือผู้แสวงหาที่พักพิงกลับไปเผชิญอันตราย ซึ่งเมื่อปีที่แล้วทางผู้เชี่ยวชาญแห่งสหประชาชาติได้มีหนังสือถึงประเทศไทย กังวลว่าประเทศไทยจะส่งกลับ โดยทาง กมธ. ต้องขอขอบคุณสำหรับการยืนยันนี้ ดังนั้นการเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้าไปเยี่ยมจะถือเป็นการยืนยันว่าไทยปฏิบัติตามหลักสากล
“แม้ว่าคนกลุ่มนี้อาจจะถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด แต่ถ้าหากว่าเชื่อว่าเขากลับประเทศต้นทางแล้วจะได้รับอันตราย ประเทศไทยก็ไม่สามารถที่จะส่งกลับได้ ไม่ว่ากรณีใด สิ่งหนึ่งที่เรากังวลก็คือการไม่อนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญอิสระเข้าเยี่ยม ซึ่งในรายงานของผู้เชี่ยวชาญแห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ประเทศไทยตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตให้เป็นไปตามหลักสากล” นางอังคณา กล่าว
นางอังคณา กล่าวว่า ตนหวังว่า กมธ.จะได้พูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดูแลเรื่องความมั่นคง ตนคิดว่าเรายินดีที่จะไปพบและหารือ เนื่องจากเราก็ยืนยันว่าในฐานะวุฒิสมาชิก เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคการเมือง
“สภาพห้องกับแย่กว่าเรือนจำมากแล้วทาง กมธ.เองก็คงจะศึกษาในเรื่องการกักตัวผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายในห้องกัก เพื่อมีข้อเสนอแนะและข้อสังเกตให้รัฐบาลต่อไป” นางอังคณา กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย