“ภูมิธรรม” สรุปภารกิจเยี่ยมชาวอุยกูร์วันแรก ได้ผลลัพธ์มาก

จีน 20 มี.ค.-“ภูมิธรรม” สรุปภารกิจเยี่ยมชาวอุยกูร์วันแรก ได้ผลลัพธ์มาก มั่นใจผู้นำระดับจีนให้คำมั่นไทย แจงเหตุเบลอหน้าเป็นสิทธิส่วนตัว-มนุษยชน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปภาพรวมวันแรกของการเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน ว่า เมื่อวานนี้ลงจากเครื่องบินก็ทำงาน ซึ่งแต่ละจุดที่ไปก็เดินทางลำบาก เพราะบ้านของแต่ละคนอยู่ห่างไกลกัน แยกไป 3 เมืองใหญ่ของคานซือ ซึ่งอยู่ในมณฑลซินเจียง ห่างกัน 400-500 กิโลเมตร อย่างวันนี้ที่จะไปเยี่ยมชาวอุยกูร์อีก ก็ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 5-6 ชั่วโมง เพราะมณฑลซินเจียงใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า และภูมิประเทศเป็นภูเขา เป็นทะเลทราย เมื่อวานนี้ถือว่าได้งานมากพอสมควร โดยเฉพาะคนที่อยู่โรงพยาบาลเป็นคนสุดท้ายที่ได้ขึ้นเครื่องบินกลับ ด้วยการหามเปลขึ้นเครื่อง ซึ่งเขามีอาการเจ็บไข้ทางปอดและผิวหนัง จากการที่ตนได้คุยกับแพทย์ก็ได้รับคำยืนยันว่าสภาพร่างกายตอนนี้ดีขึ้นแล้ว พลิกตัวได้มากขึ้น


นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวขอโทประชาชนคนไทยด้วย ที่ดูข่าวแล้วเห็นการเบลอหน้าของชาวอุยกูร์ เพราะจากการที่เราได้พูดคุยกับชาวอุยกูร์และทางการจีน เขาขอความร่วมมือให้เบลอหน้าเวลานำเสนอข่าว แต่สื่อที่มาทำข่าวได้เห็นหน้าจริงๆ ได้เปรียบเทียบว่าเป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายและมีชื่อถูกส่งมาจริงหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้สอบถามเหตุผลในการเบลอหน้าซึ่งบางคนก็บอกว่า เพราะบางคนไม่สบายใจ เนื่องจากกลับมาแล้วก็ได้ชีวิตใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองจากสาธารณะ ซึ่งเราเข้าใจความรู้สึก อีกทั้งบางคนเคยถูกชักจูงจากกลุ่มมุสลิมที่ต้องการเปลี่ยนแปลง เขาก็กลัวว่าถ้ากลับมาแล้ว ก็ไม่อยากไปแตะหรือเกี่ยวข้องอีก จึงยินดีให้เราสัมภาษณ์แต่ขอให้เขาได้ใช้ชีวิตส่วนตัว ซึ่งถือเป็นหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิส่วนตัว ที่พวกเขาสามารถทำได้

“ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีใครหยิบเป็นประเด็นขึ้นมา เพื่อมาด้อยค่าความเป็นจริง เราต้องอยู่กับความเป็นจริง และการที่เราเชิญสื่อมวลชนมา ก็เป็นสื่อจากช่องต่างๆที่มียอดคนดูคนติดตามจำนวนมากเพราะเราต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ของคนในประเทศได้มาก จะเห็นว่าเครือใหญ่ๆ ที่มียอดขายหรือคนติดตามเป็นที่นิยม เราก็เชิญมาทั้งหมด ทั้งเนชั่น ช่อง3 NBT เครือมติชน เครือไทยรัฐ เราเชิญหมด ถ้าดูในรายชื่อก็จะทราบว่าเราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ซี่งทุกคนที่มาได้เห็นความจริง และได้เจอความเป็นจริงทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นลงจากรถก็ได้พบพร้อมๆ กัน”นายภูมิธรรม กล่าว


ส่วนเกณฑ์การเลือกครอบครัวที่ไปพบ เป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มี 2 อย่างคือ 1.ขอพบกับ 40 คนที่เราส่งกลับเป็นกลุ่มหลัก 2.ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพบกับคนที่กลับมาในช่วงปี 2558 ซึ่งถ้าเราได้เจอทั้งสองส่วนเราก็สบายใจขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ติดตาม ส่วนเกณฑ์อื่นไม่มี

“ที่สำคัญคือเขาต้องสมัครใจ เราไม่มีสิทธิละเมิดสิทธเขา เรามาไม่ใช่มาเยี่ยมผู้ต้องหา แต่เรามาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบ ถ้าพูดกันตามหลักเรื่องนี้จบตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบินของประเทศจีนกลับแล้ว ซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศเขา ภารกิจของไทยจบแล้ว แต่เราไม่ได้มีภารกิจเพื่อทำแค่นี้ เพราะยังคงมีความกังวลใจต่างๆ ตั้งแต่เราเริ่มต้นตัดสินใจ ซึ่งก็ยากลำบากเพราะเกี่ยวพันกับหลายส่วน และมีมุมมองที่แตกต่างกัน เราต้องเลือกทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด และเรารู้ว่ายังมีคนห่วงใย เราจึงพยายามเชิญสื่อทุกส่วนมาเห็นจริงๆ ก็ถือว่าจีนอำนวยความสะดวกเยอะ ซึ่งสื่อก็เป็นพยานได้ เดิมขอแค่ 5 คน เพราะเหตุผลในบ้านเขามันคับแคบ ตนจึงบอกว่าถ้าเชิญมาจากประเทศไทยแล้วไม่ให้เข้าไปดู ให้เข้าแค่ 2 คน มันคงไม่ได้ แต่ละช่องไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นตัวแทนพูล จึงต้องให้สลับกันเข้าไป”

นายภูมิธรรม ย้ำว่า เราเปิดกว้าง หากใครคิดว่ามีการจัดฉาก ก็ไปหาล่ามมานั่งดูได้ หรือถ้าคิดว่าจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นหลัก ก็พิสูจน์ได้ทั้งหมด เพราะเราทำครั้งนี้เราโปร่งใสหมด ส่วนการแสดงความรู้สึกมันห้ามไม่ได้ เขาไม่ใช่ดาราฮอลลีวูด บอกให้ร้องไห้ก็ร้องได้เลย อันนี้มาถึงเขาน้ำตาซึม น้ำตาคลอ พอถามว่าดีใจไหม หรือรู้สึกอย่างไร น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างที่เห็น ตนแตะมือเขาเบา แต่เขาบีบมือแน่น แม้กระทั่งผู้หญิงที่เป็นพี่สาว ก็บีบมือตน ซึ่งเป็นการแสดงออกได้ชัดเจนจริงๆ แทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ดูภาพ ฟังเสียง ดูสายตา ดูอารมณ์ความรู้สึก ภาพมันตอบทั้งหมด และเป็นภาพที่เกิดขึ้นจากความจริง ตอบได้ง่ายกว่า และพวกเขาไม่ใช่ดาราหนังไทย หรือดาราซีรีย์ฮอลีวูด เพราะฉะนั้นดูแล้ววิเคราะห์เอา พร้อมขอให้สื่อบางส่วนใจกว้างขึ้นหน่อย ตนให้ความสำคัญกับประชาชนมากที่สุด ดูแล้วก็ตัดสินใจได้


สำหรับผลลัพธ์จากการพูดคุย ยิ่งตอกย้ำหรือไม่ว่าเป็นการตัดสินใจถูกต้อง ในการส่งตัวกลับมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดิมตนคิดว่า ได้ตัดสินใจกับคณะที่เกี่ยวข้อง เราพยายามทำดีที่สุดแล้ว ถ้าพูดตามตรงเราไม่อาจรับประกันใครได้ 100% เพราะไม่ใช่ตัวเรา แต่เรามั่นใจในจีน ถือว่าสิ่งที่เขาให้คำมั่นกับเราตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำระดับสูงของเขา ก็ให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีไทย ว่าไม่ต้องห่วง เขาจะดูแลอย่างดี นี่คือผู้นำระดับโลก ก็ควรรับฟังได้ และเราไม่ได้ปล่อยผ่านในรายละเอียด ขอให้เขาออกแถลงข่าวยืนยัน ซึ่งเขาก็ออกหนังสือสำคัญทางการทูตที่ทั่วโลกรับรองมาว่า เขาจะมารับและดูแลสุขภาพคนเหล่านี้ และก็หางานให้ทำ แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามอีก เราจึงให้คนตามไปทั้ง สมช. และทูตไทย และครั้งนี้ตนก็เดินทางมาเอง ในระดับรองนายกรัฐมนตรี และยังมีรัฐมนตรียุติธรรม พร้อมกับสื่อมวลชนอย่างอิสระ

“อย่ารู้สึกว่าทุกคนต้องได้มา เพราะความเป็นจริงที่เราทำงานกันมา ก็รู้อยู่แล้วว่าไปต่างประเทศเราไม่ได้ไปทุกคน อย่างสมัยที่นายกรัฐมนตรีไป ก็ให้คณะเดียว แล้วทำพูลส่งให้ทุกคน ทุกคนก็รู้หมด ไม่ว่าคนประท้วงหรือไม่ประท้วง และมาคราวนี้ก็ถือว่าผมให้เกินหลักการที่เคยทำเ นำทั้งสื่อของรัฐและเอกชนมา ซึ่งเราพยายามทำทุกอย่างแล้วใครที่ไม่ได้มาครั้งนี้ โอกาสไปประเทศอื่นก็ยังมี อย่าใช้ตรงนี้เป็นเหตุที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ เพราะเพื่อนๆก็มาทำหน้าที่ให้แล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาติดใจ มาทำให้เกิดความไขว้เขว เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ เป็นเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศของไทย ปลดล็อคภาระทั้งหมดที่เราแบกมากกว่า 10 ปี”

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ตนก็ได้ขอโทษบางคนด้วยใจจริง เพราะเรารู้สึกว่าเขามีโทษหลบหนีเข้าเมืองแค่ไม่เกิน 2 ปี หรือบางคนก็ 3 เดือน แต่นี่มันหนัก เราจึงรู้สึกและขอโทษที่ทำให้ต้องอยู่ในประเทศของเรา 10 กว่าปี และดีใจแทนที่เขาได้กลับบ้าน ซึ่งตนเห็นแล้วก็สบายใจ เชื่อว่าสิ่งที่ตนและทีมไทยที่จัดการทั้งหมด ก็ฝากประชาชนเป็นคนตัดสินจากความเป็นจริงที่เรานำเสนอโดยสื่อของไทยทุกสื่อ

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าการเยี่ยมครั้งต่อไปจะใช้ระบบซูม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องเคารพอธิปไตยของจีน เราบอกและเสนอเขาได้ ถ้าเขาอนุมัติก็โอเค แต่ต้องยอมรับว่าคนที่จะมาออกสื่อ ก็อึดอัดใจเหมือนกัน เพราะเขาผ่านอะไรร้ายๆมาแล้ว ก็อยากใช้ชีวิตปกติกับครอบครัว บางทีการที่เราเอาเขามาออกสู่สาธารณะ แล้วซักถามเหมือนเขาเป็นนักโทษ เราก็คงต้องคิดในแง่ของมนุษยธรรมด้วย เพราะเขาก็เป็นคนเหมือนกัน เขาควรตัดสินใจ ไม่ใช่ให้คนอื่นตัดสินใจหรือกำหนดอนาคตให้ เจาต้องมาตอบคำถามอย่างกับเป็นจำเลยของสังคม มันไม่ใช่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พิชัย” ปฏิเสธ ลั่นไม่เกี่ยวรับจำนำสร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พ” ยืนยันไม่รู้เรื่องสร้อยเพชรเส้นเดียวในโลกของ เมย์-วาสนา หลังมีข่าว ดิว-อริสรา เอาไปจำนำกับรัฐมนตรีอักษรย่อ “พ”

รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว” บินออกนอกประเทศ

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว อริสรา” บินออกนอกประเทศ พร้อมคุมตัวตามขั้นตอนหากพบผู้ถูกกล่าวหาเดินทางเข้าไทย

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.รร.ในกาฬสินธุ์ ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เข้า สพฐ.ชั่วคราว หลังถูกร้องเรียน ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครูในโรงเรียน

ข่าวแนะนำ

กองปราบฯ ลุยสอบเส้นเงิน “ดิว อริสรา”

กองปราบฯ ลุยตรวจเส้นทางเงิน “ดิว อริสรา” กรณีนำของหรูกว่า 62 ล้านบาท ไปขายใช้หนี้ 22 ล้านบาท พร้อมประสาน “ซุง ศตาวิน” เข้าให้ปากคำ ด้าน “ดิว อริสรา” โพสต์ขอโทษทุกการกระทำ ยอมรับผิดทั้งหมด

นายกฯ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่

นายกฯ บินนครสวรรค์ ชื่นชมตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติด 7 คดีใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 20 ล้านเม็ด เร่งรัดเครื่องเอกซเรย์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่นปราบยาเสพติดเข้มข้นครบวงจร ขอให้มั่นใจไม่มีวนของกลาง พร้อมพิจารณางบสร้างขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ก.คมนาคม แจ้งความผู้รับเหมาปมคานทรุดตัว

กระทรวงคมนาคมเข้าร้องทุกข์ สน.บางมด ดำเนินคดีผู้รับเหมาทั้งแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง” ทรุดตัว พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ได้ข้อสรุปภายใน 20 วัน ขณะที่ปัจจุบันได้ตั้งทีมพิเศษสแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ใหญ่ทั่วประเทศ ให้ DSI เข้ามาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง