“ภูมิธรรม” สรุปภารกิจเยี่ยมชาวอุยกูร์วันแรก ได้ผลลัพธ์มาก

จีน 20 มี.ค.-“ภูมิธรรม” สรุปภารกิจเยี่ยมชาวอุยกูร์วันแรก ได้ผลลัพธ์มาก มั่นใจผู้นำระดับจีนให้คำมั่นไทย แจงเหตุเบลอหน้าเป็นสิทธิส่วนตัว-มนุษยชน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปภาพรวมวันแรกของการเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีน ว่า เมื่อวานนี้ลงจากเครื่องบินก็ทำงาน ซึ่งแต่ละจุดที่ไปก็เดินทางลำบาก เพราะบ้านของแต่ละคนอยู่ห่างไกลกัน แยกไป 3 เมืองใหญ่ของคานซือ ซึ่งอยู่ในมณฑลซินเจียง ห่างกัน 400-500 กิโลเมตร อย่างวันนี้ที่จะไปเยี่ยมชาวอุยกูร์อีก ก็ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 5-6 ชั่วโมง เพราะมณฑลซินเจียงใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า และภูมิประเทศเป็นภูเขา เป็นทะเลทราย เมื่อวานนี้ถือว่าได้งานมากพอสมควร โดยเฉพาะคนที่อยู่โรงพยาบาลเป็นคนสุดท้ายที่ได้ขึ้นเครื่องบินกลับ ด้วยการหามเปลขึ้นเครื่อง ซึ่งเขามีอาการเจ็บไข้ทางปอดและผิวหนัง จากการที่ตนได้คุยกับแพทย์ก็ได้รับคำยืนยันว่าสภาพร่างกายตอนนี้ดีขึ้นแล้ว พลิกตัวได้มากขึ้น


นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวขอโทประชาชนคนไทยด้วย ที่ดูข่าวแล้วเห็นการเบลอหน้าของชาวอุยกูร์ เพราะจากการที่เราได้พูดคุยกับชาวอุยกูร์และทางการจีน เขาขอความร่วมมือให้เบลอหน้าเวลานำเสนอข่าว แต่สื่อที่มาทำข่าวได้เห็นหน้าจริงๆ ได้เปรียบเทียบว่าเป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายและมีชื่อถูกส่งมาจริงหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้สอบถามเหตุผลในการเบลอหน้าซึ่งบางคนก็บอกว่า เพราะบางคนไม่สบายใจ เนื่องจากกลับมาแล้วก็ได้ชีวิตใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองจากสาธารณะ ซึ่งเราเข้าใจความรู้สึก อีกทั้งบางคนเคยถูกชักจูงจากกลุ่มมุสลิมที่ต้องการเปลี่ยนแปลง เขาก็กลัวว่าถ้ากลับมาแล้ว ก็ไม่อยากไปแตะหรือเกี่ยวข้องอีก จึงยินดีให้เราสัมภาษณ์แต่ขอให้เขาได้ใช้ชีวิตส่วนตัว ซึ่งถือเป็นหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิส่วนตัว ที่พวกเขาสามารถทำได้

“ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีใครหยิบเป็นประเด็นขึ้นมา เพื่อมาด้อยค่าความเป็นจริง เราต้องอยู่กับความเป็นจริง และการที่เราเชิญสื่อมวลชนมา ก็เป็นสื่อจากช่องต่างๆที่มียอดคนดูคนติดตามจำนวนมากเพราะเราต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ของคนในประเทศได้มาก จะเห็นว่าเครือใหญ่ๆ ที่มียอดขายหรือคนติดตามเป็นที่นิยม เราก็เชิญมาทั้งหมด ทั้งเนชั่น ช่อง3 NBT เครือมติชน เครือไทยรัฐ เราเชิญหมด ถ้าดูในรายชื่อก็จะทราบว่าเราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ซี่งทุกคนที่มาได้เห็นความจริง และได้เจอความเป็นจริงทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นลงจากรถก็ได้พบพร้อมๆ กัน”นายภูมิธรรม กล่าว


ส่วนเกณฑ์การเลือกครอบครัวที่ไปพบ เป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า มี 2 อย่างคือ 1.ขอพบกับ 40 คนที่เราส่งกลับเป็นกลุ่มหลัก 2.ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพบกับคนที่กลับมาในช่วงปี 2558 ซึ่งถ้าเราได้เจอทั้งสองส่วนเราก็สบายใจขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ติดตาม ส่วนเกณฑ์อื่นไม่มี

“ที่สำคัญคือเขาต้องสมัครใจ เราไม่มีสิทธิละเมิดสิทธเขา เรามาไม่ใช่มาเยี่ยมผู้ต้องหา แต่เรามาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบ ถ้าพูดกันตามหลักเรื่องนี้จบตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบินของประเทศจีนกลับแล้ว ซึ่งเป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศเขา ภารกิจของไทยจบแล้ว แต่เราไม่ได้มีภารกิจเพื่อทำแค่นี้ เพราะยังคงมีความกังวลใจต่างๆ ตั้งแต่เราเริ่มต้นตัดสินใจ ซึ่งก็ยากลำบากเพราะเกี่ยวพันกับหลายส่วน และมีมุมมองที่แตกต่างกัน เราต้องเลือกทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด และเรารู้ว่ายังมีคนห่วงใย เราจึงพยายามเชิญสื่อทุกส่วนมาเห็นจริงๆ ก็ถือว่าจีนอำนวยความสะดวกเยอะ ซึ่งสื่อก็เป็นพยานได้ เดิมขอแค่ 5 คน เพราะเหตุผลในบ้านเขามันคับแคบ ตนจึงบอกว่าถ้าเชิญมาจากประเทศไทยแล้วไม่ให้เข้าไปดู ให้เข้าแค่ 2 คน มันคงไม่ได้ แต่ละช่องไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นตัวแทนพูล จึงต้องให้สลับกันเข้าไป”

นายภูมิธรรม ย้ำว่า เราเปิดกว้าง หากใครคิดว่ามีการจัดฉาก ก็ไปหาล่ามมานั่งดูได้ หรือถ้าคิดว่าจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นหลัก ก็พิสูจน์ได้ทั้งหมด เพราะเราทำครั้งนี้เราโปร่งใสหมด ส่วนการแสดงความรู้สึกมันห้ามไม่ได้ เขาไม่ใช่ดาราฮอลลีวูด บอกให้ร้องไห้ก็ร้องได้เลย อันนี้มาถึงเขาน้ำตาซึม น้ำตาคลอ พอถามว่าดีใจไหม หรือรู้สึกอย่างไร น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างที่เห็น ตนแตะมือเขาเบา แต่เขาบีบมือแน่น แม้กระทั่งผู้หญิงที่เป็นพี่สาว ก็บีบมือตน ซึ่งเป็นการแสดงออกได้ชัดเจนจริงๆ แทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ดูภาพ ฟังเสียง ดูสายตา ดูอารมณ์ความรู้สึก ภาพมันตอบทั้งหมด และเป็นภาพที่เกิดขึ้นจากความจริง ตอบได้ง่ายกว่า และพวกเขาไม่ใช่ดาราหนังไทย หรือดาราซีรีย์ฮอลีวูด เพราะฉะนั้นดูแล้ววิเคราะห์เอา พร้อมขอให้สื่อบางส่วนใจกว้างขึ้นหน่อย ตนให้ความสำคัญกับประชาชนมากที่สุด ดูแล้วก็ตัดสินใจได้


สำหรับผลลัพธ์จากการพูดคุย ยิ่งตอกย้ำหรือไม่ว่าเป็นการตัดสินใจถูกต้อง ในการส่งตัวกลับมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดิมตนคิดว่า ได้ตัดสินใจกับคณะที่เกี่ยวข้อง เราพยายามทำดีที่สุดแล้ว ถ้าพูดตามตรงเราไม่อาจรับประกันใครได้ 100% เพราะไม่ใช่ตัวเรา แต่เรามั่นใจในจีน ถือว่าสิ่งที่เขาให้คำมั่นกับเราตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำระดับสูงของเขา ก็ให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีไทย ว่าไม่ต้องห่วง เขาจะดูแลอย่างดี นี่คือผู้นำระดับโลก ก็ควรรับฟังได้ และเราไม่ได้ปล่อยผ่านในรายละเอียด ขอให้เขาออกแถลงข่าวยืนยัน ซึ่งเขาก็ออกหนังสือสำคัญทางการทูตที่ทั่วโลกรับรองมาว่า เขาจะมารับและดูแลสุขภาพคนเหล่านี้ และก็หางานให้ทำ แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามอีก เราจึงให้คนตามไปทั้ง สมช. และทูตไทย และครั้งนี้ตนก็เดินทางมาเอง ในระดับรองนายกรัฐมนตรี และยังมีรัฐมนตรียุติธรรม พร้อมกับสื่อมวลชนอย่างอิสระ

“อย่ารู้สึกว่าทุกคนต้องได้มา เพราะความเป็นจริงที่เราทำงานกันมา ก็รู้อยู่แล้วว่าไปต่างประเทศเราไม่ได้ไปทุกคน อย่างสมัยที่นายกรัฐมนตรีไป ก็ให้คณะเดียว แล้วทำพูลส่งให้ทุกคน ทุกคนก็รู้หมด ไม่ว่าคนประท้วงหรือไม่ประท้วง และมาคราวนี้ก็ถือว่าผมให้เกินหลักการที่เคยทำเ นำทั้งสื่อของรัฐและเอกชนมา ซึ่งเราพยายามทำทุกอย่างแล้วใครที่ไม่ได้มาครั้งนี้ โอกาสไปประเทศอื่นก็ยังมี อย่าใช้ตรงนี้เป็นเหตุที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ เพราะเพื่อนๆก็มาทำหน้าที่ให้แล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาติดใจ มาทำให้เกิดความไขว้เขว เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ เป็นเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศของไทย ปลดล็อคภาระทั้งหมดที่เราแบกมากกว่า 10 ปี”

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ตนก็ได้ขอโทษบางคนด้วยใจจริง เพราะเรารู้สึกว่าเขามีโทษหลบหนีเข้าเมืองแค่ไม่เกิน 2 ปี หรือบางคนก็ 3 เดือน แต่นี่มันหนัก เราจึงรู้สึกและขอโทษที่ทำให้ต้องอยู่ในประเทศของเรา 10 กว่าปี และดีใจแทนที่เขาได้กลับบ้าน ซึ่งตนเห็นแล้วก็สบายใจ เชื่อว่าสิ่งที่ตนและทีมไทยที่จัดการทั้งหมด ก็ฝากประชาชนเป็นคนตัดสินจากความเป็นจริงที่เรานำเสนอโดยสื่อของไทยทุกสื่อ

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่าการเยี่ยมครั้งต่อไปจะใช้ระบบซูม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราต้องเคารพอธิปไตยของจีน เราบอกและเสนอเขาได้ ถ้าเขาอนุมัติก็โอเค แต่ต้องยอมรับว่าคนที่จะมาออกสื่อ ก็อึดอัดใจเหมือนกัน เพราะเขาผ่านอะไรร้ายๆมาแล้ว ก็อยากใช้ชีวิตปกติกับครอบครัว บางทีการที่เราเอาเขามาออกสู่สาธารณะ แล้วซักถามเหมือนเขาเป็นนักโทษ เราก็คงต้องคิดในแง่ของมนุษยธรรมด้วย เพราะเขาก็เป็นคนเหมือนกัน เขาควรตัดสินใจ ไม่ใช่ให้คนอื่นตัดสินใจหรือกำหนดอนาคตให้ เจาต้องมาตอบคำถามอย่างกับเป็นจำเลยของสังคม มันไม่ใช่.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]