ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “หมอเกศ” 126 ล้าน หนี้ 43 ล้าน

ป.ป.ช. 24 ม.ค.-ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน “หมอเกศ” 126 ล้าน หนี้ 43 ล้าน มีที่ดินเพชรบุรีอื้อ สะสมสร้อยทอง-เพชร กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เพียบ มีรายได้จากการแขวนป้ายหมอปีละ 210,000 บาท

สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง กรณีเข้ารับตำแหน่ง จำนวน 31 คน และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 8 คน


โดย น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ”หมอเกศ” กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 แจ้งว่า สมรสกับ นายอนุสรณ์ หนังสือ คู่สมรส ซึ่งจดทะเบียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2550 และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อและอายุรวม 4 คน แจ้งมีทรัพย์สินรวม 126,804,479 บาท มีหนี้สินรวม 43,211, 671 บาท

แบ่งเป็นทรัพย์สินของ น.ส.เกศกมล 86,815,845 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 22 บัญชี รวม 1,329,669 บาท เงินให้กู้ยืม 800,000 บาท แก่ น.ส.วีณา ผาติวุฒิ ยอดหนี้เหลือเต็มจำนวน มีที่ดิน 41 แปลงใน จ.เพชรบุรีและนนทบุรี รวมมูลค่า 54,898,870 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวน 12 หลัง เป็นบ้านและตึกแถวรวมมูลค่า 22, 550,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 5,508,367 บาท โดยเป็นเงินประกันชีวิตและการผ่อนชำระที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่น 1,728,938 บาท


น.ส.เกศกมล แจ้งว่า มีหนี้สิน 23,708,290 บาท แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 146,503 บาท เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 6 บัญชี รวม 6,517,286 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 17,044,500 บาท เป็นสัญญาเงินกู้รวม 5 ฉบับ คือ 1.นางสุทินี แขวงทรัพย์ ทำสัญญา 15 มิ.ย.61 จำนวน 9 ล้านบาท 2.นายชัยยศ ยรรยงเวโรจน์ โดยนายธนะชัย ยศสินศักดิ์(แทน) ทำสัญญาเงินกู้ 24 พ.ค.62 จำนวน 3.5 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 3,544,500 บาท 3.นายปิยะ แก้วทิพยเนตร ทำสัญญาเงินกู้ 16 พ.ค 67 จำนวน 1.5 ล้านบาท 4.นางชุติมาบุญประดิษฐ์ ทำสัญญาเงินกู้ 21 พ.ค.67 จำนวน 1.5 ล้านบาท 5.นายชัยยศ ยรรยงเวโรจน์ โดยนายวิชา แสงหิรัญ (แทน)ทำสัญญาเงินกู้ 6 ธ.ค 61 จำนวน 1.5 ล้านบาท

นอกจากนี้แจ้งว่ามีรายได้ รวม 782,800 บาท เป็นรายได้จากการแขวนป้าย(หมอ) 210,000 บาท รายได้จากเงินเดือน สว. 567,800 บาท รายได้จากค่าเช่าที่ต่อปี 5,000 บาท และมีรายจ่าย รวม 476,800 บาท แบ่งเป็น ค่าโทรศัพท์ 52,800 บาท ค่าไฟฟ้า 250,000 บาท ค่าน้ำประปา 12,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 78,000 บาท ค่าผ่อนชำระที่ดิน 84,000 บาท

ส่วนนายอนุสรณ์มีทรัพย์สิน รวม 39, 985,138 บาท แบ่งเป็นเงินสด 28,000 บาท เงินฝาก 11 บัญชี 1,928,915 บาท เงินลงทุนในรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ รวม 45 คันมูลค่า 11,699,185 บาท เงินให้กู้ยืม 1,736,000 บาท โดยให้กู้ยืมแก่บุคคล 3 รายคือ นายดีน เขตสาลี เมื่อ 19 ต.ค.65 ยอดหนี้เหลือเต็มจำนวน 400,000 บาท นายจิรันธนิน นันทโชคจารุนันต์ เมื่อ 4 ม.ค.67 จำนวน 500,000 บาท ยอดหนี้เหลือ 350,000 บาท และนายชยวนนท์ วรมณีภาพันธ์ เมื่อ 23 ก.ค.67 ยอดหนี้เหลือเต็มจำนวน 836,000 บาท


มีที่ดิน 15 แปลงในจ.เพชรบุรี และ กทม. มูลค่า 11,916,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3 หลังเป็นบ้าน 2 ชั้น และตึก 4 ชั้น 2 หลัง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 2,421,736 บาท โดยเป็นเงินประกันชีวิต เงินมัดจำสมาชิกรถยนต์ และการผ่อนชำระที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทรัพย์สินอื่น 255,000 บาท

และมีหนี้สิน 19,503,380 บาท โดยเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 3 บัญชี 18,00 3,380 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 1.5 ล้านบาท โดยระบุทำสัญญาเมื่อ 6 ธ.ค.65 ผู้ให้กู้คือนายชัยยศ ยรรยงเวโรจน์ โดยนายวิชา แสงหิรัญ (แทน)

และแจ้งมีรายได้ต่อปี 6,000,000 บาท จากการขายรถมือสอง มีรายจ่ายต่อปีรวม 2,323,600 บาท แบ่งเป็นค่าโทรศัพท์ 35,600 บาท ค่าไฟฟ้า 84,000 บาท ค่าน้ำประปา 12,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำธุรกิจ 2,000,000 บาท ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา 120,000 บาท ค่าผ่อนชำระที่ดิน 72,000 บาท

นอกจากนี้แจ้งว่าบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีบัญชีเงินฝาก 4 บัญชี รวม 3,495 บาท

สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของทั้งคู่ส่วนใหญ่เป็นสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทอง เช่น สร้อยข้อมือทองคำฝังเพชร 1 เส้นมูลค่า 120,000 บาท สร้อยคอทองคำฝังเพชร 1 เส้น มูลค่า 150,000 บาท นอกจากนี้ยังมีนาฬิกา Rolex Datejust มูลค่า 250,000 บาท กำไลทองฝังเพชร Bulgari มูลค่า 95,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนม 67 ใบ เช่น กระเป๋าเสื้อผ้า louis vuitton มูลค่า 40,000 บาท กระเป๋าสะพาย gucci มูลค่า 25,000 บาท แหวนเพชร มูลค่า 80,000 บาท กำไลข้อมือ louis vuitton มูลค่า 25,000 บาท นาฬิกา Rolex Datejust หน้าขีด ฝังเพชรมูลค่า 100,000 บาท นาฬิกา Tag Heuer คิงไซส์ ก้างปลา 2 กษัตริย์มูลค่า 25,000 บาท โทรศัพท์ Z FOlD 4 มูลค่า 25,000 บาท.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย