เคาะปรับลด อ.ยะหา จ.ยะลา ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทำเนียบ 6 ม.ค.-คกก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เคาะปรับลดพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เตรียมเสนอ ครม.พิจารณา “ภูมิธรรม” ให้ทบทวนเหตุใด 20 ปี สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ชี้ “ทักษิณ” นั่งที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ส่งผลดีแก้ปัญหาชายแดนใต้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 1/2568 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับลดพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ออกจากพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เนื่องจากอำเภอยะหาเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในทุกมิติและผ่านเกณฑ์สถิติตามตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นอำเภอลำดับที่ 16 ที่มีการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากทั้งหมด 33 อำเภอ


นอกจากนี้ ที่ประชุม สมช. เห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ยกเว้น อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอไม้แก่น อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอกะพ้อ และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเวนอำเภอเบตง อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินังปินัง) ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 และสิ้นสุดลงในวันที่ 19 เมษายน 2568 โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการจะเตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 14 มกราคม 2568 นี้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ตั้งคำถาม เกี่ยวกับวิธีการทำงานและยุทธศาสตร์ในการกำหนดเป้าหมาย ทั้งหมดว่ามาถูกต้องและถูกทางหรือไม่ และได้ให้โจทก์ไปหลายข้อ ให้ทุกหน่วยราชการช่วยกันคิด ในสิ่งที่เป็นคำถาม ว่าเหตุใดสถานการณ์เกือบ 20 ปี ถึงยังเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีขึ้น อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งสิ่งที่ได้ถามไปถ้ายังไม่มีการทบทวน หรือประเมินจะทำให้สถานการณ์อยู่อย่างเดิม รวมทั้งถ้าไม่คิดวิธีใหม่ผลก็ได้อย่างเดิม ดังนั้นจึงต้องทบทวน ว่าที่ทำมาทั้งหมด เหมาะสมถูกต้องมากน้อยเพียงใด โดยได้ให้ไปดูรายละเอียด ทั้งยุทธศาสตร์ รวมทั้ง ได้พูดถึงผู้เจรจา ที่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง จึงเสนอว่ายุทธศาสตร์ต้องชัด ถึงจะสามารถกำหนดยุทธวิธี ที่จะจัดการปัญหา แล้วถึงจะกำหนดตัวบุคคลที่จะเข้ามาดำเนินการ เป็นสิ่งที่ประชาชนยังเป็นห่วง ภายในเดือนมกราคมนี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรับปากจะไปดำเนินการหาข้อสรุปตรงนี้มาได้ ส่วนของหน่วยงานที่ปฏิบัติในพื้นที่ เนื่องจาก สมช. เป็นฝ่ายนโยบาย จึงอยากให้ฟังพื้นที่ให้มาก หากตรงไหนมีความลำบากใจที่จะพูดคุยส่งข้อมูลมาให้ตนเอง หรือเลขาธิการ สมช. ได้โดยตรง เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาและทำให้ดีขึ้น


ส่วนการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน จะส่งผลดีกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่มากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า น่าจะมีผลดีมากขึ้น เพราะในปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเรื่องของมาเลเซียด้วย และรัฐบาลมาเลเซียเท่าที่ดูในวันนี้ นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ก็ปรารถนาทำให้พื้นที่ ของชายแดนสองจังหวัดมีความสงบ เป็นพื้นที่สามารถพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจได้ ดังนั้นความมุ่งหวังที่ตรงกันในส่วนนี้ และการที่คนไทยไปเป็นที่ปรึกษา เพื่อช่วยดูก็น่าจะทำให้ผลประโยชน์ในประเทศไทยและสิ่งต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ส่วนทางมาเลเซียได้พูดถึงการที่จะเข้ามาช่วย ประสานงานในพื้นที่อย่างไรบ้าง นายภูมิธรรมกล่าวว่าทั้งหมดมีท่าทีที่ดี ส่วนรายละเอียด เป็นเรื่องทางปฏิบัติดีกว่า หากพูดไปจะยากลำบากในการทำงาน

ทั้งนี้ การทำงานจะลำบากหรือไม่เนื่องจากพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่ค่อยเข้ากับในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการที่จะสร้างสันติสุข นายภูมิธรรม มองว่า ไม่มีปัญหา ความลำบากคืองานของเรา ดังนั้นหากตั้งใจ และทำให้เกิดความชัดเจน ว่าปรารถนาดี ทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่อยากได้ คิดว่าทุกคนจะต้อนรับ เรื่องนี้เหมือนกับการแย่งชิงมวลชน ถ้าเรามองมวลชนเป็นเป้าหมาย และให้ประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แม้ว่าอาจจะถูกฝ่ายคัดค้านต่อต้าน หรือทำร้าย ก็ต้องระมัดระวัง ป้องกันคนของเราอย่างเต็มที่ แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ ย้ำว่าไม่น่ากังวลใจอะไร เพียงแต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้พอดี ขณะนี้ได้ให้ไปทบทวนทั้งกฎหมายและสิ่งต่างๆที่จะเอื้ออำนวย ในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งวิธีการทำงานทั้งหมดด้วย ส่วนคณะพูดคุย หากยุทธศาสตร์ชัด ก็จะตั้งคณะพูดคุยได้ถูก เพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลาย เพราะตั้งใจอยากทำให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปสู่ในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อคนที่อยู่ในพื้นที่.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.