ค้นบ้านผู้ต้องสงสัย จ.ยะลา พบยาเสพติด-ของกลางหลายรายการ

ยะลา 11 ก.พ.-ขยายผลตรวจสอบบ้านพักผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา พบยาเสพติดและของกลางหลายรายการ

พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลคีรีเขต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด หน้าฐานปฏิบัติการ และได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลง คือ นายวันมูหัมหมัดสุกรี อายุ 31 ปี และนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุและตรวจยานพาหนะของนายวันมูหัมหมัดสุกรี พบลูกกระสุนปืนขนาด .38 มิลลิเมตร จำนวน 3 นัด ใต้เบาะที่นั่งรถจักรยานยนต์ และพบวัตถุต้องสงสัย คล้ายระเบิดตกอยู่บริเวณใกล้เคียง มีลักษณะเป็นแท่งเหล็กขนาดความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร มีสายไฟยื่นออกมา จึงทำการปิดกั้นพื้นที่ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย และเก็บวัตถุพยานหลักฐานได้เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งจากการตรวจสอบพฤติกรรม ของนายมูหัมหมัดสุกรีฯ ทราบว่า เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อนอีกด้วย


โดยเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ขยายผล เข้าตรวจสอบบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 2 ตำบลคีรีเขต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นบ้านที่ นายวันมูหัมหมัดสุกรี พักอาศัยอยู่จากการตรวจสอบพบของกลางหลายรายการ ดังนี้
-ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวน 3,000 เม็ด
-อาวุธปืน ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
-อาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก
-กระสุนปืนขนาด .22 จำนวนหนึ่ง ( อยู่ระหว่างการตรวจนับ )
-กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 3 ลูก

นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่ตรวจยึดอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยันจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่แน่ชัด จากของกลางที่ตรวจยึดได้ สันนิษฐานว่า นายวันมูหัมหมัดสุกรี อาจเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งก่อเหตุการสร้างสถานการณ์ในห้วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวันมูหัมหมัดสุกรี ส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการโดยยึดมั่นในหลักกฎหมาย และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและนำพาสันติสุขกลับสู่พี่น้องประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ แจ้งเบาะแสได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-1732999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย