ทำเนียบ 6 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล ขอบคุณความเชื่อมั่นประชาชนจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่กว่า 80% จะลงทะเบียนรับเงิน Digital Wallet และที่ประชุมวุฒิสภาผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย 1.22 แสนล้านบาท ย้ำความเชื่อมั่นนี้ เป็นกำลังใจให้รัฐบาลยืนหยัดต่อสู้ เพื่อความหวัง และความเป็นอยู่ของประชาชน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมวุฒิสภา ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 พ.ศ. … วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลยืนยันเสมอมาที่จะใช้งบประมาณนี้ตามวัตถุประสงค์โปร่งใสตรวจสอบได้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อประชาชน และการกระตุ้นพัฒนาเศรษฐกิจ
ในโอกาสนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุถึง ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งได้สอบถาม เกี่ยวกับการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งพบว่าประชาชนที่ผ่านเงื่อนไขรับดิจิทัล วอลเล็ต ส่วนใหญ่ลงทะเบียน มีจำนวนถึง 82.6% ไม่ลงทะเบียน 17.4%
โดยประชาชนกลุ่มตัวอย่างมีลักษณะการใช้เงิน 10,000 บาท ภายในครั้งเดียวที่ 64.1% แบ่งใช้หลายครั้ง 14.7% ไม่แน่ใจ 21.2% และสำหรับประเภทของสินค้าที่จะใช้ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร เสื้อผ้า 32.7% สินค้าเพื่อการศึกษา 17.7% เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ของใช้ส่วนตัว 16.9% สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร 11.5% ยารักษาโรค 8.4% ธูปเทียนและเครื่องสักการะ ชุดถวายสังฆทาน 6.5% สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน 6.2%
“โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า ทั้งยอดการลงทะเบียน และความคิดเห็นของประชาชน ทำให้รัฐบาลมีกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อสู้ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลรู้ดีว่าเงินเหล่านี้มีความหมายกับประชาชนที่เฝ้ารอ และเป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลตั้งแต่ต้น ที่จะดำเนินนโยบายอย่างถูกต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง ทั้งนี้ รัฐบาลขอบคุณทุกเสียงสนับสนุน และขอให้มั่นใจว่า จากยอดลงทะเบียนที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นแรงกระตุกฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย“ นายชัย กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย