ไม่เลิกมาตรการชดเชยไร่ละ 1,000 บาท

ทำเนียบ 19 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ย้ำไม่เลิกมาตรการชดเชยไร่ละ 1,000 บาท แจงทำคู่ ปุ๋ยคนละครึ่ง ช่วยลดต้นทุนผลิต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่าเกษตรกรอยากให้ใช้มาตรการชดเชยราคาข้าวไร่ละ 1,000 บาท แทนโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ว่า ต้องแยกสองประเด็นออกจากกัน เรื่องเงินชดเชย 1,000 บาทต่อไร่ รวมไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 20,000 เป็นเรื่องที่ดำเนินการอยู่ เพราะเป็นมาตรการสำหรับการแทรกแซง หรือช่วยเหลือในช่วงที่ราคาข้าวตก หากเกษตรกรขาดทุน มาตรการนี้ก็ยังกลับมาได้อีกยังไม่ได้มีการยกเลิก และเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำต่อ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าเอาอะไรมาแทนอะไร


ส่วนกรณีปุ๋ยคนละครึ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตนกำกับดูแลอยู่ เป็นมาตรการในการช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการผลิต เพราะข้าวไทยดีมีมาตรฐาน นานาประเทศนิยม แต่มีราคาสูงเพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า รวมถึงเมล็ดพันธุ์ไม่สามารถเพิ่มผลผลิตเหมือนเวียดนามและหลายประเทศ เมื่อต้นทุนเขาถูกกว่าจึงขายมาตัดราคาเรา ดังนั้นเราต้องลดต้นทุน ชาวนาที่มีทุนก็ไปซื้อปุ๋ยได้เองบางคนยังไม่มีก็แปะโป้งไว้ก่อนเหมือนเป็นการกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ย เมื่อผลผลิตออกมาก็ต้องใช้คืนทำให้เกษตรกรมีความลำบากเราต้องช่วยเพื่อลดต้นทุนตรงนี้ให้ซื้อปุ๋ยในราคาถูก ถ้ายังไม่มีเงินก็ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พิจารณาเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ย้ำว่าเรื่องปุ๋ยคนละครึ่งเป็นเรื่องใหม่แต่จะมาช่วยลดต้นทุนผลิต

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เสียงทักท้วงก็มีเสียงสนับสนุนก็มีแต่เวลานี้กระทรวงเกษตรฯได้เปิดลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แม้จะบอกว่าอาจไม่ทันฤดูกาลผลิต แต่การใช้ปุ๋ยยังมีทั้งข้าวนาปีและพืชผลการเกษตรอีกหลายอย่าง ก่อนหน้านี้จะทำให้ทันก่อนฤดูกาลผลิต แต่มีข้อติดขัดเรื่องความเข้าใจของโครงการ ที่ประชาชนอาจจะยังไม่เข้าใจถ่องแท้ เมื่อเข้าใจคิดว่าคงจะแก้ไขปัญหาไปได้และโครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือน พฤศจิกายน 2568 จึงขอฝากชาวนาและเกษตรกรอย่ากังวลใจปัญหาและวิกฤตที่เกิดขึ้นรัฐบาลพร้อมช่วยอยู่แล้วโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตเท่านั้น.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]