หัวหน้าพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นในคำโต้แย้งข้อ

รัฐสภา 17 ก.ค.-“ชัยธวัช” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสียดายโอกาส ศาลไม่เปิดไต่สวน ยังเชื่อมั่นในคำโต้แย้งข้อกฎหมาย-ข้อเท็จจริง ลั่น 8 ส.ค. ยังเตรียมมาทำงานสภา ตั้งกระทู้ถามสดนายกฯ

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่ได้เปิดไต่สวนตามที่พรรคร้องขอ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าตอนนี้เหลือประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นปัญหาในข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนปัญหาเรื่องข้อเท็จจริงนั้นศาลเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว จึงไม่เปิดไต่สวนอีก อย่างไรก็ตามศาลมีความเห็นให้ผนวกเอาคำร้องของคู่กรณีเข้ามาอยู่ในสำนวนด้วย น่าจะหมายถึงในส่วนของพรรคก้าวไกลคือ คำร้องที่ยื่นความเห็นของพยานคือ นายสุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน เข้าไปด้วย และน่าจะรวมคำร้องที่เมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นเป็นการโต้แย้งพยานหลักฐานทั้งที่เป็นพยานหลักฐานของ กกต. และพยานหลักฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นำเข้าสู่คดีนี้ด้วย


นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างน้อยแม้จะไม่มีการไต่สวน เราก็ได้มีพยานเพิ่มเติมเข้าไป แต่ในความเห็นของพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องต้องเรียกว่า น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดไต่สวน เพราะในมุมมองของเรา ยังเห็นว่าเรื่องข้อเท็จจริงยังมีประเด็นปัญหาที่ควรมีการไต่สวนให้ถึงที่สุดก่อน ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมายซึ่งศาลเห็นว่าเหลือแค่เรื่องข้อกฎหมายเท่านั้นที่ต้องพิจารณา เรายังมั่นใจในข้อต่อสู้ทางกฎหมายที่เราต่อสู้ไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่เราต่อสู้ว่า กระบวนการยื่นคำร้องของ กกต.นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ตนแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมในการโต้แย้ง เราอาศัยเอกสารหลักฐานของ กกต.เองมาเพิ่มน้ำหนักในการต่อสู้ในประเด็นนี้ว่า พยานหลักฐานของ กกต.เองตอกย้ำว่า กระบวนการยื่นคำร้องยุบพรรคในคดีนี้มิชอบด้วยกฎหมายอย่างไร

“เรายังมั่นใจ ส่วนข้อกฎหมายสำคัญเรื่องอื่น เราก็มั่นใจไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลที่ถูกกล่าวหา ไม่ใช่การล้มล้างหรือปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ทำไมไม่มีเหตุในการยุบพรรคก้าวไกล เป็นต้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำได้หลังจากนี้คือ เตรียมคำแถลงปิดคดี ภายใน 24 ก.ค.นี้ โดยศาลให้ส่งในเอกสาร เนื่องจากไม่มีการเปิดไต่สวนหน้าบัลลังก์ คือไม่ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา คงส่งเป็นเอกสาร” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว


ส่วนได้มีการพูดคุยกัน หากผลออกมาในทางลบแล้วหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะว่าวันที่ 7 ส.ค.เป็นวันพุธ มีการประชุมสภาฯ คงต้องหารือกันในพรรคว่า ในวันที่ 7 ส.ค.จะอย่างไร เตรียมว่าเราจะจัดการอย่างไรในการฟังคำวินิจฉัยซึ่งจะชนกับวันประชุมสภาฯ

“ตอนนี้ยังไม่ได้มีปัญหาภายในอะไรกัน ส่วนใหญ่ที่เตรียมคือ เตรียมทำงานปกติตามแผนที่วางไว้” นายชัยธวัช กล่าว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ระยะเวลาผ่านมานานแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว ตกผลึกหมดแล้ว คือคดีนี้มันมาถึงนี่หลายเดือนแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้วภายในพรรค


เมื่อถามอีกว่า พูดแบบนี้หมายความว่าเต็มใจยอมรับ หากพรรคถูกยุบใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ใช่เต็มใจยอมรับ ยังเตรียมมาทำงานอยู่วันที่ 8 ส.ค.

“เรียนตามตรง เอางี้ ยืนยันว่าทุกอย่างภายในพรรคนิ่งหมด เราบริหารจัดการได้ แต่เรายังเชื่อมั่นว่า แม้ศาลจะวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมาย เราเชื่อว่าข้อกฎหมายมีน้ำหนัก ถ้าใครได้เห็นเอกสารหลักฐานที่ผมแถลงไปวานนี้ ซึ่งไม่ได้เผยแพร่ ยิ่งมั่นใจ” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีการยุบพรรคเกิดขึ้น ได้เตรียมการอะไรไว้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา เรารอฟังคำวินิจฉัยก่อน ยังไม่ถึงเวลาคุยกันเรื่องนั้นในพรรค

ส่วนมีความกังวลในคำวินิจฉัยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าเกิดการเปิดไต่สวน เราก็เห็นว่ามันจะทำให้เรามีโอกาสต่อสู้ ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างถึงที่สุด ให้ได้สัดส่วนกับข้อกล่าวหา และโทษของคดีนี้ ซึ่งมีผลถึงยุบพรรคการเมือง แต่เมื่อไม่ได้เปิดไต่สวน อย่างน้อยก็ได้รวมคำร้องเพิ่มเติมของเรา อย่างที่กล่าวไป ทั้งพยาน ความเห็นของนายสุรพล ทั้งโต้แย้งพยานหลักฐานวานนี้ น่าจะเพิ่มน้ำหนักในการต่อสู้ของเรา ไม่ได้กังวลอะไรขนาดนัก แม้จะศาลเห็นว่าจะเหลือแต่ข้อกฎหมาย เรายังมั่นใจว่าการต่อสู้ข้อกฎหมายของเรามีน้ำหนัก ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในดุลพินิจของศาล ผู้ถูกร้องคงก้าวล่วงไม่ได้ เพียงแต่เสียดายโอกาสที่จะทำให้ มองในแง่ดีต่อทุกฝ่ายด้วยว่า ถ้าเปิดไต่ส่วนเพื่อให้คู่กรณีมีการต่อสู้อย่างเต็มที่ คงจะเป็นเรื่องดีต่อการยอมรับคำวินิจฉัย

เมื่อถามว่า ยังมีแนวโน้มพรรคจะถูกยุบอยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนหลังเขาบอกว่า น่าจะไม่ยุบแล้วมั้ง

เมื่อถามว่า ใครเป็นคนบอก นายชัยธวัช หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้มีโอกาส อย่าเพิ่งสรุป เรายิ่งต่อสู้คดีไป เรายิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งสิ้น เตรียมทำงานอย่างเดียว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายพร้อมหัวเราะว่า เจอกันวันที่ 8 ส.ค. เป็นวันทำงาน เราตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี จะมาในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]