รัฐสภา 17 ก.ค.-“ชัยธวัช” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสียดายโอกาส ศาลไม่เปิดไต่สวน ยังเชื่อมั่นในคำโต้แย้งข้อกฎหมาย-ข้อเท็จจริง ลั่น 8 ส.ค. ยังเตรียมมาทำงานสภา ตั้งกระทู้ถามสดนายกฯ
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยไม่ได้เปิดไต่สวนตามที่พรรคร้องขอ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าตอนนี้เหลือประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นปัญหาในข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนปัญหาเรื่องข้อเท็จจริงนั้นศาลเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว จึงไม่เปิดไต่สวนอีก อย่างไรก็ตามศาลมีความเห็นให้ผนวกเอาคำร้องของคู่กรณีเข้ามาอยู่ในสำนวนด้วย น่าจะหมายถึงในส่วนของพรรคก้าวไกลคือ คำร้องที่ยื่นความเห็นของพยานคือ นายสุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน เข้าไปด้วย และน่าจะรวมคำร้องที่เมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นเป็นการโต้แย้งพยานหลักฐานทั้งที่เป็นพยานหลักฐานของ กกต. และพยานหลักฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นำเข้าสู่คดีนี้ด้วย
นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างน้อยแม้จะไม่มีการไต่สวน เราก็ได้มีพยานเพิ่มเติมเข้าไป แต่ในความเห็นของพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องต้องเรียกว่า น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดไต่สวน เพราะในมุมมองของเรา ยังเห็นว่าเรื่องข้อเท็จจริงยังมีประเด็นปัญหาที่ควรมีการไต่สวนให้ถึงที่สุดก่อน ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมายซึ่งศาลเห็นว่าเหลือแค่เรื่องข้อกฎหมายเท่านั้นที่ต้องพิจารณา เรายังมั่นใจในข้อต่อสู้ทางกฎหมายที่เราต่อสู้ไป ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่เราต่อสู้ว่า กระบวนการยื่นคำร้องของ กกต.นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ตนแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมในการโต้แย้ง เราอาศัยเอกสารหลักฐานของ กกต.เองมาเพิ่มน้ำหนักในการต่อสู้ในประเด็นนี้ว่า พยานหลักฐานของ กกต.เองตอกย้ำว่า กระบวนการยื่นคำร้องยุบพรรคในคดีนี้มิชอบด้วยกฎหมายอย่างไร
“เรายังมั่นใจ ส่วนข้อกฎหมายสำคัญเรื่องอื่น เราก็มั่นใจไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลที่ถูกกล่าวหา ไม่ใช่การล้มล้างหรือปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ทำไมไม่มีเหตุในการยุบพรรคก้าวไกล เป็นต้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำได้หลังจากนี้คือ เตรียมคำแถลงปิดคดี ภายใน 24 ก.ค.นี้ โดยศาลให้ส่งในเอกสาร เนื่องจากไม่มีการเปิดไต่สวนหน้าบัลลังก์ คือไม่ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา คงส่งเป็นเอกสาร” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ส่วนได้มีการพูดคุยกัน หากผลออกมาในทางลบแล้วหรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะว่าวันที่ 7 ส.ค.เป็นวันพุธ มีการประชุมสภาฯ คงต้องหารือกันในพรรคว่า ในวันที่ 7 ส.ค.จะอย่างไร เตรียมว่าเราจะจัดการอย่างไรในการฟังคำวินิจฉัยซึ่งจะชนกับวันประชุมสภาฯ
“ตอนนี้ยังไม่ได้มีปัญหาภายในอะไรกัน ส่วนใหญ่ที่เตรียมคือ เตรียมทำงานปกติตามแผนที่วางไว้” นายชัยธวัช กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ระยะเวลาผ่านมานานแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว ตกผลึกหมดแล้ว คือคดีนี้มันมาถึงนี่หลายเดือนแล้ว ทุกอย่างนิ่งหมดแล้วภายในพรรค
เมื่อถามอีกว่า พูดแบบนี้หมายความว่าเต็มใจยอมรับ หากพรรคถูกยุบใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ใช่เต็มใจยอมรับ ยังเตรียมมาทำงานอยู่วันที่ 8 ส.ค.
“เรียนตามตรง เอางี้ ยืนยันว่าทุกอย่างภายในพรรคนิ่งหมด เราบริหารจัดการได้ แต่เรายังเชื่อมั่นว่า แม้ศาลจะวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมาย เราเชื่อว่าข้อกฎหมายมีน้ำหนัก ถ้าใครได้เห็นเอกสารหลักฐานที่ผมแถลงไปวานนี้ ซึ่งไม่ได้เผยแพร่ ยิ่งมั่นใจ” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีการยุบพรรคเกิดขึ้น ได้เตรียมการอะไรไว้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา เรารอฟังคำวินิจฉัยก่อน ยังไม่ถึงเวลาคุยกันเรื่องนั้นในพรรค
ส่วนมีความกังวลในคำวินิจฉัยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าเกิดการเปิดไต่สวน เราก็เห็นว่ามันจะทำให้เรามีโอกาสต่อสู้ ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างถึงที่สุด ให้ได้สัดส่วนกับข้อกล่าวหา และโทษของคดีนี้ ซึ่งมีผลถึงยุบพรรคการเมือง แต่เมื่อไม่ได้เปิดไต่สวน อย่างน้อยก็ได้รวมคำร้องเพิ่มเติมของเรา อย่างที่กล่าวไป ทั้งพยาน ความเห็นของนายสุรพล ทั้งโต้แย้งพยานหลักฐานวานนี้ น่าจะเพิ่มน้ำหนักในการต่อสู้ของเรา ไม่ได้กังวลอะไรขนาดนัก แม้จะศาลเห็นว่าจะเหลือแต่ข้อกฎหมาย เรายังมั่นใจว่าการต่อสู้ข้อกฎหมายของเรามีน้ำหนัก ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในดุลพินิจของศาล ผู้ถูกร้องคงก้าวล่วงไม่ได้ เพียงแต่เสียดายโอกาสที่จะทำให้ มองในแง่ดีต่อทุกฝ่ายด้วยว่า ถ้าเปิดไต่ส่วนเพื่อให้คู่กรณีมีการต่อสู้อย่างเต็มที่ คงจะเป็นเรื่องดีต่อการยอมรับคำวินิจฉัย
เมื่อถามว่า ยังมีแนวโน้มพรรคจะถูกยุบอยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนหลังเขาบอกว่า น่าจะไม่ยุบแล้วมั้ง
เมื่อถามว่า ใครเป็นคนบอก นายชัยธวัช หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนกล่าวว่า ตอนนี้มีโอกาส อย่าเพิ่งสรุป เรายิ่งต่อสู้คดีไป เรายิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างตกผลึกหมดแล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งสิ้น เตรียมทำงานอย่างเดียว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายพร้อมหัวเราะว่า เจอกันวันที่ 8 ส.ค. เป็นวันทำงาน เราตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี จะมาในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน.-312.-สำนักข่าวไทย