ร้องผู้ตรวจฯ มติปรับสูตรขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทไม่ชอบด้วยกม.

ผู้ตรวจฯ 8 ก.ค.- 5 กรรมการค่าจ้าง ร้องผู้ตรวจฯ สอบ ปลัดแรงงาน มติปรับสูตรขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


นางเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย และพวกรวม 5 คน จากสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่22 ก็ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 และเจ้าหน้าที่งานวิชาการแรงงาน จัดทำรายงานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 14 พ.ค 2567 เนื่องจากเห็นว่าการประชุมวันดังกล่าวที่มีมติให้ปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ และการจดรายงานการประชุม ไม่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

นางเนาวรัตน์ กล่าวว่า พวกตนได้รับผลกระทบเนื่องจากการประชุมวันดังกล่าว ได้มีการพิจารณาข้อหารือแนวทางการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 36 คน และสรุปได้ว่าการพิจารณาปรับสูตรอัตราค่าจ้างดังกล่าวเป็นการพิจารณาที่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 87 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541


ต่อมาได้มีการลงมติเห็นชอบ โดยเสียงส่วนใหญ่ 7 ต่อ 5 เสียง ว่า ให้ปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ซึ่งพวกตนไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า การปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งมาตรา 82 กฎหมายเดียวกัน กำหนดให้ต้องมีมติที่ประชุมด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อย 2ใน 3 ของคณะกรรมการที่เข้าร่วมประชุม และพิจารณา ดังนั้น มติการประชุมดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“การที่จะขอเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ไม่ได้แจ้งวาระให้เราทราบก่อนล่วงหน้า มีแค่ว่าหารือในเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งสูตรคำนวณได้มีมติในคณะกรรมการในการปรับค่าจ้างไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2567 เรียบร้อยแล้ว เราจึงได้คัดค้านในที่ประชุมว่าถ้าหากจะมีการขอแก้ไขสูตรคำนวณจริง ควรจะต้องทำเป็นวาระแยกต่างหาก และตั้งคณะกรรมการย่อยขึ้นมา เพื่อศึกษาสูตรที่จะขอปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แต่กลับไม่จดรายงานบันทึกการประชุมให้ถูกต้อง ดังนั้นการกระทำของนายไพโรจน์ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้จดรายงานการประชุม และตรวจรายงานการประชุม จึงก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายให้แก่พวกตน ในฐานะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ที่ต้องผูกพันกับมติการประชุมที่เป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ” นางเนาวรัตน์ กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย