รัฐสภา 21 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” รองนายกฯ ยันยังไม่มีมติ ครม.ให้ต่างชาติถือครองสิทธิซื้อคอนโดได้ถึง 75% ถือครองได้ 99 ปี ระบุสั่งมหาดไทยศึกษาความเป็นไปได้อยู่ หลังภาคเอกชนเสนอมาตรการมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุถึง คำสั่งครม.ที่ตนเองเป็นประธานการประชุมครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. สั่งกระทรวงมหาดไทย แก้กฏหมายช่วยอสังหาริมทรัพย์ ให้ต่างชาติซื้อคอนโดได้ 75% และถือครองได้ 99 ปี จากเดิม 49% ว่า ในฐานะที่เป็นประธานประชุมครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากมติครม.เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งมีมติที่กระทรวงการคลังเสนอให้ ครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นแพ็กเก็จที่มีประมาณ 10 ประเด็น ซึ่งเป็นการรวบรวมความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ประชาชน ภาคเอกชน และมี 2 เรื่องที่ค้างอยู่ให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ คือ 1.การพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิ มีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี และ2.การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฏหมายที่เกี่ยวก้ับการให้สิทธิคนต่างด้าว สามารถถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุด จากเดิม 49% เป็นไม่เกิน 75% จึงเป็นข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยไปศึกษาเรื่องนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา และเร่งรัดในการดำเนินการและศึกษาความเป็นไปได้ ดังนั้น การประชุมครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เป็นการมารับทราบความคืบหน้า ไม่ได้มีการจัดการใดๆ ก่อนที่จะนำข้อเสนอว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ มาเสนอต่อ ครม.
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การกำหนดเกณฑ์สัดส่วนการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ตอนนี้ยังไม่มีเกณฑ์แต่มีข้อเสนอมาที่ต้องไปรับฟัง ส่วนไหนทำได้ก็ทำไป แต่ 2 ข้อนี้ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้ ไม่ได้มีการอนุมัติแต่อย่างใด ยืนยันว่า การประชุมครม.ในวันนั้นแค่มาตามเรื่องผลการศึกษามีความคืบหน้าอย่างไร จึงขอให้ช่วยดูรายละเอียดและสรุปเข้ามารายงานในที่ประชุมครม.อีกครั้ง และไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่า จะต้องได้ข้อสรุปเมื่อใด แต่ก็ให้ทำโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ใช้เวลาไปนานแล้ว แต่หากผลสรุประบุว่า ได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ได้ข้อสรุปก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรับหน้าที่ไปศึกษา โดยจะต้องไปดูว่า สิ่งไหนเป็นประโยชน์หรือติดปัญหา
ส่วนที่มีความกังวลว่า จะนำเรื่องนี้ไปโยงกับทางการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องนี้ เพราะเป็นการสั่งให้ไปศึกษา เพราะเป็นข้อเสนอของประชาชนและผู้ประกอบการ ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยก็ดำเนินการเป็นมติครม.ออกไป แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ต้องไปศึกษา เพราะอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้น จึงอยู่ในขั้นตอนศึกษา
ขณะเดียวกันจะนำแนวทางการศึกษาจากรัฐบาลที่ผ่านมามาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่นำข้อเสนอเก่ามาปรับปรุง เมื่อศึกษาแล้วไม่ได้ ก็ไม่ออกเป็นมาตรการ ดังนั้นเวลานี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปถึง 18 มาตรการและไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นว่า น่าจะมีปัญหาไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ จึงต้องไปศึกษา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลที่ผ่านมาเคยตีตกเรื่องนี้ไปแล้ว จะนำมาเป็นบทเรียนกับรัฐบาลนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลนี้ยังมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ เมื่อเป็นการศึกษาก็ถือว่า รัฐบาลนี้ได้ทำแล้ว ส่วนผู้ศึกษาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิ์ทำได้หมด
ส่วนจะเป็นการเอื้อให้กับเอกชนบางรายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเอื้อเอกชนตนเองก็ตัดสินใจไปแล้วว่าให้ทำได้ แต่ตอนนี้ยังเป็นการศึกษาว่าทำได้จริงหรือไม่ และเป็นธรรมหรือไม่ ดังนั้นจะมาพูดว่า เอื้อหรือไม่เอื้อไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ และการที่มีการเสนอมาตรการนี้มา ก็ถือว่าเป็นการฟังเสียงผู้ประกอบการ ซึ่งตอนนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่มีการเสนอมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อจำกัดทีจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามจะพิจารณาสิ่งไหนทำได้ก็ทำเลย และเมื่อวานนี้ตนได้เจอกับหอการค้าต่างประเทศ กว่า 30 คนจากทั่วโลก ไม่ได้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆในการประกอบธุรกิจและการลงทุน ทั้งมาตรการวีซ่า ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ประกอบการที่จะเสนอมาตรการต่างๆ เมื่อเป็นรัฐบาลก็รับเรื่องมาพิจารณา สิ่งไหนเหมาะสม ถูกต้อง ได้ประโยชน์ ไม่ผิดกฏหมายก็ทำเลย แต่สิ่งไหนยังคลางแคลงใจหรือไม่สบายใจ ไม่แน่ใจก็ต้องดูข้อกฏหมาย เมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ทำ ถ้าเป็นไปได้และมีเหตุผล ชี้แจงได้เข้าใจ ครม.ก็จะพิจารณา โดยใช้ดุลพินิจและประโยชน์สูงสุดที่รัฐบาลจะได้รับ.-319.-สำนักข่าวไทย