ไทย-เวียดนาม ผลักดันการค้าการลงทุน-การท่องเที่ยว

ทำเนียบ 11 เม.ย.- นายกฯ หารือ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม พร้อมยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมผลักดันการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวร่วมกัน


นาย บุ่ย แทงห์ เซิน (H.E. Mr. Bui Thanh Son) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยินดีกับความสัมพันธ์ไทย – เวียดนามที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง โดยไทยพร้อมที่จะเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการและเป็นประธานร่วมในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย – เวียดนาม ครั้งที่ 4 ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 โดยเฉพาะการทำงานผ่านกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพและเป็นประเทศที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหลักในอาเซียน จึงควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนสันติภาพควบคู่กับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม  กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ของไทย โดยแสดงความปรารถนาดีและยินดีกับความสำเร็จของรัฐบาลในการมุ่งฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะผลักดันบทบาทของไทย และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจให้แก่ภูมิภาคด้วย โดยเวียดนามพร้อมต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน การผลักดันความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ ซึ่งสามารถเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคได้ รวมไปถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคให้แข็งแกร่ง

นายกรัฐมนตรีขอบคุณเวียดนามที่อำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าของไทยผ่านด่านชายแดนเวียดนาม – จีน โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไทย ขณะที่เวียดนามกล่าวว่า มูลค่าทางการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวียดนามพร้อมสนับสนุนการทำงานเพื่อเพิ่มมูลค่าและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดสินค้าของทั้งไทยและเวียดนามให้มากขึ้น

ด้านการท่องเที่ยว เห็นพ้องที่จะเชื่อมโยงเส้นทางการบินระหว่างไทยและเวียดนามในอนาคต โดยเฉพาะเมืองสำคัญที่เป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองประเทศต่างเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมระหว่างกัน อีกทั้งยินดีหารือต่อเนื่องเพื่อพิจารณาโครงการ “6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง” (Six Countries, One Destination) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากนอกภูมิภาคให้มากขึ้นและส่งเสริมให้ประเทศในภูมิภาคเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งเดียว


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอแนะถึงการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ซึ่งจังหวัดอุดรธานีมีความพร้อมรองรับเที่ยวบินนานาชาติ ซึ่งเวียดนามยินดีนำข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณา โดยเห็นว่าทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพและสามารถเป็นผู้นำในการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งหมดสำหรับทั้งภูมิภาคได้ รวมทั้งยินดีที่นายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ ณ จังหวัดนครพนม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับชาวเวียดนามและเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะประสานงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อถนนระหว่างประเทศไทย ลาว และเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการค้าและการลงทุน รวมไปถึงการเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ในระดับประชาชน โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมจะพัฒนาเส้นทางร่วมกันได้ในอนาคต.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]