สส.ก้าวไกลแฉคนรัฐบาลจ้องเงินทอนจาก ทร.

รัฐสภา 4 เม.ย.-“วิโรจน์” ปูดคนในรัฐบาลต่อสายกองทัพเรือ จ้องตบทรัพย์เรือฟริเกต ชี้นโยบายกองทัพยุค “สุทิน” ไม่มีอะไรใหม่ เป็นของเก่าสมัย “พล.อ.ประยุทธ์” เหน็บอย่าหวังได้คะแนนเลือกตั้ง ประชาชนกินข้าว ไม่ได้กินช็อกมินต์


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ถึงนโยบายการปฏิรูปกองทัพของรัฐบาล โดยย้ำว่า การปฏิรูปกองทัพจะทำให้กองทัพมีความโปร่งใส ประชาชนมีความเชื่อใจในภารกิจทหาร ไม่ใช่การทำลายหรือด้อยค่ากองทัพ ตามที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ แต่เป็นการทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับประชาชนดีขึ้น หากไม่ดำเนินการจริงจัง ประชาชนจะตั้งแง่คิดทางลบกับทุกการกระทำของกองทัพ

“หากกองทัพฝืนดำเนินการ ฝืนซื้ออาวุธ โดยไม่สนใจเสียงประชาชน ก็จะทำให้ภาพลักษณ์กองทัพตกต่ำลง และมีกลุ่มก้อนการเมือง ฉวยอคติประชาชนไปตบทรัพย์งบประมาณของกองทัพ ผมมีสายข่าวในกองทัพเรือเรื่องการจัดซื้อเรือฟริเกต วงเงิน 1,700  ล้านบาท  มีคนของรัฐบาล พยายามต่อสายจะคุยกับกองทัพเรือด้วย แต่กองทัพฯ ปฏิเสธ และยอมถูกตัดงบเหลือ 850 ล้าน และสุดท้ายกองทัพเรือกลับถูกตัดงบประมาณดังกล่าว แม้กองทัพเรือจะขออุทธรณ์ กรรมาธิการงบประมาณ ก็ยังตัดงบประมาณ” นายวิโรจน์ กล่าว


นายวิโรจน์ กล่าวา อีก 2 ปี เรือฟริเกต ไทยต้องปลดระวางอีก 1 ลำ ทำให้ไทยจะเหลือเรือฟริเกต เพียง 3 ลำ อาจทำให้ไม่เพียงพอ ทั้งที่มีความจำเป็น เพราะต้องคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางเรือ คุ้มกันเรือน้ำมันและเรือสินค้า รวมถึงลาดตระเวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน การจัดซื้อเรือฟริเกตลำนี้ จะเป็นการต่อเรือรบขนาดใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ เกิดการจ้างงาน และซื้อวัสดุในประเทศมหาศาล ดังนั้น การตัดงบประมาณครั้งนี้ จึงเป็นการตัดโอกาสประเทศ และอาจจะต้องรอถึงปี 2569 กองทัพเรือ ถึงจะของบประมาณใหม่ได้

นายวิโรจน์ ได้เปิดคลิปงานสัมมนาทิศทางอุตสาหกรรมเพื่อความมั่นคง ที่นายสุทินระบุ ขอให้สภากลาโหมจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในประเทศ หรือหากซื้อไม่ได้ ก็ขอให้มีเงื่อนไขซื้อชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ หรือถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วยว่า นายสุทินเป็นรัฐมนตรีกลาโหม มีอำนาจสั่งการ แต่กลับขอกองทัพ จึงทำให้รู้สึกสิ้นหวัง และยืนยันได้ว่า หากนายสุทินเป็นรัฐมนตรีอยู่ จะทำให้ธุรกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มีแต่ความมืดมน

นายวิโรจน์ กล่าวถึงการลดจำนวนนายพล ที่รัฐบาลหลอกประชาชนว่าในปี 2570 จะลดจำนวนนายพลลงร้อยละ 50 ซึ่งเป็นนายพลที่ไม่มีหน้าที่ชัดเจน ซึ่งจำนวนนายพลที่ไม่มีความจำเป็นควรเป็นศูนย์ นายสุทินไม่จำเป็นต้องดำเนินการใด ๆ เพราะจำนวนนายพลจะลดลงอยู่แล้ว เพราะโรงเรียนเตรียมทหารรับจำนวนนักเรียนลดลง 150 คน ตั้งแต่รุ่นผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดปัจจุบัน จึงถือเป็นการตบตาประชาชน ฉกฉวยโอกาสการลดรับจำนวนนักเรียนเตรียมทหารน้อยลงมาอ้างผลงาน เช่นเดียวกับโครงการเออรี่ รีไทร์ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และงบประมาณบุคลากรของกองทัพไม่ได้ลดลง


ส่วนที่ดินราชพัสดุ 12 ล้านไร่ของกองทัพ นายวิโรจน์ กล่าวว่า กองทัพบกครอบครองถึง 4,500,000 ไร่ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ รวมกัน 1,750,000 ไร่ รวมถึงยังมีที่ดินรกร้าง ทั้งที่เกษตรกรยังขาดแคลนที่ดินทำกิน แต่ที่ดินกองทัพบางส่วนถูกนำไปใช้ทำสวัสดิการธุรกิจ ทั้งสนามกอล์ฟ สถานพักตากอากาศ และสนามมวย ขาดความโปร่งใส ไม่ชี้แจงการจ่ายค่าเช่าให้กับกรมธนารักษ์ และทำบัญชีถูกต้องหรือไม่ ที่ผ่านมารายงานกำไรเพียงเล็กน้อยทุกเหล่าทัพเพียง 70 ล้านบาทเท่านั้น รัฐบาลควรนำที่ดินที่เกินจำเป็นของกองทัพคืนแก่รัฐบาล เพื่อนำไปแบ่งสรรให้ท้องถิ่น สร้างสาธารณูปโภคที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความเจริญและเศรษฐกิจชุมชน

“การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพ เหตุใดไม่ซื้ออาวุธ กับผู้ประกอบการในประเทศที่มีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง มีอะไหล่สำรอง และมีวิศวกรซ่อมแซม แต่กลับจัดซื้อกับโบรกเกอร์ที่อ้างเป็น SMEs และใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ล็อบบี้ เคลียร์เงินทอน ยกเว้นภาษี และนำอาวุธจากต่างประเทศ มาขายให้กับกองทัพ เมื่อชำรุดก็ต้องรออะไหล่นาน หรือปิดบริษัททิ้ง”  นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายใหม่ ๆ บริหารกองทัพ แต่เป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จึงขอถามนายสุทินกล้ามองหน้ากองทัพเรือที่ยึดหลัก และรายละเอียด เพื่อให้เกิดการอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศไทยหรือไม่ และขอให้นายสุทินหยุดเล่นละครการพัฒนาร่วมกัน เพราะละครเช่นนี้ไม่สามารถหวังคะแนนเลือกตั้งได้อีกแล้ว เพราะประชาชนกินข้าว ไม่ได้กินช็อกมินต์.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย