รัฐสภา 2เม.ย.-ปธ.วิปฝ่ายค้านบอกไม่สะดวกร่วมวงถกลดเวลาอภิปรายของฝ่ายค้าน ชี้จะมาเปลี่ยนแปลงก่อนอภิปรายแค่ 1 ชม.ไม่เป็นธรรม เพราะแบ่งเวลา-หัวข้อกับพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ถ้าดึงดันใช้เสียงข้างมากโหวตกรอบใหม่ ถือไม่สง่างาม ปิดกั้นตรวจสอบ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายพรุ่งนี้เช้า(3 เม.ย.) เปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ทั้งนี้ เพื่อตกลงกรอบเวลาการอภิปราย โดยลดเวลาของฝ่ายค้านจาก 22 ชั่วโมงเหลือ 18 ชั่วโมง และเพิ่มให้รัฐบาล จาก 6 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมงว่า ฝ่ายค้านยังหารือกันอยู่ว่าจะไปร่วมประชุมตกลงกรอบเวลาดังกล่าวหรือไม่ เพราะขณะนี้ทุกคนอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมการอภิปราย
“การตกลงให้เวลาฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง และครม. 6 ชั่วโมง เป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เอง ประเมินเองว่าจะใช้เวลาตามนี้ ซึ่งผมไม่ได้ขอเพิ่ม ถามว่าจะปรับเปลี่ยนกรอบใหม่ได้หรือไม่ก็ต้องบอกว่า เปลี่ยนได้ หากมาปรับเปลี่ยนหลังวันที่ 23 มี.ค.ไม่กี่วัน แต่การจะมาเปลี่ยนข้อตกลง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะอภิปราย ขณะที่ฝ่ายค้านเตรียมการและเตรียมผู้อภิปรายมาแล้วสำหรับ 22 ชั่วโมง แล้วอยู่ ๆ จะมาตัดเวลาอภิปรายออก 4 ชั่วโมง ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมและไม่มีความชอบธรรมที่จะทำแบบนั้น ความจริงผมต้องขอเรียกร้องประธานว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ประธานก็ควรวางตัวเป็นกลาง การเปลี่ยนข้อตกลงก่อน 1 ชั่วโมงที่จะการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ เป็นธรรมกับฝ่ายค้านหรือไม่” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
สำหรับกรณีที่ประธานวิปรัฐบาลบอกว่าเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความเป็นธรรมเพื่อให้รัฐบาลมีเวลาชี้แจงได้ครบถ้วน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากคำนึงถึงความเป็นธรรมก็ต้องถามกลับไป ว่าการตัดเวลาของฝ่ายค้านลงไป 4 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่า 1 ใน 5 ของเวลาที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกเป็นธรรมกับฝ่ายค้านหรือไม่ ฝ่ายรัฐบาลเป็นคนเสนอเวลามาเอง ขอย้ำว่าในที่ประชุมวันนั้นตนยังหันกลับไปถามกับฝ่ายรัฐบาลคนหนึ่งอย่างไม่เป็นทางการด้วยซ้ำว่าระยะเวลา 6 ชั่วโมงชี้แจงพอจริงหรือ
“เมื่อรัฐบาลยืนยันว่าพอ ฝ่ายค้านก็ตกลงไปตามนั้น แต่การจะมาเพิ่งคิดได้ทีหลังว่าอาจจะไม่พอ ตนก็ยินดีที่จะเพิ่มเวลาให้โดยที่เลิกประชุมดึกกว่าเดิม ทั้ง 2 วันก็ได้ ผมไม่มีปัญหาและฝ่ายค้านก็อยากจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลเช่นกัน ซึ่งเราไม่มีปัญหาเลย หากครม.จะใช้เวลา ชี้แจงเยอะแต่จะมาตัดเวลาฝ่ายค้านแล้วมาตกลงกัน 1 ชั่วโมงก่อนที่จะอภิปรายนั้นคิดว่าทำไม่ได้ จึงขอยืนยันเวลาของฝ่ายค้านที่ 22 ชั่วโมงเนื่องจากจัดสรรเวลากับพรรคร่วมฝ่ายค้านกันแล้ว” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
ส่วนหากตกลงกันไม่ได้แล้วรัฐบาล ใช้เสียงข้างมากลงมติเรื่องกรอบเวลาจะทำอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องเจรจากันก่อนอยู่แล้ว เพราะต้องยอมรับว่า หากลงมติกันไม่มีวันที่ฝ่ายค้านจะชนะ ขอให้จับตาดูว่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เวทีตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านที่มีอยู่เพียงไม่กี่เวที จะมาใช้เสียงข้างมากลากไป เพื่อจะมาเปลี่ยนจำนวนเวลาในการอภิปราย คิดว่าประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยในระบบรัฐสภาไม่เคยมีแบบนี้ ถ้ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะมาปิดกั้น ขัดขวางระบบการตรวจสอบของรัฐสภาแบบนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั้น ตนคิดว่าไม่สง่างามเลย
เมื่อถามว่าจะเตรียมตั้งรับอย่างไร ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คงต้องเจรจากัน และอาจจะต้องพูดคุยเจรจากันในห้องประชุมใหญ่ก่อนเริ่มอภิปรายว่าตกลงจะเอาอย่างไร แต่การคุยตอนเช้าก่อนประชุม ตนไม่สะดวกเข้าร่วม แต่เราก็มีวิปหลายคน ซึ่งยังคงประเมินกันอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพรุ่งนี้ หากฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมประชุมวิป3 ฝ่าย ก็อยากให้สาธารณชนทราบไว้ก่อนว่าเอกสารใด ๆ ที่ออกมา ฝ่ายค้าน ไม่มีได้ส่วนร่วม เป็นการพูดคุยตกลงกันเองของฝ่ายรัฐบาลที่จะขัดขวางการตรวจสอบของฝ่ายค้าน.-1-312.-สำนักข่าวไทย