“สว.สมชาย” ลั่น รู้สึกอาย สส.-สว. ตีความไม่เป็น

รัฐสภา 29 มี.ค.- “สว.สมชาย” เห็นด้วย ปธ.รัฐสภา ไม่บรรจุวาระร่างแก้ไข รธน. เข้าสภา ชี้ เดินหน้าอาจขัดรัฐธรรมนูญ ไม่เห็นด้วยญัตติยื่นศาลรธน.ตีความอำนาจตัวเอง ลั่น รู้สึกอาย สส.-สว. ตีความไม่เป็น


นายสมชาย แสวงการ วุฒิสมาชิก (สว.) กล่าวอภิปรายญัตติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เรื่องให้รัฐสภา มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ซึ่งมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยื่น ว่า ตนเห็นด้วยกับประธานรัฐสภา ที่ลงความเห็นไม่บรรจุวาระ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล และคณะ เป็นการลงความเห็นที่ถูกต้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากเดินหน้าต่อไปแล้วสภาสภาพิจารณาอาจเกิดการขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากการลงประชามติของประชาชน ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้เคยแก้ไขไปแล้วหนึ่งครั้ง มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยบัตรเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ โดยไม่ได้ทำ ประชามติ ใช้อำนาจรัฐสภาในการแก้ไข อย่าไปบิดเบือนบอกประชาชนว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขไม่ได้ ต้องฉีกโดยคณะรัฐประหารเท่านั้น ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างยิ่ง รัฐสภามีหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ท่านไม่แก้ไข แต่ปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เห็นด้วย ไม่เอาเข้าสภาแล้วพยายามเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาใช้อำนาจแทน จะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย หรือนอมินีของพรรคการเมืองหรือไม่ ทำไมถึงไม่แก้เอง

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการถกเถียงว่าจะลงประชามติกี่ครั้งนั้น ถ้าสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยสภาเอง จะไม่เสียเงินแม้แต่สลึงเดียว การใช้งบประมาณแต่ละครั้งในการทำประชามติ จะต้องใช้ 95,000 หน่วย เท่ากับการเลือกตั้ง ลดเพียงจำนวนเจ้าหน้าที่ 5 คนต่อหน่วย เท่ากับว่าในการเลือกตั้งใช้คน 855,000 ในการทำประชามติลดเหลือ 475,000 คนทั้งประเทศ ใช้งบประมาณจาก 5,000 ล้านบาท เหลือ 3,500 ล้านบาท ทั้งหมดมีรายงานไม่ต้องเสียเวลาสภา เสียเวลาส่งญัตติไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อแปรคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอีก สภาฯทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ สามารถวินิจฉัยเองได้อยู่แล้ว


“ถ้าอ่านกฎหมายไม่รู้อ่านไม่เข้าใจอย่างมีสภาเสียกว่า เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชัดเจน อย่าเป็นศรีธนญชัย ส่งญัตติดังกล่าวไปศาลรัฐธรรมนูญให้เกิดความลำบาก หากจะทำประชามติ 2 ครั้ง สามารถดำเนินการโดยก่อนทำประชามติให้ไปถามประชาชนว่าจะให้ไปทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หากประชาชนให้ทำ ก็ไปร่างกฎหมายไปถามในประชามติ”นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า รัฐสภาทำไมไม่กล้าแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญเอง ทำไมต้องไปให้สภาร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นนอมินีหรืออ้าง หรือที่จะบอกว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั่วประเทศมาร่างเอง ท่านกลัวว่าจะร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญและประชาชนรู้หรือ ว่าประชาชนอาจจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญบางประเภทที่ไปเพิ่มอำนาจ หรือไปทำให้การป้องกันการทุจริตใช้ไม่ได้ ทำไมต้อง 3 ครั้ง ถ้าท่านประธานอ่านคำวินิจฉัยอย่างที่ตนได้อ่านก็สามารถแปลความได้ตรงกันก็ใช้ 2 ครั้ง แต่ถ้าอยากใช้ 3 ครั้ง ต้องทำคือถามประชาชนก่อนว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ 1 ครั้ง หมดไป 3,500 ล้านบาท แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญตามที่นายชูศักดิ์และคณะเสนอ ต้องทำประชามติอีกหนึ่งครั้ง อีก 3,500 ล้านบาท และถ้าจะให้มีการเลือกสสร. ทั่วประเทศแบบเดียวกับการเลือกตั้งสส. ก็เป็นการเปลืองงบประมาณ และสสร. ที่ต้องจ่ายเงินเดือน ผู้ช่วยหรือไม่ ขณะที่มีสส. สว. ทำหน้าที่ได้ในสภากลับไม่ทำหน้าที่ และไปมอบให้สสร. ที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งทำหน้าที่แทนต้องทำประชามติ 2 ครั้ง เมื่อร่างเสร็จแล้วอาจจะใช้เวลา 1-2 ปี และโครงร่างก็ไม่ได้ต่างจากปีก่อนๆ แต่สิ่งที่เพื่อป้องกันการโกงอาจจะหายไป ท่านอาจจะอยากยุบศาลรัฐธรรมนูญ อยากยุบคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือหน่วยงานอื่นๆก็ได้ ใครจะไปทราบ แต่อาศัยมือจากสสร. ที่อ้างว่ามาจากประชาชนทำหน้าที่แทน ท่านก็ต้องเอา ร่างรัฐธรรมนูญนั้นไปให้ประชาชนลงประชามติอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เบ็ดเสร็จรัฐธรรมนูญที่บอกแก้ไขไม่ได้นั้นไม่เป็นความจริง และย้ำว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ โดยมีหลายมาตราทางแก้และแก้ไม่ได้ ดังนั้น หลักเกณฑ์รัฐธรรมนูญเป็นหลักเกณฑ์ที่ยากเกินกว่าที่จะปฏิบัติ

“เสียเวลาที่จะต้องมามานั่งประชุมในสิ่งที่ประธานรัฐสภาได้วินิจฉัยแล้วว่า ไม่สามารถที่จะบรรจุระเบียบวาระได้ และไม่มีความจำเป็นจะต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้วินิจฉัยอีก เพราะท่านกำลังจะบอกว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วรัฐสภาไม่เข้าใจ ช่วยแปลหน่อย ผมรู้สึกอายพี่น้องประชาชน ที่อุตส่าห์เลือกทั้งสส.และสว. เป็นตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ในนิติบัญญัติกลับไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ซึ่งคำวินิจฉัยผมได้เรียนประธานรัฐสภาแล้ว ไม่มีอะไรยาก อ่านง่ายๆ ผมอ่านแล้วเข้าใจ”นายสมชาย กล่าว .- 317 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]

“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ค.-“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย ขณะที่ “ภูมิธรรม” เผยนายกฯ เข้มแข็ง เชื่อที่ผ่านมาทำดีสุดแล้ว พร้อมสู้ต่อ ฝากบอก สส. สู้ไปด้วยกัน ขอทุกคนจับมือฝ่าวิกฤติ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ด้าน “วิสุทธิ์” ย้ำ สส. ห้ามขาด ห้ามตาย ป่วยก็ให้อดทนกินยา ป้องกันองค์ประชุมล่ม การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (2 ก.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งหัวโต๊ะด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดิมทีแจ้งว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเข้าร่วมประชุม สส. พรรคเพื่อไทยด้วย ด้านนายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า […]