อดีต สว.เเจ้งเอาผิดนายกฯ กรณีคลิปเสียงเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา หลุด

บช.ก. 19 มิ.ย. – “สมชาย” อดีต สว. เเจ้งความเอาผิดนายกฯ กรณีคลิปเสียงระหว่าง “สมเด็จฮุน เซน” ยืนยันเข้าข่ายความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ


บช.ก. 19 มิ.ย. – นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นายคมสัน โพธิคง นักวิชาการกฎหมาย เดินทางเข้าพบตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตาม 119 ,120,122,128 และ 129 จากกรณีคลิปเสียงเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา

นายสมชาย กล่าวว่า ในฐานะประชาชนที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นตัวแทนมายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา กับ น.ส.แพทองธาร เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประมุขของประเทศ การที่แอบไปเจรจาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา กับ นายฮุนเซน ตามคลิปเสียงที่ปรากฏขึ้น แม้จะอ้างว่าเป็นเทคนิคการเจรจาก็ฟังไม่ขึ้น เพราะเนื้อหาที่พูดกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เข้าข่ายความผิดอาญาหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มาตรา 120 ถึง 128 จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชา ความยาว 17.06 นาที ซึ่งมีพฤติกรรมล่อแหลมส่งผลทําให้ประเทศชาติเสียหาย เป็นความผิดร้ายแรง จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย โดยนำคลิปเสียงดังกล่าวมามอบให้ประกอบการพิจารณา


“การกระทำของ นายกรัฐมนตรี สุ่มเสี่ยงสูญเสียอธิปไตย และอาจมีการกระทำอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่”

นายสมชาย ให้ความเห็นทางการเมืองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดส่วนตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หากไม่ลาออกปัญหาจะบานปลาย เพราะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเองก็ต้องถอนตัว ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่อยากให้หลงประเด็นว่าต้องยุบสภา เพราะไม่ใช่ความผิดของ สส. และพรรคฝ่ายค้านเองก็อย่าอาศัยจังหวะนี้หาประโยชน์ทางการเมือง เพราะการยุบสภาจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น แม้พรรคประชาชนได้เปรียบในการเลือกตั้งใหม่ แต่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาบ้านเมือง

แต่กระนั้นเองเราก็ไม่สามารถที่จะยอมให้นายกฯ ทำหน้าที่ต่อไปได้ เพราะไม่รู้ว่าประเทศจะได้รับผลกระทบอะไรเพิ่มขึ้นอีกบ้าง และยังไม่รู้ว่าจะมีคลิปเสียงอะไรที่มีการพูดคุยตกลงกันโผล่ขึ้นมาอีกบ้าง ดังนั้นตัวนายกรัฐมนตรีจึงต้องเปลี่ยน จะเป็นใครก็ว่าไป แล้วจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่ บ้านเมืองถึงจะเดินต่อไปได้ เพราะถ้าแก้ด้วยการยุบสภา ปัญหาจะยืดเยื้อ จะเกิดรัฐบาลรักษาการ เกิดภาวะวิกฤต ประเทศจมปรัก นำมาสู่การรัฐประหาร ซึ่งฝั่งทหารเองก็คงไม่อยากปฏิวัติ อยากให้การเมืองแก้ปัญหาตัวเอง แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าประชาชนโกรธทั้งประเทศ


นายสมชาย บอกว่า จากเรื่องคลิปเสียงที่ปรากฏเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา ค่อนข้างชัดเจน ว่านายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาพลาด มีความผิดตามกฎหมาย ส่วนความผิดอื่นต้องไปยื่น ป.ป.ช. ทั้งนี้มองว่าจากเรื่องที่เกิดขึ้น คำอธิบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ไปเจรจากับ ฮุนเซน ฟังแล้วแก้ตัวไม่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการด้อยค่าแม่ทัพภาค 2 เหมือนนายกฯ ตัดหัวแม่ทัพไปบรรณาการฝ่ายตรงข้าม หรือการนำความลับมาตรการต่างๆ ของกองทัพหรือสภาความมั่นคงระดับชาติ ไปบอกฝั่งตรงข้าม ถือว่ากระทำผิดชัดเจน แสดงถึงความไม่มีวุฒิภาวะ ถ้าปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อ สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน ประชาชน และกองทัพ จะไม่ยอมและอาจนำมาสู่รัฐประหาร ใครทำผิดรับผิด ต้องลาออก อย่าทำให้เรื่องบานปลาย

นายสมชาย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมจากภาคประชาชนที่รักประเทศชาติ เพื่อเรียกร้องให้นายกลาออกไป อาจมีการกำหนดวันนัดชุมนุมใหญ่ของคนไทยการแสดงเจตนารมย์ปกป้องประเทศ ซึ่งจะมีการนัดแนะสถานที่อีกครั้ง

ขณะที่ นายคมสัน กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรี บอกว่า ฝั่งเขาไม่ใช่ฝั่งเรา เป็นข้อความที่แสดงว่าเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาเป็นหลัก อีกทั้งการที่ไปบอกว่า แม่ทัพภาค 2 เป็นคนละพวกกัน เป็นการแสดงออกชัดเจนว่า นายกไม่ใช่นายกของไทย รวมถึงการนำความลับมาตรการความมั่นคงต่างๆ ไปเปิดเผย รวมถึงการนำเสนอผลประโยชน์ต่างๆ ให้ฝั่งตรงข้ามถือเข้าข่ายผิดกฎหมาย จากสิ่งที่ปรากฎความผิดค่อนข้างชัดเจน ส่วนที่เลือกมาแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง เพราะต้องการดำเนินคดีอาญา ส่วนการจะไปยื่นที่ ป.ป.ช. ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งเป็นในเรื่องของอนาคต ขณะตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ด้านนายนิติธร กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า คนไทยไม่มีใครคิดต่างว่า กัมพูชา แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับไทย แต่สิ่งที่นายกทำคือทำตัวเองเป็นปรปักษ์กับประเทศตัวเอง ถึงจะอ้างว่าเป็นเทคนิคเจรา ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่กิจการค้าขายแต่เป็นเรื่องของแผ่นดิน การกระทำของ นายกรัฐมนตรี ส่งผลกระทบต่อบ้านเมืองแน่นอน เพราะผู้นำทำตัวเป็นภัยต่อแผ่นดิน และ ในวันนี้พรุ่งนี้ภาคประชาชนหลายภาคส่วน จะร่วมกันหารือ เพื่อกำหนดท่าที โดยเบื้องต้น จะเริ่มจากการออกแถลงการณ์ให้นายกลาออก หลังจากนั้นจะกำหนดท่าทีใหม่อีกครั้ง. -419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย