กมธ.ต่างประเทศ ชง 4 ข้อ แผนรองรับภัยสู้รบในเมียนมา

กทม. 17 มี.ค.- “นพดล” ชี้ถ้าไทยผลักดันการแก้ปัญหาเมียนมาได้สำเร็จ จะกลับอยู่ในจอเรดาร์โลกชัดเจนทันที กมธ.ต่างประเทศเสนอ 4 ข้อ ขอรัฐบาลมีแผนรองรับการทะลักหนีภัยสู้รบ เพิ่มช่วยเหลือมนุษยธรรม


นายนพดล ปัทมะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าในฐานะ สส.พรรคเพื่อไทยนั้น ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับปัญหาประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะปัญหาเมียนมา เนื่องจากขณะนี้การสู้รบภายในเมียนมายังมีอย่างต่อเนื่องและการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยฝั่งตรงข้ามแม่สอดก็ยังดำเนินอยู่ ในเรื่องนี้ กมธ.ต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนทุกฝ่ายที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้สำเร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม กมธ.ต่างประเทศมีข้อเสนอดังนี้

1) เสนอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ในเมียนมาเป็นการเฉพาะ เพื่อรวมหน่วยงานความมั่นคงและต่างประเทศมารวมกันเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเมียนมาอย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ และ
2) ทำแผนมาตรการรองรับฉุกเฉินเพื่อรองรับในกรณีมีการสู้รบตามตะเข็บแนวชายแดนไทยมากขึ้นซึ่งอาจจะมีปัญหาการทะลักเข้ามาของผู้หนีภัยสงครามและที่อาจทะลักเข้ามาในไทยภายหลังจากที่มีการประกาศเกณฑ์ทหารในเมียนมา
3) สนับสนุนรัฐบาลในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา แต่ควรให้ครอบคลุมบุคคลจำนวนมากขึ้นไม่ใช่เพียง 10,000 คนเศษ 3 หมู่บ้านและควรกระจายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกฝ่ายรวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆและควรดึงเอาทรัพยากรและความช่วยเหลือจากอาเซียนเข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างกว้างขวางและเป็นรูปธรรม
4) เสนอให้ไทยเป็นหัวหอกในการแก้ไขปัญหาเมียนมาอย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วมากขึ้นโดยการไม่เพียงเป็นแค่ผู้อำนวยความสะดวก แต่ควรเพิ่มบทบาทเป็นผู้ผลักดันสันติภาพในเมียนมา โดยตั้งเมียนมาทรอยก้าพลัสขึ้น ประกอบด้วยไทย ประธานอาเซียน จีนและอินเดีย เพื่อเป็นเวทีผลักดันการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน นำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในเมียนมา ซึ่งสอดคล้องกับฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน


“เราไม่ขาดแคลนแนวคิด แต่ต้องเพิ่มความมุ่งมั่น จริงจัง ปัญหาเมียนมานั้นเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่อาเซียน และไทยจะเป็นหัวหอกในการผลักดัน การสร้างสันติภาพให้สำเร็จเพราะถ้าทำได้ เกียรติภูมิของไทยจะเพิ่มขึ้นและกลับเข้ามาอยู่ในจอเรดาร์ของโลกอย่างชัดเจน” นายนพดล กล่าว. 315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม