พรรคก้าวไกล 15 มี.ค.-ก้าวไกลแฉเบื้องหลังพิจารณางบฯ 67 “ศิริกัญญา” โวยสภาฯ มีอำนาจพิจารณาแค่ 41% เหตุหน่วยงานใช้งบไปพลางแล้ว ควรแก้ช่องโหว่ โยกอำนาจจาก ผอ.สำนักงบฯ ไปที่นายกฯ หรือ ครม. ให้มีคนรับผิดรับชอบ ชี้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เกิดแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สัดส่วนพรรคก้าวไกล โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. จัดแถลงข่าว Policy Wach ในหัวข้อ “รวบตึงงบฯ 67 จากห้อง กมธ.” โดยน.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ปีนี้เราทำงานกระชับ เร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากงบประมาณออกล่าช้า ซึ่งเท่าที่จำได้ ไม่มีปีไหนที่เร็วที่สุดมาก่อน อีกสาเหตุหนึ่งเนื่องจากมีการใช้งบประมาณในหน่วยงานราชการไปพลางก่อนแล้ว
“สิ่งที่เกิดขึ้นในการอนุมัติงบประมาณไปแล้วคือหน่วยงานเริ่มใช้งบประมาณไปก่อนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และเมื่อสภาฯ เข้ามาพิจารณาเงินก้อน 3.48 ล้านล้านบาท จะมีเกือบ 2 ล้านล้านบาทที่ถูกอนุมัติและใช้ไปแล้ว ดังนั้น ในความเป็นจริงสภาฯ มีอำนาจที่จะพิจารณาจริงจังแค่ 41% เท่านั้น ซึ่งวิธีการแบบนี้มีปัญหาและช่องโหว่ แม้จะเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่เราพบการอนุมัติหลักเกณฑ์ว่าใช้อะไรได้ อะไรไม่ได้ มีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเพียงคนเดียวที่มีอำนาจอนุมัติ ซึ่งช่องโหว่นี้ควรจะได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อจะมีผู้รับผิดชอบในส่วนที่สภาฯ ไม่สามารถอนุมัติได้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีเกิดเหตุการณ์ในอนุกมธ.ที่ไปตัดงบฯ บางโครงการ แต่ต้องมาคืนภายหลัง เนื่องจากใช้งบประมาณไปเรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการจัดการยาเสพติด หลายครั้งที่รัฐบาลจัดตั้งอย่างล่าช้า ซึ่งเราอาจจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก จึงอยากให้เป็นบทเรียนว่าคนที่จะมีอำนาจในการอนุมัติแผนงานใช้งบประมาณไปพลางก่อนควรจะเป็นคณะรัฐมนตรี
“ตามปกติแล้วทุกปี คณะกมธ.งบประมาณ จะต้องตั้งอนุกมธ.มาทำงาน เพื่อพิจารณารายละเอียดที่ลงลึกในงบแต่ละสัดส่วน โดยจะแบ่งตามรายการ แบ่งตามผู้รับเหมาเข้าห้องงบ แต่ปีนี้มีเรื่องแปลกใหม่ คือแบ่งกันตามกระทรวง แต่ละอนุกมธ. จะมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของรัฐมนตรีที่มาสังกัดพรรคการเมืองนั้นอยู่ เช่น อนุ กมธ.เศรษฐกิจ จะเห็นว่าจะมีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน เราก็จะทราบว่ารัฐมนตรีนั้น มาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นอนุ กมธ.ก็จะมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นเดียวกัน หรือ อนุ กมธ. ทรัพยากรบุคคล อุดมศึกษา แรงงาน ก็จะมาจากพรรคภูมิใจไทย ก็มีเสียงบ่น เสียงห่วงใยมาจากหลายกมธ.และอนุกมธ. ว่าทำจัดแบบนี้ จะเกิดเหตุการณ์ที่จะมีการเข้ามาปกป้องงบของรัฐมนตรีหรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามที่จะเร่งตัดงบฯ กันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการพิจารณาอนุกมธ. เช่น เรือฟริเกตก็ตัดวันสุดท้าย การก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภา กองทัพเรือก็ถูกตัดวันสุดท้าย แต่มีการอุทธรณ์และคืนงบไป ยังมีอีกหลายรายการที่ตัดในห้อง กมธ.ใหญ่ ในส่วนแผนบูรณาการถูกตัดงบฯมากที่สุด เนื่องจากไม่มีเจ้าที่ ไม่มีเจ้าภาพ แต่สุดท้ายก็อุทธรณ์
“ปีนี้ตัดงบฯ ไปได้ 9,024 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ก็จะถูกเฉลี่ยไปที่หน่วยงานที่ของบเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะไปลงที่งบกลาง กระทรวงที่ได้งบเพิ่ม คือกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเราเห็นว่าควรจะได้เงินสมทบประกันสังคม ทุกวันนี้ผู้ประกันตนถูกรัฐบาลเล่นตุกติกอยู่ เนื่องจากไม่เคยจ่ายดอกเบี้ยครบ ไม่เคยจ่ายเงินสมทบ ส่วนกระทรวงที่ถูกตัดงบมากที่สุดคือกระทรวงกลาโหม รายการใหญ่ที่สุดที่ถูกตัดคืองบฯ จัดซื้อเรือฟริเกต รองลงมาคือกระทรวงมหาดไทย ตัดงบฝายซีเมนต์” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สาเหตุที่อยากโยกงบฯ ไปงบกลาง เนื่องจากการจัดสรรงบผิดพลาดใน 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องชดใช้เงินคงคลังเกือบ 1.2 แสนล้านบาท แทนที่ควรตั้งเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ เงินชำระหนี้ให้ได้ ที่ผ่านมามีการตั้งงบไว้ขาด ปีนี้ก็ยังตั้งงบไว้ไม่เพียงพออีก ทำให้ต้องแปรเพิ่มให้กว่า 7,000 ล้าน นอกจากนี้ยังมีการส่งเงินไปที่เงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็น ซึ่งตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม กมธ.ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จึงมีการเจรจาอนุมัติให้แลกกับเพิ่มเงินในกองทุนประกันสังคม
เมื่อถามว่า ข้อสงสัยเรื่องการโยกงบไปอยู่ที่งบกลาง เป็นเพราะจะนำไปทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากงบที่ได้คนละไซส์กับดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตจะไม่เกิดขึ้นภายในงบ 67 แน่นอน เพราะยังไม่มีแหล่งที่มาของเงินที่ชัดเจน และจนถึงวันนี้ครบ 30 วัน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตชุดใหญ่ และไม่นัดประชุมอีกเลย รวมถึงไมแจ้งล่วงหน้า จึงเท่ากับว่ากระบวนการล่าช้าออกไปอีก เข้าใจว่านายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าอาจเป็นมาจากการที่คณะอนุกรรมการยังทำงานไม่แล้วเสร็จ ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ไม่แล้วเสร็จ เพราะไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจจากการไปรับฟังภาคส่วนต่า ง ๆ หรือไม่ ส่วนเป็นการหาทางลงของรัฐบาลใช่หรือไม่
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่ารัฐบาลเลือกเส้นทางที่ลุยไฟมากที่สุด วันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะไปต่อแล้ว และน่าจะกำลังหาทางลงอยู่ ตามที่มีหลายคนตั้งข้อสังเกต แต่มองว่าแม้จะไม่ได้ทำโครงการนี้ รัฐบาลไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะจากที่ทำโพลออกมา ประชาชนอาจจะเสียใจแต่ไม่โกรธรัฐบาล.-312.-สำนักข่าวไทย