ก้าวไกลชำแหละหลังห้องกมธ.งบ 67

พรรคก้าวไกล 15 มี.ค.-ก้าวไกลแฉเบื้องหลังพิจารณางบฯ  67 “ศิริกัญญา” โวยสภาฯ มีอำนาจพิจารณาแค่ 41% เหตุหน่วยงานใช้งบไปพลางแล้ว ควรแก้ช่องโหว่ โยกอำนาจจาก ผอ.สำนักงบฯ ไปที่นายกฯ หรือ ครม. ให้มีคนรับผิดรับชอบ ชี้ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เกิดแน่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 สัดส่วนพรรคก้าวไกล โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. จัดแถลงข่าว Policy Wach ในหัวข้อ “รวบตึงงบฯ 67 จากห้อง กมธ.” โดยน.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ปีนี้เราทำงานกระชับ เร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากงบประมาณออกล่าช้า ซึ่งเท่าที่จำได้ ไม่มีปีไหนที่เร็วที่สุดมาก่อน อีกสาเหตุหนึ่งเนื่องจากมีการใช้งบประมาณในหน่วยงานราชการไปพลางก่อนแล้ว

“สิ่งที่เกิดขึ้นในการอนุมัติงบประมาณไปแล้วคือหน่วยงานเริ่มใช้งบประมาณไปก่อนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และเมื่อสภาฯ เข้ามาพิจารณาเงินก้อน 3.48 ล้านล้านบาท จะมีเกือบ 2 ล้านล้านบาทที่ถูกอนุมัติและใช้ไปแล้ว ดังนั้น ในความเป็นจริงสภาฯ มีอำนาจที่จะพิจารณาจริงจังแค่ 41% เท่านั้น ซึ่งวิธีการแบบนี้มีปัญหาและช่องโหว่ แม้จะเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่เราพบการอนุมัติหลักเกณฑ์ว่าใช้อะไรได้ อะไรไม่ได้ มีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเพียงคนเดียวที่มีอำนาจอนุมัติ ซึ่งช่องโหว่นี้ควรจะได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อจะมีผู้รับผิดชอบในส่วนที่สภาฯ ไม่สามารถอนุมัติได้

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีเกิดเหตุการณ์ในอนุกมธ.ที่ไปตัดงบฯ บางโครงการ แต่ต้องมาคืนภายหลัง เนื่องจากใช้งบประมาณไปเรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการจัดการยาเสพติด หลายครั้งที่รัฐบาลจัดตั้งอย่างล่าช้า ซึ่งเราอาจจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก จึงอยากให้เป็นบทเรียนว่าคนที่จะมีอำนาจในการอนุมัติแผนงานใช้งบประมาณไปพลางก่อนควรจะเป็นคณะรัฐมนตรี

“ตามปกติแล้วทุกปี คณะกมธ.งบประมาณ จะต้องตั้งอนุกมธ.มาทำงาน เพื่อพิจารณารายละเอียดที่ลงลึกในงบแต่ละสัดส่วน โดยจะแบ่งตามรายการ แบ่งตามผู้รับเหมาเข้าห้องงบ แต่ปีนี้มีเรื่องแปลกใหม่ คือแบ่งกันตามกระทรวง แต่ละอนุกมธ. จะมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของรัฐมนตรีที่มาสังกัดพรรคการเมืองนั้นอยู่ เช่น อนุ กมธ.เศรษฐกิจ จะเห็นว่าจะมีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน เราก็จะทราบว่ารัฐมนตรีนั้น มาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นอนุ กมธ.ก็จะมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นเดียวกัน หรือ อนุ กมธ. ทรัพยากรบุคคล อุดมศึกษา แรงงาน ก็จะมาจากพรรคภูมิใจไทย ก็มีเสียงบ่น เสียงห่วงใยมาจากหลายกมธ.และอนุกมธ. ว่าทำจัดแบบนี้ จะเกิดเหตุการณ์ที่จะมีการเข้ามาปกป้องงบของรัฐมนตรีหรือไม่” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามที่จะเร่งตัดงบฯ กันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการพิจารณาอนุกมธ. เช่น เรือฟริเกตก็ตัดวันสุดท้าย การก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภา กองทัพเรือก็ถูกตัดวันสุดท้าย แต่มีการอุทธรณ์และคืนงบไป ยังมีอีกหลายรายการที่ตัดในห้อง กมธ.ใหญ่ ในส่วนแผนบูรณาการถูกตัดงบฯมากที่สุด เนื่องจากไม่มีเจ้าที่ ไม่มีเจ้าภาพ แต่สุดท้ายก็อุทธรณ์

“ปีนี้ตัดงบฯ ไปได้ 9,024 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ก็จะถูกเฉลี่ยไปที่หน่วยงานที่ของบเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะไปลงที่งบกลาง กระทรวงที่ได้งบเพิ่ม คือกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเราเห็นว่าควรจะได้เงินสมทบประกันสังคม ทุกวันนี้ผู้ประกันตนถูกรัฐบาลเล่นตุกติกอยู่ เนื่องจากไม่เคยจ่ายดอกเบี้ยครบ ไม่เคยจ่ายเงินสมทบ ส่วนกระทรวงที่ถูกตัดงบมากที่สุดคือกระทรวงกลาโหม รายการใหญ่ที่สุดที่ถูกตัดคืองบฯ จัดซื้อเรือฟริเกต รองลงมาคือกระทรวงมหาดไทย ตัดงบฝายซีเมนต์” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า สาเหตุที่อยากโยกงบฯ ไปงบกลาง เนื่องจากการจัดสรรงบผิดพลาดใน 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องชดใช้เงินคงคลังเกือบ 1.2 แสนล้านบาท แทนที่ควรตั้งเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ เงินชำระหนี้ให้ได้ ที่ผ่านมามีการตั้งงบไว้ขาด ปีนี้ก็ยังตั้งงบไว้ไม่เพียงพออีก ทำให้ต้องแปรเพิ่มให้กว่า 7,000 ล้าน นอกจากนี้ยังมีการส่งเงินไปที่เงินสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็น ซึ่งตรวจสอบได้ยาก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม กมธ.ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จึงมีการเจรจาอนุมัติให้แลกกับเพิ่มเงินในกองทุนประกันสังคม

เมื่อถามว่า ข้อสงสัยเรื่องการโยกงบไปอยู่ที่งบกลาง เป็นเพราะจะนำไปทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากงบที่ได้คนละไซส์กับดิจิทัล วอลเล็ต ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตจะไม่เกิดขึ้นภายในงบ 67 แน่นอน เพราะยังไม่มีแหล่งที่มาของเงินที่ชัดเจน และจนถึงวันนี้ครบ 30 วัน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตชุดใหญ่ และไม่นัดประชุมอีกเลย รวมถึงไมแจ้งล่วงหน้า จึงเท่ากับว่ากระบวนการล่าช้าออกไปอีก เข้าใจว่านายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังระบุว่าอาจเป็นมาจากการที่คณะอนุกรรมการยังทำงานไม่แล้วเสร็จ  ซึ่งไม่แน่ใจว่าที่ไม่แล้วเสร็จ เพราะไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจจากการไปรับฟังภาคส่วนต่า ง ๆ หรือไม่ ส่วนเป็นการหาทางลงของรัฐบาลใช่หรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอดว่ารัฐบาลเลือกเส้นทางที่ลุยไฟมากที่สุด วันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะไปต่อแล้ว และน่าจะกำลังหาทางลงอยู่ ตามที่มีหลายคนตั้งข้อสังเกต แต่มองว่าแม้จะไม่ได้ทำโครงการนี้ รัฐบาลไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะจากที่ทำโพลออกมา ประชาชนอาจจะเสียใจแต่ไม่โกรธรัฐบาล.-312.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]