นายกฯ กล่าวปาฐกถางานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ

ฝรั่งเศส 12 มี.ค. – นายกฯ กล่าวปาฐกถางานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ (MIPIM 2024) ย้ำศักยภาพ 3 โครงสร้างพื้นฐานของไทย “ศูนย์กลางการบิน – Landbridge – พลังงานสีเขียว” ช่วยส่งเสริมความก้าวหน้า ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ


วันนี้ (12 มีนาคม 2567) เวลา 11.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) ณ Palais des Festivals เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ (MIPIM 2024) และกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหัวข้อ “Better Infrastructures in an Age of Risk, Scarcity and Emergency” เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ รัฐบาลส่งเสริมความเท่าเทียมกันผ่านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าและการเข้าถึงทุกภาคส่วน นำไปสู่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งไม่เพียงสำหรับผู้ที่อาศัยในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังมอบโอกาสให้กับทุกคนในทุกพื้นที่ด้วย


ไทยที่ได้เปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูสู่ประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงทศวรรษก่อนที่สนามบินจะสร้างแล้วเสร็จ มีจำนวนนักเดินทางเพิ่มขึ้นที่ 71% และทศวรรษต่อมา มีการเติบโตกว่า 110% ในหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก

ความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมหลายมิติ รวมถึงด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งในยุคที่มีความเสี่ยงรอบด้าน ความขาดแคลน และสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ การมีโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันและทำหน้าที่เป็นกระดูกสันหลังที่สำคัญสำหรับสังคม นายกรัฐมนตรีจึงได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของรัฐบาลและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ความสำคัญกับ 3 ด้านหลัก ได้แก่

ด้านศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) รัฐบาลวางแผนที่จะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินหลักของภูมิภาคภายในทศวรรษนี้ ไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอินโดจีน ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เมืองใหญ่ ๆ ทั่วเอเชียใช้เวลาบิน 4 ถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งกรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียว ได้ต้อนรับผู้โดยสารมากกว่า 60 ล้านคนต่อปี จึงต้องการขยายขีดความสามารถให้รองรับนักเดินทางได้มากขึ้น โดยมีแผนจะขยายสนามบินที่มีอยู่และสร้างสนามบินใหม่ ทั้งการขยายสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพื่อเพิ่มอาคารผู้โดยสารใหม่ และสร้างรันเวย์อีก 2 แห่ง เมื่อสร้างเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปี


นอกจากนี้ รัฐบาลจะสร้างสนามบินใหม่อีก 2 แห่งในภาคเหนือและภาคใต้ โดยสนามบินนานาชาติล้านนา (Lanna International Airport) จะเป็นสนามบินแห่งที่สองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคักในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือ ขณะที่สนามบินนานาชาติอันดามัน (Andaman International Airport) ในจังหวัดพังงา ซึ่งใกล้กับจังหวัดภูเก็ต จะช่วยเสริมศูนย์กลางการบินเชื่อมเส้นทางระยะไกลในภาคใต้ของประเทศไทย โดยสนามบินทั้งสองแห่งนี้จะรองรับผู้โดยสารรวมกันได้สูงสุดถึง 40 ล้านคนต่อปี

นอกเหนือจากนี้ รัฐบาลมีแผนจะปรับปรุงการบริการสำหรับผู้มาเยือนทุกคนที่เดินทางผ่านสนามบินของไทย ได้แก่

  • การปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานภาคพื้นดินและการลดระยะเวลารอผู้โดยสารขาเข้าและขาออก
  • การขยายและจัดสรรเวลาจัดการการบินขึ้น-ลงใหม่ (landing and take-off slots) เพื่อให้เหมาะสมและสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ
  • การลดค่าธรรมเนียมการลงจอด (landing fees) และเพิ่มค่าธรรมเนียมการล่าช้า (delay fees) เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อขายและรองรับเที่ยวบินได้มากขึ้น
  • การปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยทั้งปฏิบัติการภาคพื้นดินและปฏิบัติการทางอากาศ
  • การเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเส้นทางใหม่สู่ประเทศไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นผู้นำภูมิภาคในฐานะศูนย์กลางการบิน ด้วยการลงทุนขนาดใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริการด้านต่าง ๆ

ด้านโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย – อันดามัน (Landbridge Project) เป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมต่อทางทะเลในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ปัจจุบันเราเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมาก จากการพึ่งพาช่องแคบมะละกาเพียงอย่างเดียวในการเดินทางระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยปัจจุบัน 25% ของสินค้าทั่วโลกผ่านช่องแคบดังกล่าว ซึ่งในแต่ละปี เรือจำนวน 90,000 ลำ ต้องแล่นผ่านเส้นทางน้ำที่คับคั่ง ส่งผลให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้าและต้องเข้าคิวจำนวนมาก ซึ่งภายใต้โครงการ Landbridge ถนนและรถไฟความเร็วสูงจะเชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึก 2 แห่ง โดยตัดผ่านภาคใต้ของไทย และเป็นทางเลือกเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรทั้งสองแห่ง ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญจากมุมมองเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาการค้าการลงทุนของโลกและเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์โลก รัฐบาลจึงเชื่อมั่นว่า โครงการ Landbridge จะประสบความสำเร็จและสำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความเป็นกลาง พร้อมเปิดรับทุกภาคส่วนเสมอ

ด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสีเขียว (Green Energy Infrastructure) โครงการและการลงทุนที่สำคัญส่วนใหญ่นับจากนี้ ล้วนต้องการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนในราคาที่เหมาะสมและเชื่อถือได้ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ลงทุนจำนวนมากเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายของการมีพลังงานทดแทน 50% ของการผลิตภายในปี 2583 รวมทั้งไทยยังเป็นหนึ่งในประเทศต้น ๆ ที่เปิดตัวโครงการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff) เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่ลงทุนในประเทศไทยมั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนได้ในปีต่อ ๆ ไป

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า โครงการและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของไทย ไม่เพียงสำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย แต่ยังรวมถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและเท่าเทียมกันด้วย โดยเมื่อเกิดความร่วมมือกัน จะไม่ใช้เพียงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น รัฐบาลกำลังสร้างการเชื่อมต่อที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจและประชาชนเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ ขอให้ผู้เข้าร่วมทุกคน พิจารณาการมีส่วนร่วม เปลี่ยนวิสัยทัศน์เหล่านี้เป็นความจริง เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

อนึ่ง งาน MIPIM 2024 เป็นงานมหกรรมอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 -15 มีนาคม 2567 มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาดใหญ่กว่า 18,700 ตารางเมตร พร้อมด้วยการประชุมเชิงปฏิบัติการ การเสวนา และการพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลกที่เกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ .-314 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]