โฆษกกต.เตือนคนไทยเที่ยวจีน-ไต้หวัน

กต.1 มี.ค.-โฆษกกต.คาดคนไทยแห่เที่ยวจีนจำนวนมาก หลังยกเว้นวีซ่า แนะศึกษา ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบเคร่งครัด พร้อมเตือนปชช.ที่จะไปไต้หวัน ห้ามอยู่เกินเวลากำหนด จะถูกปรับเพิ่มจากเดิม 5 เท่า


นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า ระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับการเดินทางไปพำนักไม่เกิน 30 วัน ในวันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันแรก โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เหมือนที่ญี่ปุ่น มีนโยบายฟรีวีซ่าให้กับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา จึงขอให้นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางศึกษา ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของประเทศจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากระหว่างการเดินทาง อย่างไรก็ตาม หากพลเมืองไทยที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีน ประสบปัญหา สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในหลาย ๆ เมืองของจีนได้ หรือติดต่อที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเตือนพลเมืองไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไต้หวัน ในระยะนี้ว่า ขอให้คนไทยที่จะไปเที่ยวที่ไต้หวัน ซื้อประกันภัยทุกครั้งก่อนการเดินทาง เพราะที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวไทยเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุกระทันหันระหว่างการท่องเที่ยว จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบ่อยครั้ง ซึ่งแม้ไต้หวันจะมีระบบสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน แต่หากไม่มีประกันสุขภาพการเดินทาง จะต้องเสียอัตราค่าใช้จ่ายการรักษาที่สูงมาก


“ขอแนะนำให้คนไทย ที่จะไปเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ซื้อประกันภัยการเดินทาง เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง โดยสามารถซื้อได้ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งราคาไม่สูง นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน ยังปรับนโยบายค่าปรับการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับผู้ที่พำนักเกินจำนวนวันที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในไต้หวัน หรือ Over Stay จาก 10,000 ดอลลาร์ไต้หวันเป็น 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือ 5 เท่าของค่าปรับเดิม ตั้งแต่วันนี้ (1 มี.ค.) เป็นต้นไป จึงขอให้ผู้เดินทางวางแผนการเดินทางให้รอบคอบ” นางกาญจนา กล่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีพลเมืองชาวเมียนมาขอวีซ่าไทยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้งจำนวนมาก ว่า จากการติดตามพบว่า มีการจัดระบบอย่างดีและจำนวนผู้มาขอวีซ่าลดลงแล้ว คาดว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำเมืองต่าง ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เผยแพร่ขั้นตอนการเตรียมตัวการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังยกเว้นวีซ่าระหว่างกันวันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันแรกว่า ควรเช็คอายุหนังสือเดินทางในวันเดินทาง ที่จะต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไม่เช่นนั้นอาจถูกสายการบินไม่ให้ขึ้นเครื่อง รวมถึงตรวจเช็คสภาพอากาศในเมืองที่จะไปเที่ยว และเงื่อนไขของบริษัทนำเที่ยวและที่พัก ก่อนการจองและชำระเงิน


ขณะเดียวกันจะต้องเตรียมยาประจำตัว และยาสามัญ ให้ครบถ้วน ห้ามนำยาที่มีส่วนประกอบของกัญชา กระท่อม และสิ่งเสพติดต่างๆ เดินทางเข้าสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากจะมีโทษตามกฎหมายร้ายแรง และควรซื้อประกันสำหรับการเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมระยะเวลาการพำนักอยู่ในประเทศจีน สำหรับการใช้จ่ายการชำระเงินในสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น การใช้จ่ายผ่าน Digital wallet จะได้รับความนิยมมากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด เนื่องจากบางร้านค้าไม่รับชำระเงินด้วยเงินสด ซึ่งการซื้อสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ สามารถสแกนจ่ายด้วย Application WeChat Pay และ Alipay ซึ่ง Application ดังกล่าวสามารถผูกกับบัตรเครดิตของไทยได้ แต่ก็ควรพกเงินสดติดตัวไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน

ส่วนการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าพักนั้น หากนักท่องเที่ยวไม่ได้พักในโรงแรม จะต้องมีหนังสือเชิญจากญาติหรือเพื่อนในประเทศจีน และต้องไปติดต่อลงทะเบียนที่พักที่สถานีตำรวจใกล้บ้านภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากนักท่องเที่ยวพักที่โรงแรมก็สามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่โรงแรมได้ทันที แต่จะต้องมีเงื่อนไขว่าเป็นโรงแรมที่สามารถให้ชาวต่างชาติเข้าพักได้

สำหรับการติดต่อสื่อสารภายในสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น  Application ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น Instagram, Facebook, Line, Google และ YouTube ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร สามารถใช้บริการโรมมิ่งจากเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่ในประเทศไทย หรือซื้อซิมเฉพาะการใช้งานในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ใช้งาน Application ต่าง ๆ ได้ตามปกติ แต่การใช้งานในระบบ VPN นั้น อาจขัดต่อกฎหมายจีน

ส่วนระเบียบศุลกากรในการเดินทางเข้าประเทศจีน ผู้เดินทางห้ามนำพืช ผัก และผลไม้ทั้งแบบสดและแช่แข็งเข้าประเทศจีน ห้ามนำสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เข้าประเทศจีน เช่น ผลิตภัณฑ์จากไข่ รังนกสด นม และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ยกเว้นซอสปรุงรสที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว ไม่อนุญาตให้นำเข้าบุหรี่จำนวนเกิน 400 มวน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 ลิตร เครื่องเงินหรือเครื่องทองไม่เกิน 50 กรัม เงินสดที่จะถือติดตัวเข้าออกประเทศจีนไม่เกิน 20,000 หยวน หรือเงินสกุลอื่น ๆ เทียบเท่าไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้(1 มี.ค.) เป็นต้นไป ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย สามารถเดินทางเข้าทีมเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และติดต่อธุรกิจได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า หน่วยการเดินทางเข้าแต่ละครั้งมีระยะเวลาพำนักครั้งละไม่เกิน 30 วัน และระยะเวลารวมกันไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วง 180 วันหรือ 6 เดือน โดยควรถ่ายรูปหน้าข้อมูลหนังสือเดินทาง และหน้าที่มีการประทับตราเข้าประเทศจีนเก็บไว้บนมือถือ หรือทำสำเนาติดตัว เผื่อในกรณีหนังสือเดินทางสูญหาย จะได้มีหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ.-312.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]