โฆษกกต.เตือนคนไทยเที่ยวจีน-ไต้หวัน

กต.1 มี.ค.-โฆษกกต.คาดคนไทยแห่เที่ยวจีนจำนวนมาก หลังยกเว้นวีซ่า แนะศึกษา ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบเคร่งครัด พร้อมเตือนปชช.ที่จะไปไต้หวัน ห้ามอยู่เกินเวลากำหนด จะถูกปรับเพิ่มจากเดิม 5 เท่า


นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่า ระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับการเดินทางไปพำนักไม่เกิน 30 วัน ในวันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันแรก โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เหมือนที่ญี่ปุ่น มีนโยบายฟรีวีซ่าให้กับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา จึงขอให้นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางศึกษา ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของประเทศจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากระหว่างการเดินทาง อย่างไรก็ตาม หากพลเมืองไทยที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีน ประสบปัญหา สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในหลาย ๆ เมืองของจีนได้ หรือติดต่อที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเตือนพลเมืองไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไต้หวัน ในระยะนี้ว่า ขอให้คนไทยที่จะไปเที่ยวที่ไต้หวัน ซื้อประกันภัยทุกครั้งก่อนการเดินทาง เพราะที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวไทยเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุกระทันหันระหว่างการท่องเที่ยว จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบ่อยครั้ง ซึ่งแม้ไต้หวันจะมีระบบสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน แต่หากไม่มีประกันสุขภาพการเดินทาง จะต้องเสียอัตราค่าใช้จ่ายการรักษาที่สูงมาก


“ขอแนะนำให้คนไทย ที่จะไปเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ซื้อประกันภัยการเดินทาง เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง โดยสามารถซื้อได้ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งราคาไม่สูง นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน ยังปรับนโยบายค่าปรับการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับผู้ที่พำนักเกินจำนวนวันที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในไต้หวัน หรือ Over Stay จาก 10,000 ดอลลาร์ไต้หวันเป็น 50,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือ 5 เท่าของค่าปรับเดิม ตั้งแต่วันนี้ (1 มี.ค.) เป็นต้นไป จึงขอให้ผู้เดินทางวางแผนการเดินทางให้รอบคอบ” นางกาญจนา กล่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีพลเมืองชาวเมียนมาขอวีซ่าไทยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้งจำนวนมาก ว่า จากการติดตามพบว่า มีการจัดระบบอย่างดีและจำนวนผู้มาขอวีซ่าลดลงแล้ว คาดว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำเมืองต่าง ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เผยแพร่ขั้นตอนการเตรียมตัวการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังยกเว้นวีซ่าระหว่างกันวันนี้ (1 มี.ค.) เป็นวันแรกว่า ควรเช็คอายุหนังสือเดินทางในวันเดินทาง ที่จะต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ไม่เช่นนั้นอาจถูกสายการบินไม่ให้ขึ้นเครื่อง รวมถึงตรวจเช็คสภาพอากาศในเมืองที่จะไปเที่ยว และเงื่อนไขของบริษัทนำเที่ยวและที่พัก ก่อนการจองและชำระเงิน


ขณะเดียวกันจะต้องเตรียมยาประจำตัว และยาสามัญ ให้ครบถ้วน ห้ามนำยาที่มีส่วนประกอบของกัญชา กระท่อม และสิ่งเสพติดต่างๆ เดินทางเข้าสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากจะมีโทษตามกฎหมายร้ายแรง และควรซื้อประกันสำหรับการเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมระยะเวลาการพำนักอยู่ในประเทศจีน สำหรับการใช้จ่ายการชำระเงินในสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น การใช้จ่ายผ่าน Digital wallet จะได้รับความนิยมมากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด เนื่องจากบางร้านค้าไม่รับชำระเงินด้วยเงินสด ซึ่งการซื้อสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ สามารถสแกนจ่ายด้วย Application WeChat Pay และ Alipay ซึ่ง Application ดังกล่าวสามารถผูกกับบัตรเครดิตของไทยได้ แต่ก็ควรพกเงินสดติดตัวไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน

ส่วนการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าพักนั้น หากนักท่องเที่ยวไม่ได้พักในโรงแรม จะต้องมีหนังสือเชิญจากญาติหรือเพื่อนในประเทศจีน และต้องไปติดต่อลงทะเบียนที่พักที่สถานีตำรวจใกล้บ้านภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากนักท่องเที่ยวพักที่โรงแรมก็สามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่โรงแรมได้ทันที แต่จะต้องมีเงื่อนไขว่าเป็นโรงแรมที่สามารถให้ชาวต่างชาติเข้าพักได้

สำหรับการติดต่อสื่อสารภายในสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น  Application ไม่สามารถใช้งานได้ เช่น Instagram, Facebook, Line, Google และ YouTube ดังนั้น เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร สามารถใช้บริการโรมมิ่งจากเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่ในประเทศไทย หรือซื้อซิมเฉพาะการใช้งานในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ใช้งาน Application ต่าง ๆ ได้ตามปกติ แต่การใช้งานในระบบ VPN นั้น อาจขัดต่อกฎหมายจีน

ส่วนระเบียบศุลกากรในการเดินทางเข้าประเทศจีน ผู้เดินทางห้ามนำพืช ผัก และผลไม้ทั้งแบบสดและแช่แข็งเข้าประเทศจีน ห้ามนำสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เข้าประเทศจีน เช่น ผลิตภัณฑ์จากไข่ รังนกสด นม และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ยกเว้นซอสปรุงรสที่ผ่านการปรุงสุกแล้ว ไม่อนุญาตให้นำเข้าบุหรี่จำนวนเกิน 400 มวน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 ลิตร เครื่องเงินหรือเครื่องทองไม่เกิน 50 กรัม เงินสดที่จะถือติดตัวเข้าออกประเทศจีนไม่เกิน 20,000 หยวน หรือเงินสกุลอื่น ๆ เทียบเท่าไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้(1 มี.ค.) เป็นต้นไป ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย สามารถเดินทางเข้าทีมเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และติดต่อธุรกิจได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า หน่วยการเดินทางเข้าแต่ละครั้งมีระยะเวลาพำนักครั้งละไม่เกิน 30 วัน และระยะเวลารวมกันไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วง 180 วันหรือ 6 เดือน โดยควรถ่ายรูปหน้าข้อมูลหนังสือเดินทาง และหน้าที่มีการประทับตราเข้าประเทศจีนเก็บไว้บนมือถือ หรือทำสำเนาติดตัว เผื่อในกรณีหนังสือเดินทางสูญหาย จะได้มีหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ.-312.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]