มั่นใจ “ทักษิณ” ได้พักโทษ ไม่ถูกอายัดตัว

ทำเนียบรัฐบาล  6 ก.พ.-“พิชิต” มั่นใจ “ทักษิณ” ได้พักโทษ ไม่ถูกอายัดตัว ชี้ คดี ม.112 เหตุเกิดต่างประเทศ ไม่มีการสอบสวน


นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษว่า เรื่องนี้ต้องสอบถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมถึงกรมราชทัณฑ์ เพราะจะทราบถึงขั้นตอนและระเบียบเป็นอย่างดี

“ผมยังไม่ทราบว่านายทักษิณมีชื่อได้พักโทษ หากมีชื่อจริง ขั้นตอนต่าง ๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ผมไม่อยากพูดอะไร กลัวจะคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยืนยันว่ายังไม่ได้คุยและได้พบกับนายทักษิณ การพักโทษขึ้นอยู่กับการนับระยะเวลากำหนดของกรมราชทัณฑ์ ไม่ใช่หน้าที่ของผม” นายพิชิต กล่าว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณจะถูกอายัดตัวในคดีมาตรา 112 นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าไม่มี ข่าวค่อนข้างจะคลาดเคลื่อน ส่วนที่ระบุว่าเป็นคดีในปี 2559 เป็นกรณีที่นายทักษิณพูดที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร และเท่าที่ตรวจสอบ ขณะที่นายทักษิณถูกแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวหรือชี้แจง คิดว่าไม่เป็นธรรมกับนายทักษิณ เพราะในกฎหมายกำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ

“แต่กรณีดังกล่าวท่านอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสชี้แจงในส่วนที่เป็นคุณว่าท่านไม่ได้กระทำความผิด และคิดว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว แต่เป็นรายละเอียดในชั้นของพนักงานสอบสวนและอัยการคงไม่อยากจะให้เป็นข่าว เพราะจะทำให้เป็นกระแสและเกิดความคลาดคลื่อนกับสังคมได้ ซึ่งคิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และท่านได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว” นายพิชิต กล่าว

ส่วนประเด็นที่ว่านายทักษิณทำผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าไม่ผิด มั่นใจว่ามีหลายประเด็นที่นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหตุเกิดต่างประเทศ และคลิปที่นำมาเผยแพร่เป็นเพียงบางท่อนบางตอน ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่อยากกล่าวหาว่าเป็นการตัดต่อ เพราะยังมีบางส่วนที่ขาดหายไปหลายเรื่อง ทราบว่ายังไม่ได้มา รวมถึงการสอบสวนผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์นายทักษิณ เรื่องนี้ต้องใช้พ.ร.บ.ความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศสอบสวน ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนหรืออัยการดำเนินการขั้นตอนนี้แล้วหรือไม่ เพราะเป็นกฎหมายสากล ไม่ใช่มีข่าวแล้วมาสรุปความกันว่าทำผิด


“เรื่องหมายจับและกระบวนการต่าง ๆ มีการดูแลแล้ว คงไม่มีหมายอะไรมาจับท่าน พนักงานสอบสวนและอัยการได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว คงไม่ปล่อยปละละเลย เพียงแต่ว่าเราไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะว่ามันมีสังคมอีกส่วนหนึ่งต้องการที่จะทำให้เกิดบางอย่าง และทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ยืนยันว่ากระบวนการ ในการดำเนินการกรณีนายทักษิณมันเป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่ท่านไม่เคยได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเลย ขอให้สบายใจได้” นายพิชิต กล่าว

ส่วนหากนายทักษิณได้พักโทษ จะครอบคลุมคดีอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า การพักโทษเป็นไปตามหมายแดง ที่นำท่านเข้ามาสู่ประเทศไทยว่ามีกี่คดี ที่ถูกใบแดงแจ้งโทษ ตรงนี้คือตัวตัดสิน ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาถกเถียงกันว่านายทักษิณได้รับโทษหรือยังนั้น ตนขอยืนยันในประเด็นข้อกฎหมายว่า ตอนที่นายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยและถูกนำตัวไปศาล ศาลจะออกใบแดงแจ้งโทษ ส่วนกระบวนการบังคับโทษเราต้องแยก เพราะขณะนี้มีหลายฝ่ายมากล่าวหาว่านายทักษิณทำลายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมยุติแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด

นายพิชิต กล่าวว่า ขณะนี้เขาเรียกว่ากระบวนการบังคับโทษและบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมมันได้สิ้นสุดไปตั้งแต่ศาลได้ออกใบแดง ซึ่งอยากให้จำไว้สองคำคือการบังคับโทษและบริหารโทษ ท่านอยู่ในกระบวนการนี้ ไม่ใช่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ทุกคนเห็นต่างได้ แต่อยากให้ไปดูข้อกฎหมาย นี่คือขั้นตอนที่นายทักษิณอยู่ ดังนั้น เรื่องการพักโทษก็ดี หรือที่มีข่าวว่ามีการออกระเบียบราชทัณฑ์เพื่อให้คุมขังอยู่ด้านนอกเรือนจำ มันเกิดไม่ได้ มันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครกล้ากระทำผิดกฏหมาย แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าขั้นตอนนี้คืออะไรเราก็จะพูดกันไปเรื่อยและหาจุดจบ อันนั้นเรียกว่ามีวาระซ่อนเร้น

“การบังคับโทษหรือการบริหารโทษ เป็นการดำเนินงานโดยคณะบุคคล ไม่มีคนหนึ่งคนใดทำได้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ทำไม่ได้ อยากให้รับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมได้เข้าใจ และได้คิดวิเคราะห์ ว่าเราจะเป็นตัวทำให้สังคมแตกแยกหรือไม่ ยืนยันว่าท่านทักษิณยังยึดมั่นในหลักนิติรัฐและนิติธรรม และท่านได้เข้าสู่กระบวนการการรับโทษ และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพักโทษและการบริหารโทษก็ต้องดูให้เหมาะสมกับฐานะ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และสุขภาพของท่าน” นายพิชิต กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าหากออกมาแล้วจะไม่ถูกอายัดหรือถูกควบคุมตัว นายพิชิตเอามือตบอก พร้อมระบุว่า มั่นใจว่าทำถูกต้องทุกอย่างล้านเปอร์เซ็นต์ และได้รับโทษ 1 ใน 3 ครบกำหนดเรียบร้อย เมื่อถามว่าจะได้ออกมาในเดือน ก.พ.นี้แน่นอนใช่หรือไม่นายพิชิต ยิ้มแต่ไม่ตอบคำถาม.-317.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ

นายกฯ ขันนอตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ขันน็อตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ ตั้งคำถามเบิกงบฯ แก้น้ำท่วมตั้งแต่ปี 63 สร้างคืบแค่ 5% บอกน้อยมาก พร้อมแจ้ง ครม.รับทราบแผนถก JCR ไทย-กัมพูชา ก.ค.นี้ หวังสางปมคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด เล็งจับมืออาเซียนดึงจุดแข็งแต่ละประเทศ เจรจากำแพงภาษีสหรัฐ

เรียกสอบวิศวกรตึกถล่ม

เริ่มแล้ว! ดีเอสไอ เรียกสอบชุดแรก 10 วิศวกร ตัวแทนอิตาเลียนไทย

เริ่มแล้ว! พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เรียก 10 วิศวกร และตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เข้าให้ปากคำชุดแรก คดีตึก สตง.หลังใหม่ถล่ม

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]