ระนอง 22 ม.ค.-“ชาดา” ลงพื้นที่ก่อนประชุมครม.สัญจร ตามความคืบหน้า โครงการนำร่อง “ชุมชนยั่งยืนบ้านเกาะสินไห” เอกซเรย์พื้นที่นำผู้เสพยาเข้ารับการบำบัด ผลน่าพอใจ ชี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน คืนคนดีสู่สังคม
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานคณะที่ปรึกษาของรมช.มหาดไทย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย และคณะตรวจความคืบหน้าโครงการนำร่องชุมชนยั่งยืนบ้านเกาะสินไห อ.เมือง จ.ระนองตามนโยบายรัฐบาล มุ่งแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเป็นโมเดลการแก้ปัญหายาเสพติดที่นายชาดามอบนโยบายไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชุมชนยั่งยืน เอ็กซเรย์หาตัวผู้เสพ เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัด
สำหรับโครงการชุมชนยั่งยืน บ้านเกาะสินไห จากผลการดำเนินการค้นหาผู้เสพ X-ray จากกลุ่มเป้าหมาย พบสารเสพติดและสมัครใจเข้ารับการบำบัด จำนวน 87 คน ซึ่งผลการบำบัดรักษาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาทางการแพทย์ ผ่านศูนย์คัดกรอง เพื่อจัดระดับความรุนแรง แบ่งแยกประเภท เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ผลการประเมินอยู่ในกลุ่มดีทั้งหมด ผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา ไม่มีกลุ่มต้องปรับปรุงและผู้ป่วยจิตเวช
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวยังมอบป้ายครัวเรือนสีขาว จำนวน 269 ครัวเรือน และมอบบัตรพลเมืองสีขาว จำนวน 695 คน สะท้อนว่าคนในชุมชนให้ความร่วมมือดีมากในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ก่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไขและการบำบัดยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เกิดการสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ที่สอดคล้องกับหลักศาสนา วิถีชีวิต ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
นายชาดา กล่าวว่า โครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นนโยบายที่รัฐบาลหวังป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศให้หมดสิ้นไปทุกมิติ โดยมีเป้าหมายชัดเจน คือลดการใช้ยาเสพติดในสังคมระดับชุมชน โดยประยุกต์ใช้มาตรการจัดการกับปัญหายาเสพติด ถือประโยชน์และความเป็นไปได้ของชุมชนเป็นหลัก และความร่วมมือของส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย ที่สำคัญคือประชาชนในหมู่บ้าน / ชุมชนต้องช่วยกัน ให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติด
“สถานการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน ในประเทศไทยยังเป็นปัญหาที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหา ยาเสพติดยังเป็นความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสังคม และส่งเสริมการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ทำให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงในชุมชน การลักลอบการกระทำความผิดกฎหมาย เกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งที่เป็นผู้ค้า ผู้จำหน่าย ผู้เสพ ซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายชาดา กล่าวว่า การใช้ยาเสพติด มีความหลากหลายของช่วงอายุ ทำให้สังคมทุกระดับต้องร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาด้วยการแยกน้ำ แยกปลาระหว่างผู้ค้าและผู้เสพ ต้องพิจารณาตามหลักการ เจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด และนโยบายของรัฐบาล โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน ในสังคม รวมถึงการสนับสนุนผู้ใช้ยาเสพติดให้เข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา การฟื้นฟูสภาพทางสังคม การสร้างทักษะ สร้างอาชีพหลัก อาชีพเสริม ที่ช่วยให้ผู้ใช้ยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดรักษามีอาชีพ สามารถทำงานได้ มีรายได้สุจริตมากขึ้น มีโอกาสทางสังคมที่ดีขึ้น ฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ครอบครัวและสังคม.-317.-สำนักข่าวไทย