ชมเชียงใหม่แก้ปัญหา PM 2.5 ได้ดี  

จ. เชียงใหม่ 11 ม.ค.-นายกฯ พอใจทุกภาคส่วนบูรณาการแก้ปัญหา PM.2.5หนุนพัฒนารถไฟฟ้า เปลี่ยนรถแดงเป็นรถอีวี ยกระดับคมนาคม ท่องเที่ยว แก้จราจรแออัด ขอปชช.ช่วยอีกทางแก้ปัญหาระยะยาว แนะจังหวัดอื่นนำไปเป็นโมเดล


 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงระบบขนส่งและการเดินทางในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความห่วงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนภาคเหนือหลายจังหวัด ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาและวิธีป้องกันที่ถูกต้อง ซึ่งจากการมาตรวจราชการเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขปัญหาและคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอเน้นให้ทุกฝ่ายทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือโดยยึดหลักแนวทางนี้


“สถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำงานเต็มที่ จริงจัง ขอให้ท่านแบ่งหน้าที่ เอ็กซเรย์พื้นที่ความรับผิดชอบของท่านว่ายังมีปัญหาใดที่จะต้องแก้ไขเร่งด่วน และรายงานให้มทราบทุกวัน ถ้าไม่ดีกว่าเดิมต้องแจ้งให้ผมทราบว่ามีอุปสรรคอะไร รัฐบาลมีความประสงค์ที่อยากจะคืนอากาศบริสุทธิ์แก่ประชาชนภาคเหนือให้ได้โดยเร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกไฟป่าต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ต้องมีข้อมูลชัดเจน แม่นยำให้การแก้ไขเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การดูแลสุขภาพประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้จังหวัดและหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ สุขภาพอนามัยของเด็ก ผู้สูงอายุ รณรงค์ใส่หน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ จัดพื้นที่ศูนย์พักพิงของ เข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพและราคาเข้าถึงได้ สร้างจิตสำนึกประชาชนตื่นตัว รับรู้ข่าวสารภัยของ PM2.5 พร้อมขอประชาชนดูแลพื้นที่ป่า ลดการเผา เพราะปัญหานี้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไข เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาระยะยาว ต้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างอากาศบริสุทธิ์

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการคมนาคมต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จากที่ลงพื้นที่ พูดคุยกับส่วนราชการ รู้สึกดีเมื่อเทียบตัวเลขปีที่แล้ว ปัญหา PM 2.5 ลดลงหลายเท่าตัว การแสดงแผนที่ Red Zone อย่างมีนัยพิสูจน์ทราบได้ว่าตัวเลขลดลง ส่งผลต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ดอยอินทนนท์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 13,000 คน เป็น 17,000 คนต่อวัน แสดงให้เห็นว่า PM 2.5 น้อยลง ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันบูรณาการ วันนี้เราจะคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการคมนาคม หลายเรื่องยึดโยงถึง PM 2.5 ด้วย ไม่ใช่แค่การเผาป่าอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่เรา ใช้เรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบคมนาคมที่กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญ และจัดสรรงบประมาณลำดับความสำคัญต้น ๆ


“ขอให้ช่วยกัน การทำงาน 2 เดือนที่ผ่านมาต้องกราบพระคุณทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่ทำงานประสานงานกันอย่างดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจและช่วยกันประสานทุกฝ่าย เหมาะสำหรับการเป็นแม่แบบไปใช้ในจังหวัดต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันอย่างดีเยี่ยม ระหว่างฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สาธารณสุข เกษตร คมนาคม คือเป็นแม่แบบที่ดีมาก ต้องขอชื่นชม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอของจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการแก้ไขปัญหาจราจรและการคมนาคมติดขัด โดยเฉพาะบริเวณหน้ากองบิน 41 และถนนนิมมานเหมินทร์ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังกลับจากเชียงใหม่จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บัญชาการทหารอากาศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเรื่องการแก้ไขปัญหานี้ ส่วนข้อเสนอการทำรถไฟฟ้าเชื่อมต่อเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและลดใช้รถยนต์เพื่ออากาศสะอาด ลดความแออัดในเมืองเป็นสิ่งดี เห็นด้วยว่าควรสร้างรถไฟฟ้าส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวระดับต้น แต่ยังไม่มีระบบรถไฟฟ้า จึงน่าจะนำมาพิจารณาเพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจหลักของประเทศ และระหว่างก่อสร้าง ไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาจราจร เพราะจะดำเนินการเมื่อเส้นวงแหวนการจราจรข้างต้นเสร็จก่อน

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่ช่วยกันคิดเรื่องการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะทำให้ความมั่นใจดีขึ้น ส่วนเรื่องการพัฒนารถแดงไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรถแดงเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเชียงใหม่ เป็นเสน่ห์การท่องเที่ยว ซึ่งต้องให้ความสำคัญต่ออากาศสะอาดด้วย หากผู้ต้องการทำรถแดง EV และต้องการการสนับสนุนดอกเบี้ยต่ำ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกันให้เป็นรูปธรรม ขอให้เป็นวาระสำคัญ โดยเฉพาะธนาคารที่อยากมีส่วนช่วยเหลือสังคม

“ผมเชื่อว่าถ้าพี่น้องชาวเชียงใหม่และภาคเหนือได้มานั่งฟังการพัฒนาระบบคมนาคม น่าจะมีขวัญกำลังใจขึ้นอีกเยอะ เพราะการทำงานบูรณาการของทุกภาคส่วนเป็นการทำงานที่ครบวงจรและการประสานงานที่ดี อยากเห็นผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดผนึกกำลังอย่างที่ผู้ว่าฯ ทำ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี วันนี้ผู้ว่าการท่องเที่ยวฯ ก็มา ช่วยทำให้มั่นใจสูงแน่นอน เพราะไม่ใช่แค่แผนปฏิบัติการเร่งรัดอย่างเดียว แต่เรามีแผนการทำงานชัดเจน และอาจจะมีแผนเพิ่ม 4-5 เท่า สอดคล้องกับเรื่องฟรีวีซ่าที่รัฐบาลทำ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาผู้ว่าฯททท.มาคุยเรื่องเที่ยวบินอินเดียเข้ามาไทยน้อย ซึ่งจากที่พบกับเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศ ไทย จะทำเอ็มโอยูเพื่อให้สายการบินเข้ามาเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวที่บินเข้ามาคือนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย รองลงมาคือจีนและประเทศที่ทำให้แปลกใจคือเกาหลี เพราะจากที่ตนมาเชียงใหม่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาเจอแต่นักท่องเที่ยวเกาหลี อาจเพราะเชียงใหม่มีสนามกอล์ฟหลายแห่งจึงทำให้นักท่องเที่ยวเกาหลีมาเชียงใหม่มาก

“ปัญหาใหญ่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาคือปัญหา PM  2.5 ซึ่งเราบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม รถต้องไม่ติด รัฐบาลตอบโจทย์ระยะใกล้ ระยะกลางและระยะยาวอย่างบูรณาการแล้ว การรักษาเรื่องดี ๆ ของเชียงใหม่ไว้  อาทิ รถสองแถวแดงที่เป็นไฮไลท์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ เราพยายามจะเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้า เชื่อว่าทุกอย่างคิดกันมาดีมาก ทำให้การทำงานเชื่อมต่อระหว่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น และพรรคการเมือง ทำให้เชียงใหม่มีศักยภาพที่โดดเด่น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลนี้มาเพียง 4 เดือน แต่เห็นการทำงานของทีมไทยแลนด์ชัดเจน ทุกคนทุ่มเทเต็มที่ คนที่ทำงานปิดทองหลังพระอย่างฝ่ายความมั่นคง กองทัพทำงานป้องกันไฟป่า แม้เป็นจุดเล็ก ๆ แต่ไม่ควรมองข้าม จึงขอให้รักษาตรงนี้ไว้และดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องงบบูรณาการ ให้ข้อคิดตามหลักการทำงาน ถ้าปี 67 มีผลชัดเจนเชื่อว่าเรื่องงบเป็นเรื่องที่พูดคุยได้ เพียงแต่ต้องมีเหตุผลชัดเจน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 สิ่งสำคัญคือลดจุดความร้อน หรือฮอตสปอต การทำแนวกันไฟที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สร้างความเข้าใจประชาชนลดการเผาวัชพืชเป็นปุ๋ยเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน ขณะเดียวกันปลูกป่าความชุ่มชื้น เชื่อว่าจุดความร้อนและค่า PM2.5 จะลดลง วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี พ.ร.บ.อากาศสะอาดเข้าสภาฯ แล้ว

“ขอร้องทางกองทัพภาคที่ 3 ช่วยจัดอากาศยานเพิ่ม มาช่วยปฎิบัติการดับไฟป่า ซึ่งจะช่วยเรื่องปัญหาฝุ่นด้วย โดยจะประสานกองทัพอากาศขออากาศยานมาช่วยขน วัชพืชส่งไปโรงงานต่าง ๆ ลดปัญหาการขนส่งอีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องงบประมาณ รับทราบที่ทุกหน่วยงานขอมา ไม่ต้องห่วง ขอให้ดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างเต็มที่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาค 3 กล่าวว่า ยินดีและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยจะประสานไปยังส่วนกลาง 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมรถไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งดัดแปลงมาจากรถดีเซล ผลงานของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และขึ้นรถแดง ทะเบียน 30-6198 เชียงใหม่ไปบริเวณจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกองบิน 41  ติดตามความพร้อมปฎิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงชมการสาธิตวิธีปล่อยฝนหลวงด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย