ยอมรับแก้ปัญหาฝุ่นให้หมด ทำยาก ชี้ ปชช. ควรมีอากาศบริสุทธิ์

เชียงใหม่ 29 พ.ย. – นายกฯ ยอมรับแก้ปัญหาฝุ่นให้หมด ทำยาก แต่ยืนยัน รัฐบาลให้ความสำคัญ ระบุอากาศบริสุทธิ์เป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนควรได้ หมายหัวเอกชนลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเป็นต้นตอปัญหา อาจถูกมาตรการทางภาษี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดใหญ่ โดยมีภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาควิชาการ สภาลมหายใจเชียงใหม่ และกองทุน we love chiangmai ประชุมหารือประเด็นแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5

โดยมีการรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาฝุ่นควันมีปัจจัยสำคัญที่เกิดจากปัญหาการจราจรและการเผาในพื้นที่โล่งอันเกี่ยวเนื่องกับเกษตร รวมถึงฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่า ช่วงธันวาคม ถึงมีนาคมอากาศเริ่มปิดและเริ่มมีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะการเผาวัสดุการเกษตรทำให้ค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มส่งผลกระทบต่อประชาชนขณะช่วงมีนาคมถึงเมษายน มีการเผา ในป่าอนุรักษ์และป่าสงวนปริมาณมาก ทำให้ฝุ่น PM 2.5 บางครั้งขึ้นไปถึง 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงดังกล่าวมีปัญหาหมอกควันข้ามแดนเข้ามาจากทั้งประเทศลาวและเมียนมา ทำให้ค่าฝุ่นในกลางวันขึ้นไปถึง 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร


ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีการกำหนดมาตรการเร่งด่วน 6 มาตรการ อาทิ ระบบการบริหารการเผา ,การสร้างมาตรฐานการทำการเกษตรแบบไม่เผา , มาตรการไม่รับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ ,การพิจารณาสิทธิประโยชน์และแรงจูงใจในการแก้ไขเพื่อให้ใช้เอกชนร่วมแก้ไขปัญหา เป็นต้น รวมไปถึงการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมาตราฐาน ยูโรไฟว์ เป็นต้น

โดยหลังจากที่นายเศรษฐา ได้รับฟังรายงานเสร็จสิ้น ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาประชุมวันนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดูได้จากแววตาคนที่มานำเสนอวันนี้ เป็นคนที่มีความจริงใจรับทราบถึงปัญหาอย่างถ่องแท้ และอยากให้ปัญหาลดน้อยลงไป ตนใช้คำพูดอย่างระมัดระวังว่า “น้อยลงไป” เพราะหากพูดว่า “หมดไป” คงลำบาก เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่า จากที่ฟังการรายงานมาทั้งหมด ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรก เริ่มจากปัญหารถยนต์ที่มีปัญหาท่อไอเสีย ที่เป็นองค์ประกอบอันหนึ่งแต่ไม่ได้ใหญ่มากและเชื่อว่าโลกเปลี่ยนไปเยอะการใช้รถยนต์ที่มีสันดาปหรือ ฝุ่นควันก็ลดน้อยลงไปแล้ว และมีการใช้รถอีวีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีตัวเลขที่สูงขึ้น มากกว่า 5% ขึ้นไป

“เมื่อคืนมาถึงเชียงใหม่มาร่วมงานลอยกระทง ก็ได้เชิญผู้บริหารของบริษัทเทสล่า ซึ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกให้มาที่นี่ เพื่อผลิตและส่งออกตรงนี้ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีว่าประเทศเราให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ในอนาคตไม่แน่ใจจะใกล้หรือไกลขนาดไหน แต่คิดว่าไม่เกิน 10 ปี การใช้รถอีวีก็จะสามารถทำให้ PM 2.5 ที่เกิดจากรถยนต์ลดน้อยลงไปอย่างมีนัยยะ” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สองค่อนข้างที่จะใกล้ชิดก็คือเรื่องการเผาป่ากับเรื่องการเผาซากผลิตภัณฑ์เกษตร ซึ่งเราให้ความสำคัญมาก แต่ต้องกลับไปพูดถึงบ่อเกิดก่อนว่าเกิดจากอะไร  ถ้าเกิดว่าซากข้าวโพดหรือซังข้าวโพดทั้งหลายมีคนมารับซื้อออกไป ชาวบ้านก็ไม่ต้องใช้ไม้ขีดก้านเดียวแล้วเผา

“ตนเชื่อว่าไม่มีใครอยากทำ ทุกคนตระหนักดีถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่เพราะค่าใช้จ่ายที่สูงในการที่จะบริหารจัดการซากพืชผล เป็นอะไรที่เป็นปัญหาใหญ่ และปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง เรื่องงบประมาณ เรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีเกิดขึ้นมาในอนาคต”นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายคนที่ได้นำเสนอมาก็มีหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซอฟต์โลน รวมถึงข้อเสนอในหลายๆ โครงการก็ต้องรับไปแก้ปัญหา แต่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนที่สุดแล้ว ตนก็พูดกลับไปกลับมา คือเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาใหญ่

“ถ้าเขามีรายได้ที่ดี ราคาพืชผลราคาแพง มีตลาดส่งออกทำให้มีรายได้ที่สูงขึ้น แม้ต้นทุนในการที่จะบริหารจัดการต้องเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเขาก็ยินดี แต่ตราบใดที่ตลาดปิด ราคาพืชผลไม่ดีขึ้น ถ้าต้องเพิ่มงบประมาณในการจัดการต่อข้าว ซังข้าวโพด ก็เป็นภาระอันใหญ่หลวง ซึ่งเขาก็ไม่อยากทำ ดังนั้นเราคงต้องทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาชน ฝ่ายความมั่นคง พร้อมขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ได้มีการเสนอหลายมาตรการ เพราะปัจจุบันนี้เรื่องของความมั่นคงก็ยังมีความสำคัญอยู่ แต่เรามีกำลังพลเหลือ เรามียุทโธปกรณ์เหลือ ของเหล่านี้ก็มาช่วยในแง่ของที่ลดปัญหาเรื่องไฟป่ามาทำงานร่วมกับภาคประชาชน ดูแลทุกข์สุขของเขาให้ดีขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนกรณี NGO เสนอเรื่องการใช้งบประมาณทำงาน ยืนยันว่ารัฐบาลอยากทำงานใกล้ชิดกับภาคประชาชนอยู่แล้ว เป็นนโยบายใหญ่ของรัฐบาลนี้ แต่อยากให้ภาคเอกชนทำงานกับราชการ ฝ่ายความมั่นคงดูก่อนว่า มียุทโธปกรณ์เพียงพอที่จะสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่

“ปัจจุบันเรามีมือถือทุกคน เวลาเดินทางไปไหนก็เช็คสภาพอากาศ ผมจำได้ว่าเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ผมเช็กค่าฝุ่น Top 10 ของโลก พบว่า 5 ที่อยู่ที่ภาคเหนือของไทย ตรงนี้ท่านไม่ต้องมาบอกหรอกว่า ทำไมถึงการท่องเที่ยวไม่ดีอย่างที่ควร ผมคิดว่าในที่นี้ตระหนักดีอยู่แล้ว รัฐบาลก็หนักดีอยู่แล้ว เราใช้นโยบายเป็นตัวกระตุ้นในการท่องเที่ยว ผู้ว่าฯเองก็ได้ช่วยเหลือ ให้สนามบินเปิดได้ 24 ชั่วโมง รัฐบาลก็ออกวีซ่าฟรีให้กับคนจีน อินเดีย ไต้หวัน คาซัคสถาน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักในการที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ถ้าเขาไปกรุงเทพฯ ภูเก็ต อากาศก็ดีกว่าเชียงใหม่ เราอยากให้มาเชียงใหม่ด้วย อยากให้มาเมืองรอง เมืองที่มีวัฒนธรรมหลากหลายมาใช้เวลาที่ยาวกว่าอยู่ในประเทศไทย การที่ไม่ได้มาเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมเพราะอากาศไม่สะอาด” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การประชุมเช่นนี้ในปีก่อนๆ ไม่เคยมารวมตัวกันมากถึงขนาดนี้ มีทั้งทาง NGO มีภาพเอกชน กอ.รมน. มีรัฐบาล ตัวแทนประชาชนและสส. รวมถึงหลายภาคส่วน ซึ่งทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากถึงขนาดนี้ ตนจึงมั่นใจว่าเรื่องเหล่านี้ต้องดีขึ้น มีการพูดคุยอย่างชัดเจน ส่วนที่มีการเสนอให้มี 11 ป่าอนุรักษ์ เราก็ทำให้ทันที รองนายกรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จริงๆ มีข้อมูลที่เป็นเรื่องดีๆ เยอะมาก  เราเองก็อยากนำข้อมูลไปพูดคุยและหาทางออกที่ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากการบริหารจัดการภายในแล้วยังมีปัญหาเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราบริหารจัดการเองได้ แต่เรื่องทิศทางลมจากเพื่อนบ้าน 2 ประเทศ ทั้งลาวและเมียนมา ก็เป็นเรื่องที่ต้องเจรจาและพัฒนาไปด้วยกัน ซึ่งในส่วนของลาวเป็นการพูดคุยเจรจาทวิภาคี โดยปัญหาอากาศเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็ต้องเห็นใจเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจไม่ดีเท่าเรา ปัญหาด้านเกษตรเรื่องการจัดเก็บ การทำลายซากพืชผลก็ไม่ดีเท่าเรา

“อีกส่วนที่สำคัญคือภาคเอกชน หรือคนที่ไปรับซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านมา จะสนใจแต่ราคาแค่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องดูด้วยว่าพืชผลที่รับซื้อมาถูกจัดการไปถูกต้องตามหลักที่พูดคุยกันได้หรือไม่ ถ้าหากพูดจากันแล้วไม่ทำตาม มาตรการภาษีก็ต้องมีใหม่ ถ้าไปซื้อของจากประเทศที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องอากาศบริสุทธิ์ เรามี พ.ร.บ.อากาศสะอาด แล้วเพื่อนบ้านเราไม่ทำให้ หรือนายทุนจากบ้านเรา ไปทำมาหากินในประเทศเขาและไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รัฐบาลนี้ก็ยอมรับไม่ได้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับเรื่องอากาศสะอาด และการแก้ปัญหาฝุ่นควัน จริงๆแล้วสิทธิพื้นฐานของมนุษยชนเราเรียกร้องกันหลายเรื่อง แต่เรื่องพื้นฐานที่สุดและควรที่ประชาชนจะได้ คืออากาศสะอาด ซึ่งเป็นของฟรี ถ้าเกิดรัฐบาลไม่ให้ความสนใจ ไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ผมว่าเรามีปัญหา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้ทุกท่านตระหนักดีและเข้าใจ ว่ารัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆ” นายเศรษฐา กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]

“สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]