ทำเนียบรัฐบาล 15 พ.ย. –“ภูมิธรรม” เผยแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญยังหลากหลาย แต่ภาพรวมทิศทางดี แม้เห็นต่าง เตรียมลงพื้นที่รับฟังความเห็นปชช.ทั่วปท.
ภายหลังการการรับฟังความเห็นของประชาชนถึงแนวทางการทำประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กว่า 2 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ว่า หลังจากนี้จะจัดทำเอกสารรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 500 คน และไปพบกับนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา โดยจะนำแบบสอบถามจำนวน 250 ฉบับไปพูดคุย ซึ่งสองส่วนนี้จะมีความชัดเจนเมื่อเปิดประชุมสภาฯ เพื่อจะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอต่าง ๆ หารือในรัฐสภาต่อไป
“ทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้น ยอมรับว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวันนี้ ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งบรรยากาศในวันนี้ก็เป็นไปในทางที่ดี คณะกรรมการได้เปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยความเห็นหลักใหญ่ที่ประเมินในชั้นต้นคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ส่วนหนึ่งมองว่าให้แก้ไขทั้งฉบับ อีกส่วนคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ว่ายกเว้นหมวดหมวดที่หนึ่งและหมวดที่สอง อีกส่วนคิดว่าเรื่องนี้สะเทือนพระราชาอำนาจ หากนำเรื่องนี้มาพูด เกรงว่าจะมีความเห็นแตกต่างกัน และอาจทำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งจะพูดคุยกันต่อไป แต่ตอนนี้ยืนยันหลักการของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามประชาธิปไตยมากขึ้น โดยที่ไม่สะเทือนพระราชอำนาจ และรับฟังทุกความคิดเห็นต่าง” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม พูดถึงเรื่องการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ว่า หากดำเนินการเช่นนั้นกลุ่มพวกคนพิการหรือบางคนที่ไม่มีโอกาสได้มาเลือกตั้ง จึงอยากเห็นเวทีที่ให้กลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมและมีส่วนในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้อเสนอให้คณะกรรมการไปพิจารณาพิจารณาว่าจะเลือกตั้งบางส่วนหรือเลือกตั้งแบบคัดสรร นอกจากนี้ยังพูดถึงคำถามที่หลายฝ่ายไม่สบายใจ แต่ในฐานะเราเป็นฝ่ายปฏิบัติ จะยึดตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ซึ่งอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของพี่น้องประชาชน แสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นจะต้องมีกระบวนการให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นตั้งคำถาม ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ
“ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 60 เป็นอุปสรรคการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับรัฐบาลพยายามที่จะแก้ให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด หลังจากนี้จะไปพบประชาชนทุกภาค วันที่ 20 พ.ย.จะไปภาคอีสาน เพื่อรับฟังประชาชนในภาคเกษตรกร 23 พ.ย.ไปภาคตะวันออก สอบถามกลุ่มอุตสาหกรรม 28 พ.ย.จะไป จ.เชียงใหม่ สอบถามความเห็นกลุ่มชาติพันธ์ และ 7 ธ.ค.จะไป จ.สงขลา ไปหารือรับฟังความเห็นจากกลุ่มมุสลิม คาดว่าทั้งหมดจะจบภายในวันที่ 7 ธ.ค.นี้” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ภายในเดือนธันวาคม กระบวนการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจะได้รับข้อยุติ เพราะฉะนั้นไตรมาสแรก หรือต้นเดือนปีหน้า จะพยายามทำให้จบในเดือนมกราคม ซึ่งจะเป็นการประมวลสรุป และหาข้อยุติเร็วที่สุดจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณา ในเดือนมกราคม ส่วนการลงประชามติกี่ครั้ง ยังเป็นประเด็นอยู่ โดยเชิญกกต.มาพูดคุยกัน 2 ครั้งแล้ว ซึ่งยังกังวลเรื่องข้อกฎหมาย และหากต้องทำประชามติหลายครั้งต้องใช้งบประมาณ 3-4 พันล้านบาท จะเสียหายตรงนี้ไปมาก จะมาหารือกันในส่วนที่สามารถทำคำถามร่วมหรือคำถามพ่วง เพื่อประหยัดงบประมาณให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย