“ศิริกัญญา” ชี้ออกพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อหาทางลง

พรรคก้าวไกล 13 พ.ย.-“ศิริกัญญา” ย้อนถามรัฐบาลรู้ทั้งรู้ว่าออกพ.ร.บ.เงินกู้ผิดกม. เหตุใดจึงเดินหน้า ชี้คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากหาทางลง จี้กางตัวเลขวิกฤติถึงขั้นต้องกระตุ้นโดยกู้เงิน 5 แสนล้าน


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล  รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าน.ส.ศิริกัญญาเคยเห็นด้วยกับโครงการดิจิตทัลวอลเล็ตว่า วันนี้โครงการดิจิตทัล วอลเล็ตถูกเบี่ยงเบนรายละเอียดมาไกลมาก จากที่ใช้เงินในงบประมาณกลายเป็นการออกพ.ร.บ.กู้เงิน จากที่เคยให้ถ้วนหน้าก็จำกัดคนที่มีรายได้สูง การบอกว่าเห็นด้วย เป็นการตีความที่เกินเลย ยอมรับว่าเคยพูดคุยกันจริงในฐานะที่เป็นพรรคที่จะร่วมรัฐบาลกันว่าโครงการไหนที่อยากจะทำก็หยิบมาวางไว้บนโต๊ะ และได้พูดคุยกันว่าดิจิตทัล วอลเล็ตจะทำหรือไม่ ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่เงินไม่พอ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า วันนั้นกางตัวเลขงบประมาณให้ดูกันชัด ๆ ว่าเหลือเท่าไหร่ แบ่งกันแล้วเหลือให้แต่ละพรรคทำโครงการพรรคละ 4-5 แสนล้านบาท จะทำทั้งก้อนจึงเป็นไปไม่ได้ ก็คุยตรงไปตรงมา จึงขอร้องว่าอย่าบิดประเด็น อย่าเบี่ยงประเด็นไปไกลกว่านี้ คำถามสั้น ๆ และตรงไปตรงคือเมื่อออกพ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาทในครั้งนี้มีท่าว่าจะผิดกฎหมายของมาตรา 53 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทางเพื่อไทยและรัฐบาลทำไมถึงคิดจะเดินหน้าทำต่อ มีเหตุผลอะไรซึ่งทุกวันนี้ยังไม่ได้รับเหตุผลใดๆกลับคืนมา เป็นแค่การขุดอดีตเพื่อสร้างความชอบธรรมบางอย่าง ว่าตนเคยเห็นด้วย ซึ่งอยากให้ไล่เรียงมา ก็ไม่เคยซักค้าน เพียงแต่ถามถึงแหล่งที่มาเท่านั้นเองดังนั้นขอให้รัฐบาลช่วยตอบให้ตรงประเด็น


“สรุปแล้วจะไม่ผิดกฎหมายได้อย่างไร ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ชุดใหญ่บอกหรือไม่ ว่าไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องง่ายๆหากเปิดเผยรายงานการประชุมในชั้นอนุกรรมการและกรรมการชุดใหญ่มาว่าถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรก็จบสิ้นแล้ว ดิฉันกลายเป็นคนหน้าแตกไปแล้ว แต่จนขนาดนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ และวันนี้อ้างผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เสนอให้ออกเงินกู้ด้วยก็ต้องดูรายงานของคณะกรรมการชุดใหญ่และต้องดูมติด้วยว่าลงคะแนนเสียงกันอย่างไรถึงให้ออกพ.ร.บเงินกู้ ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น่าจะเสนอแนวนี้เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาก็ออกมาคัดค้านโดยตลอด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การจะออกพ.ร.บ.กู้เงินได้ ต้องถูกตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สาธารณะมีอีกหลายฉบับที่ต้องพิจารณาด้วย ดังนั้นเราคาดหวังว่าวันที่รัฐบาลประกาศแถลงต่อประชาชนว่าจะออกร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้าน ได้ปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกามาเรียบร้อยแล้วและทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการนี้โดยที่ไม่ผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่ได้มีช่องให้นักร้องไปร้องอะไรได้ และไม่มีโอกาสถูกตีตกในภายหลัง แต่ถ้าไม่ผ่านกระบวนการนั้นเลย แล้วอยู่ดีๆก็พูดออกมาว่าไม่แน่ใจว่ามีมติในที่ประชุมคณะกรรมการใหญ่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีการเปิดเผยและพูดออกมาแบบนี้เหมือนเดิมคือ พูดแล้วก็ต้องมากลับคำพูดอีกรอบ ก็คิดว่าเสียความเชื่อมั่นของประชาชน จากเดิมประชาชนที่เฝ้ารอการช่วยเหลือ วันหลังก็จะไม่เชื่อแล้ว

สำหรับกรณีที่เริ่มมีการไปร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้แต่ดักคอเอาไว้ ไม่อยากให้มาถึงวันนี้และความจริง “นักร้อง” ไม่ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลเลย ถ้ารัฐบาลมีความละเอียด รอบคอบ ถี่ถ้วนในการที่จะดำเนินนโยบาย และพอไปสู่ช่องตรงนั้นก็ต้องดีเลย์ไปขนาดไหน หากศาลรัฐธรรมนูญเกิดรับฟ้องขึ้นมาด้วย โดยที่อดคิดไม่ได้ว่า โดยการเมืองจะไม่มีใครเลยสักคนท้วงติงรัฐบาลในเรื่องนี้ว่ากำลังทำผิดกฎหมายอยู่ ถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำโดยที่ไม่มีการท้วงติง คิดว่าข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องก็มีความผิด


ส่วนหากกฎหมายนี้ผ่านสภาฯ ไปได้ พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในส่วนของก้าวไกลคงต้องยอมรับความจริง ถ้าสุดท้ายร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯ ไปได้ทั้ง 3 วาระและได้ดำเนินโครงการนี้จริงขั้นตอนต่อไปก็เป็นปัญหาเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 การใช้คืนหนี้สูงมาก เงินต้นเดิมเงินต้นใหม่เท่ากับภาษีที่รัฐบาลเก็บมาได้ 20% ก็จะกลายมาเป็นเงินต้องใช้หนี้ทำให้งบของปี 68 คงจะจัดอย่างยากลำบาก เพราะรายได้ใหม่จากภาษีที่ได้จากงบปี67 และ 2568 ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งในงบประมาณปี 68 ก็เห็นว่าจะต้องเสียเงิน ปีแรกแสนกว่าล้านบาทบวกดอกเบี้ยอีกหมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งทำให้การใช้เงินสูงมาก

ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้เหตุผลว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.วินัยทางการคลังสามารถทำได้เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนและแก้วิกฤตของประเทศ ซึ่งต้องตีความเพราะที่ผ่านมายังไม่เคยถกเถียงกันว่าความจำเป็นเร่งด่วนเป็นอย่างไร และที่ผ่านมาเห็นว่านายกรัฐมนตรีแถลง GDP ย้อน 10 ปี ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาระยะยาว ไม่สามารถแก้ในระยะสั้นได้ ก็ต้องฟังว่ารัฐบาลมีภาระเร่งด่วนอย่างไรรอ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ

เมื่อถามว่าหากเทียบกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตก น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่การกู้เงินในระดับนี้ มีปัญหาแน่ ๆ แม้ว่าหนี้สาธารณะ ต่อ GDP ยังไม่ถึงขั้นที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลชุดที่แล้วเคยขยายเพดานไว้ แต่ที่จะไม่รอดแน่ ๆ คือภาระดอกเบี้ยต่องบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แม้จะไม่อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังต้องคงไว้ ไม่เกิน 10% เพราะสถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ที่จะจัดอันดับ เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจง ย้ำงบประมาณ ปีแรกจะต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งเกิน 10% ของงบประมาณแผ่นดินและถ้าสุดท้ายพ.ร.บ. นี้ ผ่านสภาและบังคับใช้ได้จริงและดิจิตอล วอลเล็ตเกิดขึ้นจริง

“ที่รัฐบาลพยายามบอกว่าประเทศกำลังมีวิกฤตนั้นเห็นว่า เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในระยะยาว เป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในการแก้ไขปัญหาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้เลย กรณีนี้ไม่ใช่การช็อคขึ้นมา ในเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างเช่นโควิด แต่นโยบายนี้ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ มีนาคม เมษายนปีนี้จะถูกนำไปใช้จริงปีหน้า สรุปแล้ววิกฤตเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่แล้วเร่งด่วนถึงขั้นที่เราได้ 1 ปีเร่งด่วนหรือไม่ดังนั้นการเลือกใช้โดยการออกร่างพ.ร.บยิ่งต้องใช้เวลาในสภา จึงถามว่าความจำเป็นเร่งด่วนอยู่ตรงไหน และขออย่าปล่อยให้รัฐบาลบิดเบือน” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ส่วนที่มองว่า GDP ไม่โตตามเป้า น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องดูว่าGdpโตได้ตามศักยภาพที่ไปได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า แม้ Gdp เราโตช้าแต่ เราไม่สามารถกระตุ้นได้ด้วยการ กระตุ้นเศรษฐกิจใน ระยะสั้นเลยควรต้องระบุ ในทางพื้นที่หรือไม่ว่าพื้นที่ไหนควรจะต้องใช้วิธีการกระตุ้นเป็นกรณีพิเศษ อย่างฮ่องกงปี 65 เศรษฐกิจของฮ่องกงปี 65 ยังโตติดลบอยู่จึงต้องมีการแจกเงิน ซึ่งก็เหมือนของเราตอนโควิดและแจกเงินเยียวยาประชาชน แต่วันนี้เศรษฐกิจโตขึ้น ยังไม่ใช่เวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ดังนั้นยังรอคำตอบเพราะรัฐบาลไม่เคยนำตัวเลขออกมาให้เราดูชัดๆ ก็ต้องขอร้องว่าอย่าใช้ความรู้สึกในการบริหารประเทศต้องใช้ตัวเลขข้อมูลข้อเท็จจริง ในการบริหารประเทศว่าสรุปแล้วปัญหาคืออะไร ที่บอกว่าเกิดวิกฤตหนักสาหัสขอดูตัวเลขหน่อย ว่ากำลังพูดถึงตัวเลขไหนจะได้คลายกังวลว่าใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาประเทศ

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีต้องการเอาชนะหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะ แต่น่าจะเป็นการรักษาคำพูด ซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งเหมือนกัน หลังจากที่ไม่ได้รักษาคำพูดมาแล้วครั้งหนึ่งตอนร่วมรัฐบาล และตั้งรัฐบาลมา จึงจำเป็นต้องฟื้นความเชื่อมั่นว่าต้องทำตามที่พูดที่ได้หาเสียงไว้ได้ ซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญก็อาจจะแพ้ไม่ได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นปัญหาหนักใจเพราะตอนคิดโครงการ คิดมาไม่ถี่ถ้วน โดยตอนคิดยังบอกว่าใช้เงินจากงบประมาณ ซึ่งเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และพอหลังพิงฝาแล้วไม่มีทางออก ตนจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]