“ศิริกัญญา” ชี้ออกพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อหาทางลง

พรรคก้าวไกล 13 พ.ย.-“ศิริกัญญา” ย้อนถามรัฐบาลรู้ทั้งรู้ว่าออกพ.ร.บ.เงินกู้ผิดกม. เหตุใดจึงเดินหน้า ชี้คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากหาทางลง จี้กางตัวเลขวิกฤติถึงขั้นต้องกระตุ้นโดยกู้เงิน 5 แสนล้าน


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล  รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าน.ส.ศิริกัญญาเคยเห็นด้วยกับโครงการดิจิตทัลวอลเล็ตว่า วันนี้โครงการดิจิตทัล วอลเล็ตถูกเบี่ยงเบนรายละเอียดมาไกลมาก จากที่ใช้เงินในงบประมาณกลายเป็นการออกพ.ร.บ.กู้เงิน จากที่เคยให้ถ้วนหน้าก็จำกัดคนที่มีรายได้สูง การบอกว่าเห็นด้วย เป็นการตีความที่เกินเลย ยอมรับว่าเคยพูดคุยกันจริงในฐานะที่เป็นพรรคที่จะร่วมรัฐบาลกันว่าโครงการไหนที่อยากจะทำก็หยิบมาวางไว้บนโต๊ะ และได้พูดคุยกันว่าดิจิตทัล วอลเล็ตจะทำหรือไม่ ถ้าจะทำก็ทำได้ แต่เงินไม่พอ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า วันนั้นกางตัวเลขงบประมาณให้ดูกันชัด ๆ ว่าเหลือเท่าไหร่ แบ่งกันแล้วเหลือให้แต่ละพรรคทำโครงการพรรคละ 4-5 แสนล้านบาท จะทำทั้งก้อนจึงเป็นไปไม่ได้ ก็คุยตรงไปตรงมา จึงขอร้องว่าอย่าบิดประเด็น อย่าเบี่ยงประเด็นไปไกลกว่านี้ คำถามสั้น ๆ และตรงไปตรงคือเมื่อออกพ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาทในครั้งนี้มีท่าว่าจะผิดกฎหมายของมาตรา 53 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทางเพื่อไทยและรัฐบาลทำไมถึงคิดจะเดินหน้าทำต่อ มีเหตุผลอะไรซึ่งทุกวันนี้ยังไม่ได้รับเหตุผลใดๆกลับคืนมา เป็นแค่การขุดอดีตเพื่อสร้างความชอบธรรมบางอย่าง ว่าตนเคยเห็นด้วย ซึ่งอยากให้ไล่เรียงมา ก็ไม่เคยซักค้าน เพียงแต่ถามถึงแหล่งที่มาเท่านั้นเองดังนั้นขอให้รัฐบาลช่วยตอบให้ตรงประเด็น


“สรุปแล้วจะไม่ผิดกฎหมายได้อย่างไร ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ชุดใหญ่บอกหรือไม่ ว่าไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องง่ายๆหากเปิดเผยรายงานการประชุมในชั้นอนุกรรมการและกรรมการชุดใหญ่มาว่าถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรก็จบสิ้นแล้ว ดิฉันกลายเป็นคนหน้าแตกไปแล้ว แต่จนขนาดนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ และวันนี้อ้างผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เสนอให้ออกเงินกู้ด้วยก็ต้องดูรายงานของคณะกรรมการชุดใหญ่และต้องดูมติด้วยว่าลงคะแนนเสียงกันอย่างไรถึงให้ออกพ.ร.บเงินกู้ ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น่าจะเสนอแนวนี้เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาก็ออกมาคัดค้านโดยตลอด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การจะออกพ.ร.บ.กู้เงินได้ ต้องถูกตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สาธารณะมีอีกหลายฉบับที่ต้องพิจารณาด้วย ดังนั้นเราคาดหวังว่าวันที่รัฐบาลประกาศแถลงต่อประชาชนว่าจะออกร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้าน ได้ปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกามาเรียบร้อยแล้วและทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการนี้โดยที่ไม่ผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่ได้มีช่องให้นักร้องไปร้องอะไรได้ และไม่มีโอกาสถูกตีตกในภายหลัง แต่ถ้าไม่ผ่านกระบวนการนั้นเลย แล้วอยู่ดีๆก็พูดออกมาว่าไม่แน่ใจว่ามีมติในที่ประชุมคณะกรรมการใหญ่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีการเปิดเผยและพูดออกมาแบบนี้เหมือนเดิมคือ พูดแล้วก็ต้องมากลับคำพูดอีกรอบ ก็คิดว่าเสียความเชื่อมั่นของประชาชน จากเดิมประชาชนที่เฝ้ารอการช่วยเหลือ วันหลังก็จะไม่เชื่อแล้ว

สำหรับกรณีที่เริ่มมีการไปร้องเรียนเรื่องนี้แล้ว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ฝ่ายค้านได้แต่ดักคอเอาไว้ ไม่อยากให้มาถึงวันนี้และความจริง “นักร้อง” ไม่ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลเลย ถ้ารัฐบาลมีความละเอียด รอบคอบ ถี่ถ้วนในการที่จะดำเนินนโยบาย และพอไปสู่ช่องตรงนั้นก็ต้องดีเลย์ไปขนาดไหน หากศาลรัฐธรรมนูญเกิดรับฟ้องขึ้นมาด้วย โดยที่อดคิดไม่ได้ว่า โดยการเมืองจะไม่มีใครเลยสักคนท้วงติงรัฐบาลในเรื่องนี้ว่ากำลังทำผิดกฎหมายอยู่ ถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำโดยที่ไม่มีการท้วงติง คิดว่าข้าราชการและผู้เกี่ยวข้องก็มีความผิด


ส่วนหากกฎหมายนี้ผ่านสภาฯ ไปได้ พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในส่วนของก้าวไกลคงต้องยอมรับความจริง ถ้าสุดท้ายร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯ ไปได้ทั้ง 3 วาระและได้ดำเนินโครงการนี้จริงขั้นตอนต่อไปก็เป็นปัญหาเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 การใช้คืนหนี้สูงมาก เงินต้นเดิมเงินต้นใหม่เท่ากับภาษีที่รัฐบาลเก็บมาได้ 20% ก็จะกลายมาเป็นเงินต้องใช้หนี้ทำให้งบของปี 68 คงจะจัดอย่างยากลำบาก เพราะรายได้ใหม่จากภาษีที่ได้จากงบปี67 และ 2568 ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งในงบประมาณปี 68 ก็เห็นว่าจะต้องเสียเงิน ปีแรกแสนกว่าล้านบาทบวกดอกเบี้ยอีกหมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งทำให้การใช้เงินสูงมาก

ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้เหตุผลว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.วินัยทางการคลังสามารถทำได้เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนและแก้วิกฤตของประเทศ ซึ่งต้องตีความเพราะที่ผ่านมายังไม่เคยถกเถียงกันว่าความจำเป็นเร่งด่วนเป็นอย่างไร และที่ผ่านมาเห็นว่านายกรัฐมนตรีแถลง GDP ย้อน 10 ปี ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาระยะยาว ไม่สามารถแก้ในระยะสั้นได้ ก็ต้องฟังว่ารัฐบาลมีภาระเร่งด่วนอย่างไรรอ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ

เมื่อถามว่าหากเทียบกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตก น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่การกู้เงินในระดับนี้ มีปัญหาแน่ ๆ แม้ว่าหนี้สาธารณะ ต่อ GDP ยังไม่ถึงขั้นที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลชุดที่แล้วเคยขยายเพดานไว้ แต่ที่จะไม่รอดแน่ ๆ คือภาระดอกเบี้ยต่องบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แม้จะไม่อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังต้องคงไว้ ไม่เกิน 10% เพราะสถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ที่จะจัดอันดับ เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจง ย้ำงบประมาณ ปีแรกจะต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งเกิน 10% ของงบประมาณแผ่นดินและถ้าสุดท้ายพ.ร.บ. นี้ ผ่านสภาและบังคับใช้ได้จริงและดิจิตอล วอลเล็ตเกิดขึ้นจริง

“ที่รัฐบาลพยายามบอกว่าประเทศกำลังมีวิกฤตนั้นเห็นว่า เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในระยะยาว เป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในการแก้ไขปัญหาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้เลย กรณีนี้ไม่ใช่การช็อคขึ้นมา ในเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างเช่นโควิด แต่นโยบายนี้ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ มีนาคม เมษายนปีนี้จะถูกนำไปใช้จริงปีหน้า สรุปแล้ววิกฤตเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่แล้วเร่งด่วนถึงขั้นที่เราได้ 1 ปีเร่งด่วนหรือไม่ดังนั้นการเลือกใช้โดยการออกร่างพ.ร.บยิ่งต้องใช้เวลาในสภา จึงถามว่าความจำเป็นเร่งด่วนอยู่ตรงไหน และขออย่าปล่อยให้รัฐบาลบิดเบือน” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ส่วนที่มองว่า GDP ไม่โตตามเป้า น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องดูว่าGdpโตได้ตามศักยภาพที่ไปได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า แม้ Gdp เราโตช้าแต่ เราไม่สามารถกระตุ้นได้ด้วยการ กระตุ้นเศรษฐกิจใน ระยะสั้นเลยควรต้องระบุ ในทางพื้นที่หรือไม่ว่าพื้นที่ไหนควรจะต้องใช้วิธีการกระตุ้นเป็นกรณีพิเศษ อย่างฮ่องกงปี 65 เศรษฐกิจของฮ่องกงปี 65 ยังโตติดลบอยู่จึงต้องมีการแจกเงิน ซึ่งก็เหมือนของเราตอนโควิดและแจกเงินเยียวยาประชาชน แต่วันนี้เศรษฐกิจโตขึ้น ยังไม่ใช่เวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ดังนั้นยังรอคำตอบเพราะรัฐบาลไม่เคยนำตัวเลขออกมาให้เราดูชัดๆ ก็ต้องขอร้องว่าอย่าใช้ความรู้สึกในการบริหารประเทศต้องใช้ตัวเลขข้อมูลข้อเท็จจริง ในการบริหารประเทศว่าสรุปแล้วปัญหาคืออะไร ที่บอกว่าเกิดวิกฤตหนักสาหัสขอดูตัวเลขหน่อย ว่ากำลังพูดถึงตัวเลขไหนจะได้คลายกังวลว่าใช้เครื่องมือที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาประเทศ

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีต้องการเอาชนะหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะ แต่น่าจะเป็นการรักษาคำพูด ซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งเหมือนกัน หลังจากที่ไม่ได้รักษาคำพูดมาแล้วครั้งหนึ่งตอนร่วมรัฐบาล และตั้งรัฐบาลมา จึงจำเป็นต้องฟื้นความเชื่อมั่นว่าต้องทำตามที่พูดที่ได้หาเสียงไว้ได้ ซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญก็อาจจะแพ้ไม่ได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นปัญหาหนักใจเพราะตอนคิดโครงการ คิดมาไม่ถี่ถ้วน โดยตอนคิดยังบอกว่าใช้เงินจากงบประมาณ ซึ่งเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และพอหลังพิงฝาแล้วไม่มีทางออก ตนจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย