ซานฟรานซิสโก 13 พ.ย.-“เศรษฐา” เตรียมแจงความคืบหน้าแลนด์บริดจ์ ชวนนักลงทุนสหรัฐ พร้อมหวังให้คนรุ่นใหม่มองเห็นอนาคต ไม่ย้ายประเทศไปทำงานที่อื่นเชื่อศักยภาพที่ดีทางสังคมหลายด้านของไทยจะเป็นแรงจูงใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(12 พ.ย.) เวลา 14.00 น.(ตามเวลาท้องถิ่นซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เตรียมการโรดโชว์โครงสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน (ชุมพร-ระนอง) ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2023 ระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย.นี้ เพื่อเชิญชวนภาคเอกชนและนักลงทุนต่างชาติให้มาลงทุน ว่า จะใช้โอกาสการเข้าร่วมประชุมเอเปคครั้งนี้ เชิญชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ เมื่อโครงการนี้เกิดขึ้นจะเกิดอุตสาหกรรมใหม่และจะขยายเป็นฐานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะภาคการเกษตร แต่จะมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องเกิดขึ้นด้วย ซึ่งจะยกระดับรายได้ประชาชน เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น
“ทุกครั้งที่เดินทางต่างประเทศ ได้แจ้งความคืบหน้า สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และยังเป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจวางอนาคตได้ แม้โครงการยังไม่เกิดขึ้นทันทีและต้องใช้เวลานาน แต่เชื่อว่า คนรุ่นใหม่จะเล็งเห็นโอกาสจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาจทำให้ตัดสินใจไม่ย้ายประเทศเพื่อไปทำงาน จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องสร้างแรงบันดาลใจ เพราะประเทศเราต้องดีขึ้น หากมีเขตอุตสาหกรรมที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ และคนไทยมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่จะร่วมกันพัฒนา ก็จะเป็นจุดศูนย์กลางที่จะหล่อหลอมให้สังคมดีขึ้นได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนข้อเสนอที่จะจูงใจนักลงทุน ให้เลือกมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ของไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีมาตรการทางภาษี พลังงานสะอาดที่รัฐบาลให้ความสำคัญ การบริหารจัดการน้ำในภาคอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางการบิน มีรถไฟความเร็วสูง มีท่าเรือแหลมฉบังสำหรับโลจิสติกส์ ซึ่งแลนด์บริดจ์ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นปัจจัยสำคัญให้นักลงทุนตัดสินใจ ขณะที่มิติสังคมประเทศไทยไม่แตกแยกเท่าบางประเทศ แม้จะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ นักลงทุนต่างชาติ จะดูตรงนี้เป็นหลัก และไทยยังมีโรงเรียน สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานระดับโลก ที่เป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจของนักลงทุนเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย