เปิดงาน Thailand Winter Festivals ให้ไทยเป็นจุดหมายของ นทท.ทั่วโลก

ทำเนียบ 10 พ.ย. – “เศรษฐา” ควง “แพทองธาร” เปิดงาน Thailand Winter Festivals พร้อมดันซอฟต์พาวเวอร์อย่างจริงจัง ยอมรับต้องใช้เวลา ด้าน “แพทองธาร” ประกาศ เปลี่ยนไทยให้เป็นจุดหมายปลายปีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานการแถลงข่าวและพิธีเปิดงาน Thailand Winter Festivals  โดยก่อนเริ่มงาน นายกรัฐมนตรี ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ โดยนายเศรษฐา ได้สวมสูทสีเบจ เน็คไทสีเหลือง พร้อมผ้าพันคอย้อมคราม โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้สวมผ้าพันคอให้เข้ากับธีมงาน  Winter นิดหน่อย โดยผ้าพันคอผืนดังกล่าวคุณอิ๊งค์ เป็นคนนำมาให้”

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ได้สวมเสื้อโค้ทผ้าไหมไทย พันคอด้วยผ้าย้อมคราม พร้อมเปิดเผยว่า จำไม่ได้ว่าเป็นผ้าไหมจากจังหวัดไหน แต่คาดว่ามาจากภาคอีสาน ซึ่งวันนี้ ได้นำผ้าพันคอ ซึ่งเป็นผ้าย้อมครามจากจังหวัดสกลนคร มามอบให้กับท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อสวมใส่ให้เข้ากับธีมงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมีคณะรัฐมนตรี อาทิ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  นางพวงเพ็ชร ชุณละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รัฐมนตรีว่ากากระทรวงวัฒนธรรม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้จนไปถึงสิ้นปี จะมีอีเวนท์เทศกาลต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกว่า 3,000 งาน และเทศกาลที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นคือ ประเพณีลอยกระทง ที่จะจัดขึ้นจัดอย่างยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัย  แต่ไม่ว่าจะจัดงานที่ไหนก็สวยงามเป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก และเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทย

ส่วนเทศกาลช่วงปีใหม่จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ พร้อมกันทั่วประเทศกว่า 70 แห่ง  นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลอาหาร บันเทิง กีฬา ศิลปะต่างๆ  แม้จะเป็นกิจกรรมเดียวกัน แต่จัดในพื้นที่แตกต่างกัน ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่าง และจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายปีของนักท่องเที่ยวทั่วโลก 


“งานเทศกาล winter festival จะเป็นเครื่องมืออีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่ประเทศไทยมากขึ้น ให้คนทั่วโลกมาตัดสินใจใช้เงินในประเทศไทยและ winter festival จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นฮับดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ  วันนี้รัฐบาลเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในการเดินหน้าวัฒนธรรมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ในทุกด้านให้ประเทศไทยเป็นที่จดจำและมีตัวตนในแผนที่โลกอีกครั้ง” น.ส.แพทองธารกล่าว

ขณะที่นายชัชชาติ กล่าวว่า การจัดงานในส่วนของกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่เป็นการจัดงานแบบอีเวนท์ แต่เป็นลักษณะของ People festival ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนได้ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกิจกรรมหลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปลายปี ภาครัฐมีส่วนในการนำพื้นที่สาธารณะมาเปิดให้ประชาชนทำกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดความสนุกสนาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับหลายพันล้านบาท และเป็นการเชื่อมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และซอฟพาวเวอร์ โดยส่วนของกรุงเทพฯ เบื้องต้น จะมี 11 เทศกาล เริ่มจากเทศกาลลอยกระทง วิ่งมาราธอนระดับโลก และงานเทศกาลดนตรีในสวน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า กระทรวงวัฒนธรรม ขอส่งความสุข และต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกที่จะเดินทางมาประเทศไทย เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานเยี่ยมยลชมวัง เพื่อสักการะศาสนสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระพุทธสิหิงค์ รวมไปถึงการร่วมเทศกาลลอยกระทงกับบรรยากาศย้อนยุค ชวนแต่งชุดไทยไปลอยกระทงที่วัดอรุณราชวรารามฯ พร้อมชวนชมความงดงามของโบราณสถานยามค่ำคืนที่อุทยานประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น วัดไชยวัฒนาราม อยุธยาฯ อุทยานประวัติศาสตร์ กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย นครราชสีมา ตั้งแต่ 9 ธ.ค.66 ต่อเนื่องถึง 6 ม.ค.ปีหน้า กระทรวงวัฒนาธรรมจะเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานแห่งชาติทุกแห่ง ทั่วประเทศฟรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่จะมีงาน Thailand Winter festivals และ colorful Bangkok winter festivals  ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้งานทั้งสองงานเป็นหนึ่งในกลไกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจดึงดูดนักท่องเที่ยว  ให้เลือกที่จะมาท่องเที่ยวนประเทศไทย เพราะเทศกาลที่มีมากกว่า 3,000 งานและกว่า 200 งานที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ทั้งหมดมีความหลากหลายด้านศิลปะ อาหารดนตรี กีฬา และแสงสี รวมถึงงานประจำปีอย่างครบถ้วน

ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และยังมีนโยบายอื่นที่จะสนับสนุนจะมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่นสนามบินที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อันดามัน  และนโยบายเรื่องวีซ่าฟรีที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง

“การสร้างพลังอำนาจในการดึงดูด การสร้างวัฒนธรรม  คุณค่าทางการเมือง  ให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์  ซึ่งไม่มีทางลัด  ไม่มีสูตรสำเร็จ  และไม่มีทางง่าย ต้องใช้เวลา  กว่าที่เราจะสร้างอีโคซิสเต็มส์ให้แข็งแรงต่อทุกอุตสาหกรรม  แต่หากไม่เริ่มต้นจะไม่มีทางเกิดขึ้น   รัฐบาลได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง   พร้อมระดมทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง  รวมถึงภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมมาร่วมวางแผนเพื่อพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วยกัน   วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิติใหม่ที่จะเปิดโอกาสเปิดพื้นที่เปิดความฝันของคนไทย ที่จะเป็นผู้นำสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้มีพลังทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]