สั่งผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย

กทม. 27 ต.ค.-มท.1 สั่งการผู้ว่าฯ เพชรบุรี ประจวบฯ และ 14 จังหวัดภาคใต้ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยและคลื่นลมแรง ย้ำยึดความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงครึ่งหลังของเดือน ต.ค.66 บริเวณภาคใต้และอ่าวไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น และอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้ามาใกล้หรือเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคตะวันออก และต่อเนื่องลงมาจนถึงอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง และเกิดคลื่นลมกำลังแรงและคลื่นสูงในบางช่วง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน สถานการณ์น้ำ และประเมินความเสี่ยงการเกิดอุทกภัย น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัด พื้นที่ท้ายเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก และพื้นที่เชิงเขา มีการวางแผนติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า ตลอดจนแผนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์


โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า แต่ละจังหวัดให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัย โดยใช้การสื่อสารทุกช่องทาง เพื่อให้ข้อมูลไปถึงประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหอกระจายข่าว วิทยุชุมชน สื่อสังคมออนไลน์ เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมสำหรับออกช่วยเหลือประชาชน ส่วนกรณีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ต้องมีมาตรการแจ้งเตือน การปิดกั้นหรือห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเล ให้กำชับสถานประกอบการ โรงแรม สื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังและห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรง โดยหากมีแนวโน้มเกิดคลื่นลมแรง คลื่นซัดชายฝั่ง ให้แจ้งเตือนเดินเรือด้วยความระมัดระวัง นำเรือเข้าที่กำบัง และห้ามการเดินเรือช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเคร่งครัด หากพบว่ามีเรือขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่นอกชายฝั่งที่อาจจะเป็นอันตราย ให้นำเรือดังกล่าวกลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย หากมีการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายในทุกกรณี

“ในกรณีต้องเผชิญเหตุ เมื่อเกิดสาธารณภัยในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการจากหน่วยงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เร่งคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบเลี้ยงผู้ประสบภัย การแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และประชาสัมพันธ์การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจและพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในกรณีที่ประเมินแล้วว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มรุนแรง ให้สั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ” โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าว


ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายให้ครบถ้วนทุกด้าน บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เข้าซ่อมแซมและฟื้นฟูความเสียหายด้านต่าง ๆ ให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ต้องให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบผ่านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางเป็นประจำทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

“กระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการดำเนินมาตรการป้องกันก่อนเกิดภัย จึงกำชับให้ทุกจังหวัดติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ เตรียมความพร้อมในมิติต่างๆ ตลอดจนสร้างการรับรู้กับภาคส่วนต่างๆ โดยยึดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยหากพี่น้องประชาชนตกอยู่ในภัยพิบัติ สามารถติดต่อหน่วยงานเพื่อแจ้งและขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว