สส.รัฐบาล คว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล

รัฐสภา 25 ต.ค.-สส.รัฐบาลคว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล อ้างมี คกก.ศึกษาอยู่แล้ว แถมมีช่องลักไก่แตะหมวด 1และ 2 ด้านฝ่ายค้านเชื่อรัฐบาลไม่จริงใจ เตือนอย่าใช้ รธน.เป็นตัวประกัน ระวังเป็นระเบิดเวลาเหมือนเงินดิจิทัล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงในการพิจารณาญัตติการขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยคำถามที่ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า ประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน” ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ และมีมติเสียงข้างมาก 261 เสียง ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบญัตติดังกล่าว


ก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอญัตติ ได้ชี้แจงสาเหตุการเสนอญัตติดังกล่าวว่า เพื่อเป็นกระดุมเม็ดแรกในการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเริ่มนับหนึ่งฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ เพราะลึก ๆ แล้ว ยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการจัดออกเสียงประชามติ และคำถามที่ถูกใช้ และเชื่อว่าญัตตินี้จะเป็นประโยชน์ และไม่เสียหาย

“หากรัฐบาลคิดเช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล สส.พรรคร่วมรัฐบาลก็คงไม่ลำบากใจที่จะสนับสนุนญัตตินี้ หรือหากรัฐบาลยังไม่มั่นใจการจัดการออกเสียงประชามติ และรูปแบบคำถาม การอภิปรายญัตตินี้ในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะเป็นการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นทุกฝ่าย หรือหากรัฐบาลยังคิดต่าง ฝ่ายค้านก็ยิ่งจำเป็นจะต่อการเสนอญัตตินี้ เพื่อเป็นหนทางของฝ่ายค้านได้รับการตอบสนองจากสภาผู้แทนราษฎร หรือหากจะมีการเสนอ ยื่นร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขมาตรา 256 พร้อมกำหนดให้มี สสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่มีการออกเสียงประชามติ ก็อาจจะถูก สส.และ สว.บางส่วน ปัดตกร่างดังกล่าว โดยอ้างว่า จะต้องมีการจัดการออกเสียงประชามติก่อนที่จะแก้ไข ซึ่งผลการออกเสียงประชามติที่จะเกิดขึ้น ก็จะเป็นหลักประกันไม่ให้ สส. และ สว.ตีตกเจตน์จำนงของประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว 


นายพริษฐ์ ยังย้ำหลักการสำคัญ ที่ควรถูกตัดสินโดยประชาชน และบรรจุไว้ในคำถามการออกเสียงประชามติว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ที่ประชาชนมีความเห็นต่างกันว่า ส่วนใดของรัฐธรรมนูญเป็นปัญหาที่อยากเห็นการแก้ไข ดังนั้น หากจะให้รัฐธรรมนูญ โอบรับทุกความเห็นที่แตกต่างกัน และแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จึงไม่ควรกำหนดคำถามในลักษณะคิดแทนประชาชน แต่ควรเปิดกว้างสำหรับทุกความเห็น ซึ่งการเปิดกว้างให้มีการแก้ไขทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้อหาทั้งหมดจะถูกแก้ไข เพราะหากเนื้อหาใดดีอยู่แล้ว ก็ย่อมไม่ได้รับความเห็นชอบให้ถูกแก้ไข พร้อมย้ำว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง หรือรูปแบบรัฐแน่นอน เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 255 ได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกครอง และรูปแบบรัฐได้

ขณะที่ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายยืนยันว่า ตลอดเวลาที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยได้ย้ำนโยบายสำคัญในการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยืนยันต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะจัดการออกเสียงประชามติให้เกิดขึ้นจริง และมี สสร. มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน พร้อมไม่ปฏิเสธกลไกรัฐสภา ในการเสนอจัดการออกเสียงประชามติ แต่มองว่า ในทางเทคนิคนั้น กลไกรัฐสภา ก็อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา จึงควรใช้กลไกการใช้มติคณะรัฐมนตรีจัดการออกเสียงประชามติ โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และทำให้การจัดการออกเสียงประชามติเกิดขึ้นจริง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตต่อคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามติ ที่มนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ จะใช้เวลา และขั้นตอนมากไปหรือไม่นั้น นางสาวขัตติยา ยอมรับว่า อาจใช้เวลามาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก็เพื่อให้แน่ใจว่า รัฐธรรมนูญจะถูกยกร่างใหม่จริง เพราะที่ผ่านมา มีการตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการตีความการจัดการออกเสียงประชามติ รวมถึงต้องอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้การวินิจฉัยบางขั้นตอน ขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องชะงัก และเริ่มต้นใหม่ แต่พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า การจัดการออกเสียงประชามติที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการออกเสียงประชามติแบบเต็มใบ รับฟังความเห็นประชาชนทั้งที่มา และเนื้อหาอย่างแท้จริง


เช่นเดียวกับ นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องสอดคล้องกับเวลา และสถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งความพยายามเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้  ได้เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ซึ่งรวมหมวด 1 รูปแบบรัฐ และหมวด 2 สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย โดยที่พรรคพลังประชารัฐ จะไม่สนับสนุนการแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะพรรคฯ มีจุดยืนเรื่องดังกล่าวชัดเจน พร้อมยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีความจริงใจ และตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีการตั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการเพิ่ม 2 ชุด ดังนั้น รัฐสภา จึงควรให้เวลารัฐบาล และอนุกรรมการ 2 คณะ ซึ่งหากกระบวนการไม่คืบหน้า พรรคพลังประชารัฐ ก็พร้อมใช้กลไกนิติบัญญัติเร่งรัดรัฐบาล แต่หากสภาฯ ให้ความเห็นชอบญัตติของพรรคก้าวไกลในวันนี้ (25 ต.ค.) ก็จะเป็นการทำงานข้ามหัวรัฐบาล และยังไม่สามารถทราบได้ว่า ก่อนที่มติจะไปถึงคณะรัฐมนตรี วุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ จึงควรให้เวลาได้ทำงานในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับญัตตินี้ของพรรคก้าวไกล และมั่นใจว่า หลังการลงมติ จะต้องมีความพยายามบิดเบือนว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีที่มาหลากหลาย ขึ้นมาศึกษาหาแนวทางเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่พรรคก้าวไกล กลับไม่เข้าร่วมคณะกรรมการชุดดังกล่าว จนต้องมาเสนอญัตตินี้ในที่ประชุมสภาฯ และพรรคภูมิใจไทย ไม่สามารถลงมติเห็นชอบกับญัตตินี้ได้ เพราะมีการระบุในคำถามประชามติให้มีการแก้ไขทั้งฉบับ อาจเป็นการผูกมัดให้มีการแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ด้วยก็ได้ จึงทำให้พรรคภูมิใจไทย ยอมรับญัตติดังกล่าวไม่ได้

แต่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงสาเหตุกรณีที่พรรคก้าวไกล ไม่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามติ ที่นายภูมิธรรม เป็นประธานฯ นั้น เนื่องจาก กรรมการดังกล่าว เป็นการแต่งตั้งโดยฝ่ายบริหาร แต่พรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในนิติบัญญัติ และไม่เชื่อวิธีคิด และกระบวนการของฝ่ายรัฐบาล ที่ผิดไปจากการหาเสียงสัญญากับประชาชน  โดยพยายามพิสูจน์ความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ โดยใช้กระบวนการนิติบัญญัตินั้น พรรคก้าวไกลมีความผิดหรือไม่

สอดคล้องกับ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายแสดงความกังวล ถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล ว่า ในการหาเสียงของบางพรรคการเมือง จะใช้คำสัญญาไปหาเสียงกับประชาชน ซึ่งพรรคแกนนำรัฐบาล ได้ประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการออกมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมครั้งแรก เพื่อจัดการออกเสียงประชามติ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ระบุถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา

นายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการให้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งที่หลายพรรคเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ทุกพรรคเห็นพ้องว่า รัฐธรรมนูญควรได้รับแก้ไข โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 แต่ก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาล ในการตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามตินั้น มีวัตถุประสงค์ใดกันแน่ เพราะคณะกรรมการดังกล่าวฯ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะศึกษาเสร็จเมื่อใด ดังนั้น จึงขอเตือนรัฐบาลว่า อย่านำรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน และเป็นระเบิดเวลาตัวเอง เหมือนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะดำเนินการอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]