สส.รัฐบาล คว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล

รัฐสภา 25 ต.ค.-สส.รัฐบาลคว่ำญัตติประชามติแก้ รธน.พรรคก้าวไกล อ้างมี คกก.ศึกษาอยู่แล้ว แถมมีช่องลักไก่แตะหมวด 1และ 2 ด้านฝ่ายค้านเชื่อรัฐบาลไม่จริงใจ เตือนอย่าใช้ รธน.เป็นตัวประกัน ระวังเป็นระเบิดเวลาเหมือนเงินดิจิทัล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงในการพิจารณาญัตติการขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ด้วยคำถามที่ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า ประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน” ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ และมีมติเสียงข้างมาก 261 เสียง ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบญัตติดังกล่าว


ก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอญัตติ ได้ชี้แจงสาเหตุการเสนอญัตติดังกล่าวว่า เพื่อเป็นกระดุมเม็ดแรกในการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเริ่มนับหนึ่งฟื้นฟูประชาธิปไตยของประเทศ เพราะลึก ๆ แล้ว ยังไม่มั่นใจว่า รัฐบาลคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการจัดออกเสียงประชามติ และคำถามที่ถูกใช้ และเชื่อว่าญัตตินี้จะเป็นประโยชน์ และไม่เสียหาย

“หากรัฐบาลคิดเช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล สส.พรรคร่วมรัฐบาลก็คงไม่ลำบากใจที่จะสนับสนุนญัตตินี้ หรือหากรัฐบาลยังไม่มั่นใจการจัดการออกเสียงประชามติ และรูปแบบคำถาม การอภิปรายญัตตินี้ในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะเป็นการเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นทุกฝ่าย หรือหากรัฐบาลยังคิดต่าง ฝ่ายค้านก็ยิ่งจำเป็นจะต่อการเสนอญัตตินี้ เพื่อเป็นหนทางของฝ่ายค้านได้รับการตอบสนองจากสภาผู้แทนราษฎร หรือหากจะมีการเสนอ ยื่นร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขมาตรา 256 พร้อมกำหนดให้มี สสร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่มีการออกเสียงประชามติ ก็อาจจะถูก สส.และ สว.บางส่วน ปัดตกร่างดังกล่าว โดยอ้างว่า จะต้องมีการจัดการออกเสียงประชามติก่อนที่จะแก้ไข ซึ่งผลการออกเสียงประชามติที่จะเกิดขึ้น ก็จะเป็นหลักประกันไม่ให้ สส. และ สว.ตีตกเจตน์จำนงของประชาชน” นายพริษฐ์ กล่าว 


นายพริษฐ์ ยังย้ำหลักการสำคัญ ที่ควรถูกตัดสินโดยประชาชน และบรรจุไว้ในคำถามการออกเสียงประชามติว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ที่ประชาชนมีความเห็นต่างกันว่า ส่วนใดของรัฐธรรมนูญเป็นปัญหาที่อยากเห็นการแก้ไข ดังนั้น หากจะให้รัฐธรรมนูญ โอบรับทุกความเห็นที่แตกต่างกัน และแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จึงไม่ควรกำหนดคำถามในลักษณะคิดแทนประชาชน แต่ควรเปิดกว้างสำหรับทุกความเห็น ซึ่งการเปิดกว้างให้มีการแก้ไขทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้อหาทั้งหมดจะถูกแก้ไข เพราะหากเนื้อหาใดดีอยู่แล้ว ก็ย่อมไม่ได้รับความเห็นชอบให้ถูกแก้ไข พร้อมย้ำว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง หรือรูปแบบรัฐแน่นอน เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 255 ได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกครอง และรูปแบบรัฐได้

ขณะที่ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายยืนยันว่า ตลอดเวลาที่พรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยได้ย้ำนโยบายสำคัญในการจัดการออกเสียงประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงยืนยันต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะจัดการออกเสียงประชามติให้เกิดขึ้นจริง และมี สสร. มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน พร้อมไม่ปฏิเสธกลไกรัฐสภา ในการเสนอจัดการออกเสียงประชามติ แต่มองว่า ในทางเทคนิคนั้น กลไกรัฐสภา ก็อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา จึงควรใช้กลไกการใช้มติคณะรัฐมนตรีจัดการออกเสียงประชามติ โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และทำให้การจัดการออกเสียงประชามติเกิดขึ้นจริง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตต่อคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามติ ที่มนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ จะใช้เวลา และขั้นตอนมากไปหรือไม่นั้น นางสาวขัตติยา ยอมรับว่า อาจใช้เวลามาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก็เพื่อให้แน่ใจว่า รัฐธรรมนูญจะถูกยกร่างใหม่จริง เพราะที่ผ่านมา มีการตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการตีความการจัดการออกเสียงประชามติ รวมถึงต้องอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้การวินิจฉัยบางขั้นตอน ขัดต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องชะงัก และเริ่มต้นใหม่ แต่พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า การจัดการออกเสียงประชามติที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นการออกเสียงประชามติแบบเต็มใบ รับฟังความเห็นประชาชนทั้งที่มา และเนื้อหาอย่างแท้จริง


เช่นเดียวกับ นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องสอดคล้องกับเวลา และสถานการณ์ที่เหมาะสม ซึ่งความพยายามเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้  ได้เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับ ซึ่งรวมหมวด 1 รูปแบบรัฐ และหมวด 2 สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย โดยที่พรรคพลังประชารัฐ จะไม่สนับสนุนการแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะพรรคฯ มีจุดยืนเรื่องดังกล่าวชัดเจน พร้อมยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีความจริงใจ และตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีการตั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการเพิ่ม 2 ชุด ดังนั้น รัฐสภา จึงควรให้เวลารัฐบาล และอนุกรรมการ 2 คณะ ซึ่งหากกระบวนการไม่คืบหน้า พรรคพลังประชารัฐ ก็พร้อมใช้กลไกนิติบัญญัติเร่งรัดรัฐบาล แต่หากสภาฯ ให้ความเห็นชอบญัตติของพรรคก้าวไกลในวันนี้ (25 ต.ค.) ก็จะเป็นการทำงานข้ามหัวรัฐบาล และยังไม่สามารถทราบได้ว่า ก่อนที่มติจะไปถึงคณะรัฐมนตรี วุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบหรือไม่ จึงควรให้เวลาได้ทำงานในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับญัตตินี้ของพรรคก้าวไกล และมั่นใจว่า หลังการลงมติ จะต้องมีความพยายามบิดเบือนว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ขณะนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการที่มีที่มาหลากหลาย ขึ้นมาศึกษาหาแนวทางเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่พรรคก้าวไกล กลับไม่เข้าร่วมคณะกรรมการชุดดังกล่าว จนต้องมาเสนอญัตตินี้ในที่ประชุมสภาฯ และพรรคภูมิใจไทย ไม่สามารถลงมติเห็นชอบกับญัตตินี้ได้ เพราะมีการระบุในคำถามประชามติให้มีการแก้ไขทั้งฉบับ อาจเป็นการผูกมัดให้มีการแก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ด้วยก็ได้ จึงทำให้พรรคภูมิใจไทย ยอมรับญัตติดังกล่าวไม่ได้

แต่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงสาเหตุกรณีที่พรรคก้าวไกล ไม่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามติ ที่นายภูมิธรรม เป็นประธานฯ นั้น เนื่องจาก กรรมการดังกล่าว เป็นการแต่งตั้งโดยฝ่ายบริหาร แต่พรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในนิติบัญญัติ และไม่เชื่อวิธีคิด และกระบวนการของฝ่ายรัฐบาล ที่ผิดไปจากการหาเสียงสัญญากับประชาชน  โดยพยายามพิสูจน์ความจริงใจในการแก้รัฐธรรมนูญ โดยใช้กระบวนการนิติบัญญัตินั้น พรรคก้าวไกลมีความผิดหรือไม่

สอดคล้องกับ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายแสดงความกังวล ถึงความไม่จริงใจของรัฐบาล ว่า ในการหาเสียงของบางพรรคการเมือง จะใช้คำสัญญาไปหาเสียงกับประชาชน ซึ่งพรรคแกนนำรัฐบาล ได้ประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการออกมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมครั้งแรก เพื่อจัดการออกเสียงประชามติ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ระบุถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษา

นายสรรเพชร บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการให้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งที่หลายพรรคเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ทุกพรรคเห็นพ้องว่า รัฐธรรมนูญควรได้รับแก้ไข โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 แต่ก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาล ในการตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการจัดออกเสียงประชามตินั้น มีวัตถุประสงค์ใดกันแน่ เพราะคณะกรรมการดังกล่าวฯ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะศึกษาเสร็จเมื่อใด ดังนั้น จึงขอเตือนรัฐบาลว่า อย่านำรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน และเป็นระเบิดเวลาตัวเอง เหมือนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะดำเนินการอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]

กัมพูชาถือฤกษ์ 15 มิ.ย. ยื่นฟ้อง 4 พื้นที่พิพาทต่อศาลโลกแล้ว

พนมเปญ 15 มิ.ย. – เช้าวันนี้ รัฐบาลกัมพูชา ยื่นจดหมายอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ International Court of Justice (ICJ) เพื่อหาข้อยุติกรณี 4 พื้นที่พิพาท คือ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตากระเบ็ย หรือ ปราสาทตาควาย รวมทั้ง พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต หรือ ช่องบกของไทย รัฐบาลกัมพูชา กล่าวอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อ 63 ปีที่แล้ว คือ วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ซึ่งถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พิพากษาให้กัมพูชา ชนะคดีเขาพระวิหาร โดยระบุว่า แม้เหตุการณ์จะห่างกัน 63 ปี แต่ความมุ่งมั่นและเจตจำนงของกัมพูชา ยังคงเหมือนเดิม คือ กัมพูชาเลือกที่จะใช้สันติวิธีโดยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านกลไกกระบวนการของศาล ICJ เพื่อแก้ปัญหาพิพาทเขตแดนในพื้นที่ที่เป็นจุดเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปะทะกันทางทหาร และเป็นพื้นที่ปัญหาที่ไม่อาจหาข้อยุติได้ด้วยกลไกระดับทวิภาคี ดังเช่น กรณีพื้นที่เขาพระวิหารเมื่อกว่า 60 […]

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]