บรูไน 10 ต.ค. – นายกฯ เผยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ แสดงความเสียใจต่อคนไทยที่สูญเสียจากเหตุความรุนแรงในตะวันออกกลาง เร่งช่วยเหลืออพยพคนไทย ขอให้มั่นใจรัฐบาลทำทุกทางช่วยคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยอมรับกังวลตัวเลขคนไทยเสียชีวิตสูง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างเดินทางเยือนบรูไนดารุสซารามอย่างเป็นทางการว่า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ทรงแสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นขณะนี้ และแสดงความเสียใจที่มีการสูญเสียของคนไทย รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและถูกลักพาตัว เรื่องของความไม่สงบเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ดังนั้น การดูแลผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้ง 2 ประเทศไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่อยากให้เรื่องนี้ยุติด้วยสันติวิธีโดยเร็วที่สุด เพื่อลดการสูญเสียและการบาดเจ็บ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการอพยพคนไทยจากประเทศอิสราเอลว่า ขณะนี้มี 2 ทาง คือ สายการบินพาณิชย์ ที่จะเดินทางออกมาในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 66) และถึงไทยวันที่ 12 ต.ค. 66 จำนวน 11 คน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ต้องเร่งนำกลับมารักษา และจากกองทัพอากาศ โดยเครื่องบินแอร์บัส A340 จะนำคนไทยเดินทางกลับมาอีก 150 คน ในวันที่ 14 ต.ค. และถึงไทยในวันที่ 15 ต.ค.
สำหรับคนไทยที่ไม่ประสงค์เดินทางกลับจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างดีจากสถานทูตฯ แต่คงไม่มีใครรับประกันได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความขัดแย้งนี้จะลุกลามไปมากน้อยอย่างไร ตนเองจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องคิดว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตไปสมทบอีก 4 คน เพื่อประสานงานเรื่องการอพยพ
ส่วนเรื่องคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ความคืบหน้าการช่วยเหลือเป็นอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายการทูต ที่มีความสัมพันธ์กับบุคคล กับหลายๆ รัฐบาล ก็ได้ต่อสายตรงพูดคุยกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคง จึงขอไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่ขอให้มั่นใจว่าทุกทางที่ดำเนินการอยู่ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว และยังคงพยายามอย่างสูงสุด พร้อมคำนึงถึงอิสรภาพและความปลอดภัยของผู้ที่ถูกจับกุมตัวเป็นสำคัญ
สำหรับข้อกังวลสิทธิการช่วยเหลือของผู้ที่เดินทางไปเป็นแรงงานไม่ถูกกฎหมายจะดำเนินการอย่างไร เพราะหลายคนกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้อีก จึงไม่ประสงค์กลับไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องลืมเรื่องนี้ไปก่อน เพราะเรื่องความปลอดภัยของคนไทยในต่างแดนสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและความปลอดภัย ที่ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด
ขณะที่ตัวเลขคนไทยผู้เสียชีวิต ที่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากที่สุดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราเป็นประเทศที่สูญเสียมาก ณ เวลานี้จำนวน 18 คน ขณะที่สหรัฐอเมริกามี 9 คน จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจว่าจะหยุดแค่นี้หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามสถานการณ์ที่อิสราเอลยึดพื้นที่คืน และดูว่ามีผู้หลงเหลือหรือไม่ โดยย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลและละเอียดอ่อนมาก ทั้งนี้ ได้กำชับทางการทูต และการช่วยเหลือในทุกช่องทางและทุกวิถีทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือแรงงานไทยและคนไทยที่อยู่ที่นั่นที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับมาโดยเร็ว ตนเชื่อว่ารัฐบาลไทยมีความพร้อม เพราะไม่ได้เตรียมเฉพาะเครื่องบิน A340 เพียงลำเดียว แต่ยังมีเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ ที่พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเครื่องบินรวมทั้งหมด 5 ลำ สำหรับอพยพคนไทย ส่วนการดูแลหลังจากนี้จะต้องดูแลให้ดีตามกฎหมาย แต่ละคนมีความเสียหายอย่างไร ก็ให้ยึดระเบียบ กฎหมายที่วางไว้.-สำนักข่าวไทย